รีวิวซีรีย์ Hawkeye

Hawkeye Disney+Hotstar ซีรีส์เดี่ยวที่เล่าถึงฮีโร่ในทีมอเวนเจอร์รุ่นแรกเป็นคนสุดท้าย รู้หรือไม่ว่าการที่ภาพยนตร์ในจักรวาล Marvel Heroes ได้รับความนิยมเหมือนกับในปัจจุบันนี้ไม่ได้ง่ายเลยแม้แต่น้อยเพราะทางค่าย Marvel Studio ได้มีการวางแผนในการทำภาพยนตร์ออกมาเป็นจักรวาลฮีโร่เป็นครั้งแรกของโลกใบนี้มาเป็นระยะเวลายาวนานหลายสิบปีแล้วเริ่มต้นจากการปล่อยตัวภาพยนตร์ฮีโร่ที่จะเป็นฮีโร่ก็ไม่ใช่ตัวร้ายก็ไม่เชิงอย่างออกมาให้เราได้รับชมก่อนหลังจากกระแสตอบรับดีเยี่ยมก็มีการสร้างภาคต่อออกมาและมีการนำเอาฮีโร่ตัวอื่นในจักรวาลเดียวกันมาสร้างเป็นภาพยนตร์อีกไม่ว่าจะเป็นไอรอนแมน ธ อร์และกัปตันอเมริกาจากนั้นเราก็จะได้เริ่มเห็นแบล็ควิโดว์ออกมาในภาพยนตร์ ดูหนัง

“สนุก ครบเครื่องความบันเทิงทั้งแอคชั่น ตลก และเข้ากับบรรยากาศของเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่ามาก”

 

Hawkeye เป็นซีรีส์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ Clint Barton 1 ใน 6 สมาชิกรุ่นแรกของ Avengers ซึ่งจะบอกเล่าเรื่องราวหลังจากเหตุการณ์ใน Avengers: Endgame ว่าฮีโร่นักยิงธนูคนนี้ได้รับผลกระทบทั้งด้านร่างกายและจิตใจอย่างไรบ้าง โดยเนื้อหาจะพูดถึงเหตุการณ์ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่พอดี นอกจากนี้ซีรีส์เรื่องนี้ยังมีตัวละครใหม่อย่าง Kate Bishop มาเสริม ซึ่งเคมีเข้ากันมาก ๆ  ดูหนังออนไลน์ 

 

Hawkeye เป็นฮีโร่ที่ไม่ได้มี Super Power ใด ๆ แต่จากหนังของ Marvel Cinematic Universe เรื่องที่ผ่าน ๆ มา ก็จะเห็นได้ว่าเขาเป็น 1 ในตัวละครที่สำคัญของทีม Avengers เรื่องนี้เลยเหมือนหนังจารชนหน่อย ๆ เพราะไม่ได้มีความหวือหวาในแง่ของพลังเหนือมนุษย์มากนัก แต่สำหรับแฟนคลับหนังของ Marvel ก็มีหลายฉาก หลายตัวละคร หลายอีสเตอร์เอ้ก ที่ทำให้หวนคิดถึงเรื่องราวก่อน ๆ และคาดหวังกับเส้นเรื่องในอนาคตได้ไม่ยาก ดูหนัง 4k 

 

รีวิวซีรีย์ Hawkeye

 

เรื่องไอรอนแมนจากนั้นก็จะเริ่มเห็นนิคฟิวรี่ที่มาจากซีรีส์เรื่อง Agent of Shield ได้ทำการรวมทีมฮีโร่จนกลายมาเป็นอเวนเจอร์หนึ่งในฮีโร่ที่ไม่เคยได้รับการพูดถึงในภาพยนตร์เรื่องไหนมาก่อนเลยก็คงจะหนีไม่พ้นนักธนูอย่างฮอว์คอายหลังจากที่ฮีโร่ตัวต่างๆเริ่มมีซีรีส์หรือภาพยนตร์แยกเป็นของตัวเองไม่เว้นแม้กระทั่งตัวละครที่ตายไปแล้วอย่างแบล็คโดว์เองก็ตามไม่เพียงเท่านั้นยังมีการสร้างภาคแยกสร้างภาพยนตร์และซีรีส์เกี่ยวกับมัลติเวิร์สออกมามากมายมีภาพยนตร์เดี่ยวของฮีโร่ใน Marvel เฟส 4 เป็นที่เรียบร้อยแล้วอีกต่างหาก แต่ฮีโร่ที่อยู่กันมาตั้งแต่ในเฟส 1 อย่างฮอว์คอายกลับยังไม่มีอะไรที่เล่าถึงเรื่องราวของเขาโดยตรงเลยแม้แต่น้อยแน่นอนว่ามันทำให้แฟนมาเวลหลายคนตั้งคำถามว่าเพราะเหตุใด Marvel Studio ดูหนังออนไลน์ 4k

 

จบไปหมาด ๆ สำหรับ ‘Hawkeye’ ซีรีส์ซูเปอร์ฮีโรส่งท้ายปีและถือเป็นมาร์เวลออริจันัลซีรีส์ของทางดิสนีย์พลัสเรื่องที่ 5 ต่อจาก ‘Wanda Vision’ ‘Falcon and Winter Soldier’ ‘Loki’ และ ‘What If’ โดย ‘Hawkeye’ เลือกนำเสนอในธีมของซีรีส์ฮีโรคริสต์มาสโดยนำตัวละคร คลินต์ บาร์ตัน ที่รับบทโดย เจเรมี เรนเนอร์ (Jeremy Renner) กลับมาจับธนูอีกครั้งเพื่อสอนบทเรียนการเป็นฮีโรให้กับ เคต บิชอป ที่ได้สาวสวยมากความสามารถอย่าง เฮลีย์ สไตน์เฟลด์ (hailee steinfeld) มาสวมบทลูกศิษย์ของหนึ่งในฮีโรของอเวนเจอร์ส

 

แท้จริงแล้วชายที่สวมชุดโรนินนั้นคือ เคท บิชอป (Hailee Steinfeld จากหนัง Begin Again, Pitch Perfect 2 และซีรีส์ Dickinson ) สาววัย 22 คนที่บังเอิญไปอยู่ในงานประมูลสินค้าอะเวนเจอร์ เพราะติดตามแจ็ค (Tony Dalton จากซีรีส์ Better Call Saul และ Sense8) ชายผู้เข้ามาเกี่ยวพันกับเอเลนอร์ (Vera Farmiga จากซีรีส์ Bates Motel และหนัง The Conjuring ทั้งสามภาค) ผู้เป็นแม่ของเธอ เธอได้สวมชุดนั้นและมันทำให้ได้พบกับคลินต์ ซูเปอร์ฮีโร่ผู้เป็นแรงบันดาลใจตลอดมา รีวิวซีรี่ย์

 

จุดเด่นของ ‘Hawkeye’ คงหนีไม่พ้นการที่มันเป็นซีรีส์ที่พูดถึงฮีโรที่ไม่ได้มีพลังพิเศษอย่างคลินต์ บาร์ตันหรือฮอว์กอาย โดยมีจุดร่วมสำคัญของซีรีส์มาร์เวลที่มีตัวละครจากอเวนเจอร์สในปีนี้คือการยอมรับความสูญเสียหลังเหตุการณ์ใน ‘Avengers Endgame’ ทั้งแวนดา แม็กซิมอฟ (ตัวละครที่รับบทโดยเอลิซาเบธ โอลเซน Elizabeth Olsen) ที่เลือกสร้างโลกจากเวทมนตร์ของเธอเพื่อรับมือกับการสูญเสียคนรัก หรือการที่แซม วิลสัน (รับบทโดย แอนโธนี แมกกี Anthony Mackie) กำลังทำใจรับหน้าที่กัปตันอเมริกาต่อจากสตีฟ โรเจอร์ส

 

รีวิวซีรีย์ Hawkeye

 

ซีรีส์เรื่อง Hawkeye ทำออกมาตอบโจทย์เทศกาลส่งท้ายปีเก่ามาก ๆ ทั้งบรรยากาศเฉลิมฉลอง และผสมผสานกับเสน่ห์ของตัวละคร ทำให้หนังเรื่องนี้ดูแล้วอมยิ้ม มีความสุขได้ไม่ยาก แม้ว่าจะมีพาร์ทที่ปะปนไปด้วยดราม่า แต่ซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังเป็นอะไรที่ดูง่าย บันเทิง ครบเครื่องมาก ๆ ถ้าเทียบกับ Falcon and The Winter Soldier แล้ว เรื่องนั้นจะการเมืองหนักกว่า ทำให้เราได้เห็นการวางธีมของแต่ละตัวละครที่แตกต่างกันของ Marvel

 

จึงได้ละเลยฮีโร่คนนี้มากมายนักแม้ว่าเขาจะไม่ได้มีฐานแฟนคลับเท่ากับฮีโร่ตัวอื่นก็ตาม แต่ในภาพยนตร์เรื่อง Avengers เขาเองก็มีบทบาทที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าใครและแล้วในที่สุดทางหน้าเว็บสตูดิโอก็ได้ทำการสร้างซีรีส์ที่จะมาเล่าถึงเรื่องราวของฮีโร่คนนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในชื่อ Hawkeye โดยชูประเด็นฮีโร่คุณพ่อสุดอบอุ่นที่เราเคยเห็นการเล่าเรื่องราวครอบครัวของเขาผ่านภาพยนตร์รวมทีมอเวนเจอร์หรือภาพยนตร์ของฮีโร่คนอื่นมาแล้วนักต่อนักทำให้มันดูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นไปอีกประกอบกับที่ทาง Marvel ตัดสินใจทำให้เรื่องราวของเขาเป็นซีรีส์อาจเป็นการชดเชยที่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้ให้ความใส่ใจกับฮีโร่ตัวนี้เท่าที่ควรดังนั้นจึงจัดเรื่องราวของเขามาให้เรารับชมแบบเต็มอิ่มก็เป็นได้ดังนั้นหากใครที่เป็นแฟนคลับของฮีโร่ตัวนี้แล้วล่ะก็ไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้โดยเด็ดขาด

 

รีวิวซีรีย์ Hawkeye

 

สำหรับบาร์ตัน นอกจากภาวะหูดับที่เป็นผลมาจากการต่อสู้แล้วเขายังต้องทำใจรับการสูญเสียนาตาชา โรมานอฟ (รับบทโดย สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน Scarlett Johansson) และกลับมารับเกียรติที่เขาคิดว่าตัวเองไม่สมควรได้รับจากการช่วยกอบกู้โลก ดังนั้นตอนแรกของซีรีส์เลยมีฉากที่บาร์ตันไปชมมิวสิคัลชื่อ ‘Rogers The Musical’ ที่ทำเพื่อยกย่องสตีฟ โรเจอร์สและเหล่าเอเวนเจอร์ส และบาร์ตันเลือกที่จะปิดเครื่องช่วยฟังเพื่อปิดการรับรู้ก็ถือเป็นฉากที่แสดงให้เห็นปมในใจบาร์ตันได้อย่างชัดเจน

 

Hawkeye เป็นซีรีส์ที่จะเล่าถึงเรื่องราว 1 ในทีมฮีโร่อเวนเจอร์ที่อยู่มาตั้งแต่ยุคแรกอย่างฮอว์คอายอย่างที่เราทราบกันดีว่าเขานั้นเป็นหนึ่งในฮีโร่ของทีมอเวนเจอร์ที่มีครอบครัวตั้งแต่เริ่มต้นโดยมีภรรยาและลูกสาว 1 คนอาศัยอยู่ในบ้านกันอย่างมีความสุขในซีรีส์เรื่องนี้จะเล่าถึงเรื่องราวช่วงหลังเหตุการณ์ในภาพยนตร์เรื่อง End Game มีเด็กสาวคนหนึ่งที่ชื่อว่าเคทเธอเป็นผู้รอดชีวิตที่สามารถเอาตัวรอดจากการทำลายล้างนิวยอร์กในภาพยนตร์อเวนเจอร์ภาคแรกได้สำเร็จและมันก็ได้ผลักดันให้เธอนั้นเรียนการต่อสู้ 2 ปีต่อมาในช่วงใกล้สิ้นปีเธอมีอายุครบ 22 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้วเธอตัดสินใจเดินทางกลับมายังบ้าน

 

แต่กระนั้นแล้วศูนย์กลางของเรื่องก็ไม่ได้อยู่ที่บาร์ตันเสียทีเดียวแม้จะมีเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ระยะเวลาของเรื่องราวในซีรีส์คือ 5 วันก่อนคริสต์มาสที่บาร์ตันต้องกลับไปที่บ้านตามสัญญากับครอบครัว แต่กลับเป็นเคต บิชอป ลูกสาวมหาเศรษฐีที่ต้องสูญเสียพ่อไปในสงครามสมรภูมินิวยอร์ค (เหตุการณ์ใน The Avengers ปี 2012) และภาพของบาร์ตันในนามฮอว์กอายที่ทิ้งดิ่งจากตึกแล้วยิงธนูใส่พวกเอเลียนก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เธอเดินตามรอยนักธนูแบบเขาเพื่อหวังจะได้กลายเป็นฮีโรในสักวัน

 

เพื่อหาแม่หลังจากที่ก่อเรื่องไว้ที่มหาลัยและมันก็ทำให้เธอได้ค้นพบว่าปัจจุบันแม่ของเธอได้กลายเป็นเศรษฐีรวยที่คบอยู่กับเศรษฐีลึกลับไม่น่าไว้วางใจคนหนึ่งที่มีชื่อว่าแจ็คเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เธอได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับความลับดำมืดบางอย่างที่เกือบทำให้เธอนั้นเอาชีวิตไม่รอดโชคดีที่ฮอว์คอายได้เข้ามาช่วยเหลือเธอไว้ทันเวลาทำให้เธอสามารถเอาชีวิตรอดออกมาได้ในที่สุด แต่มันก็ทำให้ทั้งสองคนจําเป็นต้องร่วมมือกันหนีจากศัตรูที่ตามไล่ล่าอย่างเอาเป็นเอาตายท่ามกลางคืนที่โหดร้ายให้สำเร็จและหลังจากนั้นมันก็ทำให้ทั้งคู่ต้องร่วมชะตากรรมเดียวกัน

 

จึงเกิดเป็นเรื่องราวแนวครูกับลูกศิษย์ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันและความสนุกของซีรีส์ก็มาจากช่วงของการเรียนรู้กันและกันของตัวละครนี่แหละครับ และในขณะที่บาร์ตันห่างจากครอบครัวตัวเองเขาก็ได้มีส่วนเติมเต็มให้เคตที่สูญเสียพ่อไปในเหตุการณ์ที่นิวยอร์ก และซีรีส์ก็ชาญฉลาดมากที่ใช้เหตุการณ์สูญเสียของเคตมาเป็นตัวเปรียบเทียบกับกรณีของมายา (รับบทโดย อาลาคัว คอกซ์ Alaqua Cox) ที่พ่อของเธอถูกโรนินฆ่าตายต่อหน้าต่อตา จนทำให้เธอกลายเป็นผู้นำของกลุ่มมาเฟียรัสเซียชุดวอร์มที่คอยตามล่าเคตเพราะเข้าใจว่าเธอคือโรนินหลังจากเธอเอาชุดมาสวมในเหตุชุลมุนนั่นเอง

รีวิวซีรีย์ Hawkeye

ฮอว์คอายได้ให้หญิงสาวไปกบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยส่วนตัวของเขาได้เดินทางไปยังสถานที่แห่งหนึ่งเพื่อตามหาของมันก็ทำให้เขานั้นต้องพบเจอกับเรื่องที่คาดไม่ถึงจนต้องยอมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อให้ได้ของที่ต้องการมาในขณะเดียวกันเองหญิงสาวก็เริ่มสงสัยแล้วว่าเรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้นนั้นต้นเหตุอาจเกิดมาจากแฟนของแม่เธอก็เป็นได้เรื่องราวของทั้งคู่จะเป็นอย่างไรต่อไปต้องติดตามรับชมกันต่อในซีรีส์

 

ซึ่งเอาจริง ๆ มันก็สร้างช่องโหว่ให้พลอตอย่างช่วยไม่ได้เหมือนกันนะครับเพราะหากมายากับพรรคพวกฉลาดจริงก็น่าจะสังเกตได้ตั้งแต่แรกแล้วว่ารูปพรรณสัณฐานของเคตและท่าทางการต่อสู้ของเธอไม่ได้ใกล้เคียงกับโรนินเลยด้วยซ้ำ แต่ซีรีส์ก็พยายามเอาตัวรอดไปได้ด้วยการให้พลพรรคเหล่ามาเฟียชุดวอร์มเป็นตัวร้ายแนวตลกแทนเพื่อลดโทนความจริงจังลง

 

 

เป็นซีรีส์ที่ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้เป็นแฟนคลับฮอว์คอาย แต่เป็นแฟนคลับฮีโรในจักรวาล Marvel Heroes ก็จะต้องนอย่างแน่นอนเพราะซีรีส์เรื่อง Hawkeye เล่นเหมือนกับการที่เราได้รับชมภาพยนตร์ Marvel Hero แต่เป็นภาพยนตร์ตอนยาวหลายชั่วโมงเพราะมันนำเสนอออกมาในรูปแบบของซีรีส์และสำหรับใครที่เป็นแฟนคลับฮีโร่ตัวนี้อยู่แล้วรับรองเลยว่าคุณจะต้องฟันแบบสุดใจอย่างแน่นอนและสำหรับใครที่เป็นแฟนคลับฮีโร่ตัวนี้อยู่แล้ว

 

รับรองเลยว่าคุณจะต้องฟันแบบสุดใจอย่างแน่นอนเพราะเราจะได้รับชมเรื่องราวของเขาแบบเต็ม ๆ โดยที่ไม่มีฮีโร่ตัวอื่นมาบดบังรัศมีของเขาอีกต่อไปเพราะต้องยอมรับเลยว่าก่อนหน้านี้ที่เขาไม่ค่อยได้รับแสงสปอร์ตไลท์เนื่องจากเขานั้นเป็นฮีโร่ที่พึ่งพาความสามารถในการต่อสู้ด้วยการยิงธนูของตนเองล้วนๆไม่ได้มีพลังวิเศษหรือมีเบื้องหลังที่น่าสนใจ แต่อย่างใดสำหรับคนที่รับชม แต่ภาพยนตร์ไม่ได้อ่านคอมมิคซีรีส์เรื่องนี้สามารถสานต่อเรื่องราวของตัวละครตัวนี้ได้อย่างกำลังพอดีนักแสดงแต่ละคนนั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมากสามารถแสดงออกมาได้อย่างสมจริง

 

ฮอว์คอายในแบบฉบับซีรีส์นี้ ดูแตกต่างออกไปจากที่เห็นยามรวมทีมอเวนเจอร์สในหนังพอสมควร อาจเพราะช่วงเวลานั้น บ้านเมืองในนิวยอร์กเต็มไปด้วยหิมะ การประดับประดาด้วยไฟหลากสีเพราะกำลังเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาส ซีรีส์จึงออกมาในโทนครอบครัว เรื่องราวจึงเดินไปอย่างสบาย เล่าเรื่องราวไม่ซับซ้อน มีมุกตลกๆ แทรกเข้ามาเป็นระยะ แถมยังมีเจ้าหมาน้อยโกลเด้นแสนรู้เข้ามาสร้างสีสัน ขณะที่คาแรกเตอร์ของตัวละครใหม่อย่าง เคท บิชอป ก็เล่าเรื่องกันตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงได้พบมาเจอกัน ด้วยบุคลิกที่เป็นสาวที่เด็ดเดี่ยวมุ่งมั่น มีความขวางโลกแต่ก็มั่นใจในตนเอง เคยก่อเรื่องอย่างการยิงธนูพังหอนาฬิกามาก่อน แต่ก็เพราะมีครอบครัวที่ร่ำรวยพอตัวเลยช่วยเอาไว้ได้ ซึ่งก็ดูว่าการเลือก เฮย์ลี สไตน์เฟลด์ มารับบทนี้ค่อนข้างเหมาะสม

 

และแม้ว่าองค์ประกอบต่าง ๆ จะเอื้อเหลือเกินให้ ‘Hawkeye’ กลายเป็นซีรีส์ฮีโรแนวครอบครัวแต่เมื่อซีรีส์พยายามขมวดปมในช่วงตอนที่ 5 กับตอนที่ 6 ที่สร้างกระแสในอินเทอร์เน็ตมากมายและสร้างการคาดการณ์ไปต่าง ๆ นานาปรากฎว่าตัวละครที่ีมีที่มาดำมืดที่สุดอย่างมายากลับขาดความน่าสนใจไปอย่างน่าเสียดายยิ่งเธอกำลังถูกวางให้รับบทนำในซีรีส์ ‘Echo’ ซึ่งจะสร้างมาจากตัวละครของเธอแล้วก็ยิ่งทำให้เห็นว่า ‘Hawkeye’ ยังนำเสนอตัวละครของเธอได้ไม่ดีเท่าที่ควร