รีวิวซีรี่ย์ ปรมาจารย์ลัทธิมาร The Untamed
ชื่อเรื่องแปลตรงตัวมาจากต้นฉบับนิยายเรื่อง ม๋อเต้าจู่ซือ (Mo Dao Zu Shi) เป็นผลงานเขียนโดย โม่เซียงถงซิ่ว นักเขียนชาวจีนที่เขียนนิยายทางออนไลน์ แล้วประสบความสำเร็จมาก จึงได้ตีพิมพ์แล้วกลายเป็นนิยายขายดี ส่วนในประเทศไทยได้ลิทสิทธิ์ฉบับแปลไทยแล้วโดย สนพ.เบเกอรี่บุ๊คส์ ทั้งหมด 5 เล่มจบ รีวิวซีรี่ย์ ปรมาจารย์ลัทธิมาร The Untamed ดูหนัง
เรื่องราวเกี่ยวกับตำนานความรักและความแค้นของเหล่าเซียน โดยเน้นที่ ปรมาจารย์อี๋หลิง เว่ยอู๋เซี่ยน ซึ่งถูกเรียกว่าเป็น ปรมาจารย์ลัทธิมาร แต่ว่าเดิมทีเขาเป็นชายหนุ่มกำพร้าที่ถูกรับเลี้ยงจากตระกูลเจียง ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ตระกูลใหญ่ที่สืบทอดวิชาแนวทางพรตเต๋า ได้แก่ เจียง หลาน จิน เนี่ย เวิน ซึ่งตัวของเว่ยอู๋เซี่ยนถูกส่งไปฝึกวิชาที่ตระกูลหลาน แล้วเขาก็ได้พบกับ หลานวั่งจี (หลานจ้าน) ผู้ซึ่งจะกลายเป็น “คู่ทางวิญญาณ” ที่ผูกพันกันไปตลอดชีวิต ดูหนังออนไลน์
แต่แล้วชะตาชีวิตของเว่ยอู๋เซี่ยนก็ต้องพบจุดพลิกผัน เมื่อเขาได้คิดแนวทางการใช้พลังจากจิตคลั่งแค้นของเหล่าวิญญาณอาฆาต เพื่อนำพลังด้านลบเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ แต่แนวคิดนี้ทำให้เขาถูกมองว่าเป็นวิชานอกรีต ซึ่งต่อมา สกุลเวิน ก็ได้เริ่มขยายอำนาจขึ้นมาครองความเป็นใหญ่ บีบให้สกุลอื่นต้องยอมจำนน นำไปสู่สงครามและแผนการมากมาย ดูหนัง 4k
เว่ยอู๋เซี่ยนซึ่งรับพลังของเหล่าวิญญาณอาฆาตก็ได้สิ้นชีพลง จากนั้น 13 ปีต่อมา โม่เสวียนอวี่ ชายหนุ่มซึ่งกดขี่ข่มเหงมาตลอด และพกพาความแค้น ก็ได้พบชะตาพลิกผันเมื่อเขาได้อัญเชิญวิญญาณร้ายเข้าสู่ร่างตนเองเพื่อทำเป้าหมายให้ วิญญาณของเว่ยอู๋เซี่ยนจึงถูกเรียกกลับคืนมาในร่างโม่เสวียนอวี่ เพื่อกลับมาสะสางเรื่องราวต่าง ๆ อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เขาต้องหาทางเอาตัวรอดและปิดบังตัวตนเอาไว้ รวมถึงคู่รักคู่แค้นอย่าง หลานวั่งจี ดูหนังออนไลน์ 4k
สำหรับฉบับซีรีส์ ได้มีการดัดแปลงบางส่วนจากต้นฉบับนิยาย ที่แน่ ๆ คือมีการ ลดความ Y ลงมา เนื่องจากรัฐบาลจีนมีการออกมาตรการจำกัดและควบคุมเนื้อหาที่สื่อในด้านนี้อย่างจริงจัง ทำให้การนำเสนอในซีรีส์แม้เราจะรู้สึกได้ถึงพลัง Y ระหว่างสองตัวเอกอย่าง เว่ยอู๋เซี่ยน และ หลานวั่งจี รีวิวซีรี่ย์
แต่ก็ไม่ได้มีฉากประเภทอย่างที่ว่าออกมาให้เห็นเรียกว่าทำมาให้แฟน ๆ ได้จิ้นวายกันสนุกสนาน และเป็นคู่วายแบบทางการ ซึ่งในเรื่องแม้จะมีตัวละครหญิงอยู่ด้วย แต่ก็ไม่ใช่นางเอกของเรื่อง ซีรีส์เรื่องนี้จึงเป็นการสนอง Need ให้แฟนนิยาย และคนที่ไม่เคยอ่านนิยายมาก่อนได้ระดับหนึ่ง
The untamed ปรมาจารย์ลัทธิมาร ซีรีส์จีนที่ทำให้หลายคนยังหลงอยู่ในกูซู ในปัจจุบันนี้ซีรีส์วายหรือซีรีส์แนวชายรักชายนั้นได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น ส่วนใหญ่แล้วซีรีส์เหล่านี้มักจะหยิบยกนำเอานวนิยายชายรักชายชื่อดังยอดนิยมมาดัดแปลงให้กลายเป็นบทซีรีส์แล้วนำเสนอในรูปแบบฉบับคนแสดง ซึ่งแน่นอนว่าการนำเอานวนิยายชื่อดังมาดัดแปลงนั้นย่อมสามารถสร้างความสนใจให้กับกลุ่มผู้รับชมได้อยู่แล้ว
ในประเทศไทยนั้นอดีตนวนิยายชายรักชายเคยเป็นของผิดกฎหมายที่มีการตามจับของตำรวจมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ในปัจจุบันมีการเปิดกว้างขึ้นเป็นอย่างมาก สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านหนังสือชั้นนำ แถมยังหารับชมซีรีส์ได้ทั้งบนโทรทัศน์หรือตาม Application ชื่อดังต่างๆ
ซีรีส์เรื่องนี้สามารถเล่าเรื่องราวออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบและเต็มไปด้วยความกลมกล่อม ทำให้สามารถดึงดูดแฟนชาวไทยให้รับชมและสมัครเป็นแฟนคลับได้ไม่ยาก ทำให้ขณะที่ฉายซีรีส์เรื่องนี้โด่งดังเป็นอย่างมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่เมื่อวันออกฉายมาถึงเมื่อไรจะไปติดแท็กฮิตยอดนิยมในประเทศทุกครั้ง
แต่ด้วยความที่ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนวนิยายที่มีเป็นจำนวนถึง 4 เล่นด้วยกันทำให้เรื่องราวบางช่วงที่อาจจะไม่ได้มีความสำคัญหรือส่งผลกระทบต่อเส้นเรื่องหลักอาจจะไม่ได้หยิบยกนำเอามาเล่าในซีรีส์เรื่องนี้ แต่หากต้องการรับชมก็สามารถรับชมแบบเต็มๆ ได้ในฉบับอะนิเมชั่นที่เคยออกฉายมาก่อนหน้านี้แล้วและได้รับความนิยมไม่แพ้กัน
เรื่องนี้จะเล่าถึงเรื่องราวของเว่ยอิง หรือ เว่ยอู๋เซียน และ หลานจ้าน หรือ หลานวั่งจี (หานกวงจิน) เรื่องราวเริ่มต้นจะเล่าถึงตระกูลเซียนที่ทำหน้าที่ปราบผีและปิศาจ มีทั้งหมด 5 ตระกูล ตระกูลหลาน ตระกูลเจียง ตระกูลเนี่ย ตระกูลจิน และตระกูลเวิน ทุกตระกูลอยู่กันอย่างสงบสุข จนเมื่อตระกูลเวินคิดเป็นใหญ่ ใช้วิชามารเพื่อควบคุมตระกูลต่าง ๆ โดยอาศัยการใช้พลังจากเศษชิ้นส่วนของเหล็กทมิฬที่มีพลังมหาศาล
ผู้ครอบครองจะมีพลังอำนาจและสามารถใช้วิชามารเพื่อความคุมผู้คนและศพได้ เหตุนี้ทำให้ตระกูลเซียนอื่น ๆ ต้องหาวิธีเพื่อมาปราบตระกูลเวินลงให้ได้ เหตุนี้ทำให้เว่ยอิงและหลานจ้านได้ร่วมมือกันเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อปราบตระกูลเวินลงให้ได้ รวมถึง 4 ตระกูลใหญ่ที่เหลือต่างก็หาวิธีกำจัดตระกูลเวิน แต่มันก็ยากเหลือเกินในการจะปราบตระกูลเวินที่ยิ่งใหญ่ อีกทั้งยังได้ครอบครองเหล็กทมิฬ
จนกระทั่งเว่ยอิงได้เจอกับดาบ (ดาบเป็นชิ้นส่วนของเหล็กทมิฬ) ที่ใช้สะกดเต่าถูลู่เสวียนอู่ไป และได้ดาบนั้นไปทำหินพยัคฆ์ทมิฬ ทำให้เว่ยอิงสามารถเรียกใช้ภูมิผี ให้ทำตามที่ตัวเองต้องการได้ ด้วยเหตุนี้แม้เว่ยอิงจะมีส่วนในการช่วยปราบตระกูลเวิน ที่ตระกูลอื่น ๆ เห็นว่าเว่ยอิงใช้วิชานอกรีต เมื่อกำจัดตระกูลเวินได้คนต่อไปที่ต้อกำจัดก็คือตัวเว่ยอิงเอง
รวมถึงเว่ยอิงยังได้ใช้วิชานอกรีตเพื่อช่วยสมาชิกตระกูลเวินที่รอดชีวิตเพราะคิดว่าคนเหล่านั้นไม่ได้ทำผิดอะไร ผิดเรื่องเดียวเพียงแค่เค้าเกิดมาในตระกูลเวิน เว่ยอิงยืนยันจะช่วยชีวิตคนในตระกูลเวินที่รอดชีวิตทุกคน แต่หลานจ้านกลับห้ามไม่ให้ทำ เพราะไม่อยากยืนอยู่คนล่ะฝั่งกับเว่ยอิง แต่ไม่มีใครหยุดเว่ยอิงได้ เพราะเค้าเชื่อว่ากำลังทำสิ่งที่ถูก จนเมื่อทุกอย่างเลวร้ายขึ้น
เว่ยอิงหยุดทุกอย่างลงด้วยความตายของตัวเขาเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่เคยมีใครพบศพของเว่ยอิงเลย บางคนก็บอกว่าเค้าตายไปแล้ว บางคนบอกว่าเค้าแค่หายไป แต่ไม่ว่ายังไงก็ยังมีคน ๆ หนึ่งที่รอและพยายามตามหาเสมอ คน ๆ นั้นก็คือหลานจ้าน ที่เดินทางไปทั่วทุกทิศทาง
เพื่อเล่นฉินเพื่อสอบถามวิญญาณที่พบเจอโดยหวังว่าวันหนึ่งเค้าได้ได้เจอกับวิญญาณของคนที่เฝ้าคะนึงหา จน 16 ปีผ่านมีการอัญเชิญวิญญารชัวร้ายเพื่อมาแก้แค้น และวิญญาณที่อันเชิญมาก็คือปรมารจารย์อี้หลิง หรือเว่ยอิงนั้นเอง ในที่สุดการรอคอยตลอด 16 ปีของหลานจ้านก็สิ้นสุดลง พวกเขาได้พบกันอีกครั้ง และได้เริ่มออกท่องยุทธภพอีกครั้งเพื่อสืบหาว่าใครเป็นคนอัญเชิญวิญญารของเว่ยอิงกลับมา ไปติดตามเรื่องราว 16 ปีต่อมาได้ในซีรีย์นะคะ
ซีรีส์ดำเนินไปในลักษณะตัวเอกคู่ เล่าเรื่องราวของ เว่ยอิง หรือ เว่ยอู๋เซียน (เซียวจ้าน 肖战 ) จากตระกูลเจียง แห่ง อวิ๋นเมิ่ง หนุ่มรูปงาม ยอดอัจฉริยะและจิตใจดี กับ หลานจ้าน หรือ หลานวั่งจี (หวังอี้ป๋อ 王一博) จากตระกูลหลาน แห่ง กูซู หนุ่มรูปงามที่แสนเย็นชาและเคร่งครัดกฎระเบียบ เป็นคู่หูตระกูลเซียน ที่มีปณิธานเดียวกันตั้งแต่รุ่นหนุ่มคือ “กำจัดคนชั่ว ช่วยเหลือผู้อ่อนแอ ไร้เรื่องละอายใจ”
งานกำจัดคนชั่วช่วยผู้อ่อนแอของสองคนนี้ เริ่มจากการตามหาชิ้นส่วนของเหล็กทมิฬ เพื่อผนึกมันไว้ให้ห่างไกลจากเงื้อมือของ เวินรั่วหาน ประมุขตระกูลเวินที่พยายามจะรวมเหล็กทมิฬเพื่อหวังจะครอบงำเหล่าตระกูลเซียนอื่น ๆ ซึ่งมีตระกูลใหญ่ที่เป็นตระกูลสำคัญในเรื่องคือ หลาน เจียง จิน เนี่ย เวิน ทั้งสองคนผ่านอุปสรรคมากมายมาด้วยกันจนเป็น สหายสนิท แต่แล้ววันหนึ่ง เว่ยอิง มีเหตุให้ต้องไปฝึกวิชาพิสดารที่เขาคิดค้นขึ้นเองและสร้าง ตราพยัคฆ์ทมิฬ ขึ้นมาเพื่อหวังจะจัดการกับศัตรู
เขาถูกใส่ร้ายและต้องพบกับเรื่องราวที่ทำให้ บุรุษหนุ่มต้องจบชีวิตตัวเองอย่างระทมทุกข์ที่ ปู่เย่เทียน สร้างความเสียอกเสียใจให้ หลานจ้าน เป็นอย่างมาก 16 ปีผ่านไป (ตามไทม์ไลน์ซีรีส์) โม่เสวียนอี่ ใช้อาคมสละชีพแลกวิญญาณกับ เว่ยอิง ให้ฟื้นคืนชีพเพื่อมาแก้แค้นและไขปมปริศนา การรอคอยสหายสนิทเป็นเวลาสิบกว่าปีของหลานจ้าน ก็สมหวัง
สองคนจับมือกันร่วมแก้ไขสถาณการณ์ต่าง ๆ ปมปริศนาฆาตกรรมคลายออก คนร้ายตัวจริงถูกเปิดเผย จบจ้ะ …จริง ๆ แล้วเนื้อหามันก็คือ ซีรีส์กำลังภายในท่องยุทธจักร มีฝ่ายธรรมะลวงโลกและฝ่ายอธรรมจำเป็น แต่ทำไมซีรีส์เรื่องนี้ถึงดังเปรี้ยงจนทำเอาเด็กหนุ่มสองคนเป็นที่รู้จักทั่วเอเชียในพริบตา
เมื่อนำนิยายมาทำเป็นละครโทรทัศน์ แน่นอนว่าการเขียนบทให้ถ่ายทอดออกมาได้กินใจผู้ชมและไม่กระทบกับบทประพันธ์ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าละครเรื่องนั้นนำมาจากนิยาย Boy Love ที่โด่งดัง มิหนำซ้ำประเทศผู้ผลิตยังไม่เปิดกว้างให้ทำออกมาอย่างเสรี
เมื่อเราต้องอยู่ในกรอบเราก็ต้องสวยที่สุด เหมือนภาพวาดสวยงามที่ศิลปินสร้างขึ้นจริงไหมคะ บทจึงมีการปูความสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบ นำเสนอมุมมองความรักในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในครอบครัวของแต่ละตระกูล มิตรภาพที่เป็นรักแท้แบบไม่มีอะไรกั้น (แต่ไม่หยุด) ของเว่ยอิงและหลานจ้านที่ต่างคนต่างเชื่อในความดีซึ่งกันและกัน
ตัวละครทุกตัวมีเหตุและผลของการกระทำที่เป็นไปได้ ไม่มีการกระทำของตัวละครตัวไหนไร้เหตุผล ทุกคนมีบทบาทความสำคัญที่จะโยงใยไปถึงเหตุอันน่าจะเป็นภายในเรื่อง ที่จะเปิดเผยที่มาที่ไปของตัวละครตัวอื่นในฉากต่อ ๆ ไป จนถึงกับเรียกได้ว่าเราจะข้ามซีนไหนไปไม่ได้เลย
ชมจริงจังกับการถ่ายทอดในซีนต่าง ๆ ของผู้กำกับ การแสดงออกทางสีหน้า ท่าทางและแววตาของตัวละครอยู่ในขั้นละเมียด กลมกลืน เป็นศิลปะการนำเสนอที่หลีกเลี่ยงความ Y ไปอย่างไร้ข้อกังขา แปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพความรักระหว่างสหาย เล่นแร่แปรธาตุจาก Y กลายเป็นความสัมพันธ์ละมุนละม่อมจนเราเผลอยิ้มให้กับมิตรภาพที่อยู่ตรงหน้าบ่อย ๆ
รีวิวซีรี่ย์ ปรมาจารย์ลัทธิมาร The Untamed
เรื่องนี้กล่าวถึงจีนโบราณ อุปโลกขึ้นมาให้เป็นยุคที่มีเซียนขี่กระบี่ เซียนในที่นี้คือคนที่ฝึกวิชาจนเป็นมนุษย์พิเศษที่สามารถปราบภูตผี เขียนยันต์ มีลมปราณขั้นสูงสุดที่เรียกว่า จินตาน ขับเคลื่อนพลังวิญญาณ ใช้กระบี่และเครื่องดนตรีคือ กู่ฉิน 7 สายและขลุ่ยในการต่อสู้ เป็นการนำความเชื่อเดิมของจีนโบราณที่เชื่อว่าการฟังหรือบรรเลง กู่ฉิน จะสามารถเข้าไปสัมผัสในส่วนจิตของผู้ฟัง มากกว่านั้นยังสามารถรักษาและทำลายได้แบบต่างกรรมต่างวาระ คือจะใช้มันเพื่ออะไรก็บิดไปได้ตามสันดาน
ซึ่งผู้บุกเบิกอาวุธระรื่นหูชนิดนี้คงหนีไม่พ้น จูกัดเหลียง หรือ ขงเบ้ง แห่ง สามก๊ก หากใครเคยอ่านวรรณกรรมเพชรน้ำเอกของโลกชิ้นนี้จะจำได้ว่า ขงเบ้งก็ใช้กู่ฉินบรรเลงบนกำแพงเมืองเพื่อลวงสุมาอี้จนสำเร็จมาแล้ว (มีผลงานวิจัยเรื่องสามก๊ก กู่ฉิน ในสายธารแห่งอารยธรรมมังกร วิจัยมาแล้วว่าเครื่องดนตรีที่ขงเบ้งใช้ คือ กู่ฉิน)
ในซีรีส์จีนโบราณเรื่องอื่น ๆ อย่าง มังกรหยก ของ กิมย้ง เราจะเห็นฉินเป็นตัวทำลายล้างซะมากกว่า แต่ปรมาจารย์ลัทธิมารสามารถทำให้เราเห็นอีกด้านของฉินที่หลานจ้านบรรเลงบทเพลงชิงซิน (ชำระใจ) เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยหรือสงบจิต แม้กระทั้ง ขลุ่ย ที่เว่ยอิงใช้ ก็ยังเป็นสัญลักษณ์แสดงตัวตนถึงความเรียบง่ายของตัวละครตัวนี้ได้อย่างตรงไปตรงมา ถือเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมจีนออกสู่สายตาชาวโลกได้อย่างแยบยล
ถือเป็นแง่งามอีกมุมหนึ่งที่ขอใช้คำว่า งามหยดย้อย การดูเบื้องหลังการถ่ายทำของซีรีส์เรื่องนี้ ในส่วนของอุปกรณ์ประกอบฉากทำให้เกิดความรู้สึกอิ่มสุข นี่เรากำลังดูการสร้างสรรค์งานศิลปะอยู่ชัด ๆ ไม่เสียแรงที่ประเทศจีน เป็นประเทศอันดับต้น ๆ ของวงการศิลปะโลก และซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เราประจักษ์ได้ว่าคำกล่าวนั้นไม่เคยเกินจริง
เพลงประกอบภาพยนตร์ เพลงประกอบละครต่าง ๆ แน่นอนว่าจะบอกเล่าเรื่องราวนั้น ๆ ให้ครอบคลุมเนื้อเรื่อง หรือเจาะเข้าไปกลางใจของตัวแสดงเอก แต่ปรมาจารย์ลัทธิมารทำให้เพลงประกอบมีความหมายลึกซึ้งมากขึ้นไปอีก เพราะนอกจากจะมีเพลง อู๋จี ที่เป็น Theme Song ของเรื่องแล้ว ยังแยกย่อยเป็นเพลง Character Song อธิบายความรู้สึกภายในใจของตัวแสดงหลักทุกตัวเอาไว้อีกด้วย
เป็นที่ทราบกันดีของแฟนซีรีส์นะคะ ว่าปรมาจารย์ลัทธิมาร มีอะไรให้ดูมากกว่าซีรีส์ที่จบไปแล้ว โดยการสร้างภาคแยกออกมาเป็นรูปแบบภาพยนตร์ ความยาว 1ชั่วโมง 20 นาที คือ ภาคลมหายใจขุนพลผี (The living dead) เล่าเรื่องราวของ เวินหนิง (อวี๋ปิน 于斌) ขุนพลผีคู่กาย เว่ยอิง ที่หลังจากเสร็จภารกิจแล้วก็ควงคู่ หลานซือจุย (เจิ้งฝานซิง 郑繁星 ) หรือ อาเยวี่ยน ที่สำเร็จวิชาจากกูซูยูนิเวอร์ซิตี้แล้ว ก็
และ ภาควิญญาณอาฆาตแห่งชิงเหอ (Fatal Journey) อ่านรีวิวได้ที่นี่ เล่าเรื่องราวของสองพี่น้องตระกูลเนี่ย เนี่ยหมิงเจวี๋ย (หวังอี้โจว 王翌舟) และ เนี่ยหวายซัง (จี้หลี 纪李) เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์พี่น้อง และการกำราบวิญญาณดาบ เรื่องนี้มันมาก ๆ และซาบซึ้งมาก ๆ เช่นกัน ประมุขเนี่ยเท่สุด ๆ ไปเลยจ้ะ ในภาคนี้เปิดเผยเรื่องราวก่อนตายของ เนี่ยหมิงเจวี๋ย และการกระทำของ เนี่ยหวายซัง ในซีรีส์หลักเอาไว้อย่างถึงบางอ้อ
ซีรีส์เรื่องนี้แคสต์นักแสดงได้ถูกใจประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนักแสดงหลักอย่าง เซียวจ้าน ที่คาแร็กเตอร์ของ เว่ยอิง ทำให้นึกถึง เล่งฮู้ชง ใน กระบี่เย้ยยุทธจักร เอามาก ๆ เด็กกำพร้าที่ งักปุ๊กคุ้ง เจ้าสำนักหัวซาน เก็บมาเลี้ยง ฉลาด ช่างพูด ชอบเฮฮา ร่ำสุราเป็นอาจิน มันแวบขึ้นมาเลยแล้วก็ไม่ทันจะขาดคำ เซียวจ้าน ก็ไปโผล่ในโฆษณาเกมกระบี่เย้ยยุทธจักรกันซะแล้ว
ก็แสดงว่าซีรีส์เรื่องนี้อาจมีแรงบันดาลใจมาจากนิยายกำลังภายในของ กิมย้ง อยู่ไม่น้อย เพราะหลาย ๆ อย่างมันสะกิดต่อมให้นึกถึงอยู่เป็นระยะ ๆ ทั้งคาแร็กเตอร์ของ หลานจ้าน ที่หวังอี้ป๋อรับหน้าที่นี้ไป ก็ไปคล้ายกับ เซียวเหล่งนึ่ง สตรีที่งดงามปานเทพธิดา สงบเยือกเย็น บริสุทธิ์ดังหิมะ และเย็นชาราวน้ำแข็ง จากมังกรหยก (มันเหมือนจริง ๆ นะ)
แต่ไม่ใช่เฉพาะตัวแสดงหลักเท่านั้นนะคะ นักแสดงทุกคนที่เข้าฉากไปจนถึงนักแสดงประกอบตัวเล็ก ๆ ก็ไม่รู้สึกว่าเป็นจุดบอดหรือขัดหูขัดตาอะไร แน่นอนว่าตัวแสดงหลักเป็นพลังหลักในการขับเคลื่อนให้ซีรีส์เรื่องนี้ไปถึงจุดหมาย แต่ฟันเฟืองอื่น ๆ ก็มีความสำคัญไม่ต่างกัน ซีรีส์เรื่องนี้จึงเป็นซีรีส์ที่มีแง่งามแห่งศาสตร์และศิลป์แฝงอยู่อย่างเต็มเปี่ยม