รีวิวซีรี่ย์ Archieve 81
ซีรีสสร้างจากพอดคาสต์ที่มีชื่อเดียวกัน หนังฟรี เป็นซีรีส์แนวลึกลับสยองขวัญของ Rebecca Sonnenshine โปรดิวเซอร์ The Boy ซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่สุดโหดของ Amazon Prime เขียนบทโดย Paul Harris Boardman ดูหนัง ที่มีผลงานแนวสยองขวัญมาตลอดอย่าง Hellraiser: Inferno The Exorcism of Emily Rose กำกับโดย Rebecca Thomas หนึ่งในผู้กำกับซีรีส์ Stranger Things อำนวยการสร้างโดย James Wan หนังใหม่ นี่จึงเป็นการรวมตัวของทีมแนวสยองขวัญโดยเฉพาะ ดูหนังออนไลน์ ซึ่งก็ส่งผลให้เห็นถึงผลงานที่ออกมาว่าเป็นเหมือนการรวมซิกเนเจอร์เครดิตผลงานของหลายๆ เรื่องเข้าด้วยกันอย่างชัดเจน ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022
ซีรีส์เรื่องนี้คือการรวมเอาแนวเรื่องสยองขวัญหลากหลายมารวมกัน
โดยโทนเรื่องมาแนวปริศนาลึกลับมากมายเต็มไปหมด แบบที่ 7 ตอนแรกยังไงคนดูก็ยังไม่อาจจะเข้าใจอะไรได้เลย (8 ตอนจบซีซั่นแรก) เพราะเรื่องราวดำเนินไปแบบเน้นปล่อยแต่ปริศนาออกมาเรื่อยๆ ดูหนังออนไลน์ โดยไม่เน้นเฉลย เหมือนเรากำลังนั่งดูเทปที่ตัวเอกกู้ซากขึ้นมาไปพร้อมกัน ซึ่งในเทปนั้นก็ค่อยๆ ดูหนังฟรี มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นทั้งจากเหตุการณ์ที่ถ่ายในตึกที่อยู่อาศัยรวมตัวคนแปลกๆ อย่าง เด็กที่เป็นลมชักเหมือนผีสิง ชายที่เหมือนนักบุญคนดีแต่กลับทำตัวลึกลับหลายครั้ง บาทหลวงที่เชื่อเรื่องการไล่ผีสิง สาวสูงวัยที่สะสมงานจากศิลปินสิ่งลี้ลับ ดูหนัง กลุ่มคนที่รวมตัวกันทำพิธีประหลาดกลางดึก รวมถึงมีเสียงแปลกๆ ในตึกเกิดขึ้นตลอดเวลา ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา
แถมยังมีชั้น 6 ที่เป็นชั้นต้องห้ามไม่ให้ใครขึ้นไปอยู่ด้วย ซึ่งตัวเรื่องให้เหตุผลว่าเทปนี้จะเป็นกุญแจสำคัญว่าเกิดอะไรขึ้นในวันที่ไฟไหม้ตึกทำทุกคนในนั้นเสียชีวิตทั้งหมด รวมถึงตัวแมนดี้ผู้ถ่ายวิดีโอนี้ด้วย ซึ่งปริศนาทั้งหมดนี้จะเป็นเรื่องราวที่แดนเห็นผ่านเทปภาพแตกๆ ในยุคนั้น ไม่ได้เป็นวิดีโอที่สมบูรณ์ มีภาพล้ม เสียงหาย พร้อมทั้งอะไรบางอย่างแทรกแซงเข้ามาในวิดีโอนั้นหลายครั้ง ซึ่งก็เป็นจุดสำคัญอีกอย่างของเรื่องว่า ในไฟล์ฟุตเทจวิดีโอนี้มีอะไรซ่อนอยู่กันแน่ ซึ่งดูเหมือนเรื่องเหนือธรรมชาติออกแนวสยองขวัญตรงๆ เป็นฉากแนวผีหลอกช็อคคนดูด้วย แต่อีกมุมหนึ่งตัวแดนเองก็มีอดีตว่าเคยเข้ารับการบำบัดทางจิตมาก่อน ทำให้เรื่องคลุมเครือว่า สิ่งที่แดนเห็นในระหว่างดูวิดีโอคือเรื่องจริงหรือไม่ หรือเรื่องปริศนาลี้ลับปนสยองในวิดีโอนั้นทำให้แดนเกิดจิตหลอนขึ้นมาเอง
แดเนียล เทอร์เนอร์ รีวิวซีรี่ย์ Archieve 81
นักซ่อมบำรุงและฟื้นฟูเทปวีดีโอจากพิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ได้รับเอกสารจากเพื่อนสาวคนหนึ่งให้ช่วยกู้เทปวีดีโอที่อยู่ในสภาพเสียหายจากไฟไหม้ ภายในเทปเป็นเรื่องราวของ เมโลดี้ เพนเดรส นักศึกษาปริญญาเอก สาขามานุษยวิทยา ที่กำลังจะทำงานวิจัยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์บอกเล่า ของผู้คนภายในอาคารห้องชุดวิสเซอร์ย่านอีสต์วิเลจ นิวยอร์ค
จากนั้นต่อมาบริษัท LMG ได้ติดต่อให้ แดเนียล เข้าไปพบเพื่อทำการขอบคุณที่เขาซ่อมแซมเทปวีดีโอนั้นให้ แล้วบริษัทจะยื่นข้อเสนอให้กับเขาว่า ยังมีเทปอีกหลายม้วนที่เกี่ยวข้องกับเมโลดี้ เพนเดรส อาคารวิสเซอร์ และเหตุปริศนาที่เกิดขึ้นภายในอาคาร หากกู้ได้แล้วจะต้องทำเป็นไฟล์ดิจิตอลและประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพราะเหตุใดจึงเกิดไฟไหม้ที่อาคาร ในปี 1994 ด้วย ประธานบริษัท LMG ยังอ้างว่าหาก ประติดประต่อต่อเรื่องราวได้จะสามารถคืนความยุติธรรมให้กับผู้ตายเป็นอาคาร 13 ศพด้วย ทุกอย่างที่กู้ได้จะต้องถูกเก็บเป็นความลับเหตุผลทางกฎหมาย เมื่องานสำเร็จแดเนียลจะได้รับค่าตอบแทนในการกู้เทปวีดีโอ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ทีแรก แดเนียล เทอร์เนอร์ จะไม่รับทำงานนี้ เนื่องจากบริษัทรู้เรื่องราวที่เป็นความลับส่วนตัวเขามากเกินไป โดยเฉพาะพ่อแม่ที่เสียชีวิตจากการถูกไฟไหม้ภายในอาคาร แต่ตอนดึก เขาฝันถึงชีวิตในวัยเด็กแล้วก็สะดุ้งตื่นด้วยภาพฝันบางอย่าง เขาจึงลุกขึ้นไปทบทวนเนื้อหาวีดีโอที่เขากู้ในเทปแรก แล้วพบว่าหมาที่อยู่ในรูปถ่ายภายในเทปวีดีโอกับเมโลดี้นั้นน่าจะเป็นหมาของเขาในวัยเด็ก เขาสงสัยว่าหมาของเขาไปอยู่กับเธอได้อย่างไร เขาจึงรับงานนี้
LMG ได้ให้แดเนียลไปทำงานในแลปแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองเป็นอย่างมาก ห้ามมีการเคลื่อนย้ายเทปวิดีโอออกน้องพื้นที่เด็ดขาด เขาต้องทำงานคนเดียวภายในบ้านกลางป่า ภายในมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน อุปกรณ์ที่ทันสมัย คนส่งอาหารจะมาส่งให้ทุกสัปดาห์ แต่โชคร้ายที่บ้านหลังนี้ไม่มีอินเทอร์เน็ต จากนั้นเขาก็เริ่มซ่อมแซมและกู้เนื้อหาภายในเทปวีดีโอ และก็ได้รับรู้เรื่องราวของเมโลดี้ เพนเดรส และอาคารวิสเซอร์ไปที่ละม้วน
ม้วนแรกเราจะได้รู้ว่า ที่มาที่ไปของอาคารวิสเซอร์ ถูกสร้างขึ้นในปี 1932 ถึง 1934 ไม่ทราบว่าใครเป็นสถาปนิก อาคารสร้างทับใต้ซากคฤหาสน์ที่โดนไฟไหม้ในช่วงยุค 1920 ส่วนรายละเอียดของอาคารภายนอกนั้นมีสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับลัทธิบางอย่าง อาจเชื่อมโยงไปถึงและที่บูชาซาตานก็เป็นได้ เมโลดี้พักอาศัยในอาคารแห่งนี้ และได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ที่ดูแลอาคาร ห้ามเข้าไปยุ้งกับชั้น 6 คืนแรกที่เธอนอนพักก็พบว่า มีเสียงดนตรีประหลาดดังออกมาจากเครื่องทำความร้อน เสียงดนตรีที่น่ากลัว
แฟ้มลับ 81 Archive 81 (2022) สร้างจาก Podcast
ของ Daniel Powell และ Marc Sollinger บอกเล่าเรื่องราวของ แดน เทิร์นเนอร์ (มาโมดู อาธี) ชายหนุ่มที่รอดชีวิตคนเดียวในครอบครัวจากเหตุการณ์ไฟไหม้บ้าน เพราะขณะเกิดเหตุเขากำลังพาหมาไปเดินเล่น เหตุการณ์เลวร้ายครั้งนั้นยังคงทิ้งร่องรอยความสูญเสียในจิตใจของแดน เมื่อโตขึ้นเลือกทำงานเป็นนักจัดเก็บเอกสารที่เชี่ยวชาญการเก็บกู้เทปคาสเซ็ตและวีดีโอเทป วันหนึ่งแดนได้รับข้อเสนอจาก เวอร์จิล ดาเวนพอร์ต (มาร์ติน โดโนแวน) เจ้าของบริษัท LMG ให้ทำงานเก็บกู้วีดีโอเทปที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในปี 1994 โดยมีค่าตอบแทนให้อย่างงามสูงถึง 100,000 USD แต่มีข้อแม้เขาต้องไปทำงานที่บ้านพักในป่าห่างไกล เพียงลำพังคนเดียวโดยไม่มีอินเตอร์เน็ต หลังจากปรึกษาเพื่อนสนิท มาร์ค (แมตต์ แมคกอร์รี่) นักพอดแคสต์ชื่อดังที่มีชื่อเสียงในการเล่าเรื่องเหนือความจริง แดนตกลงรับทำงานนี้
โดยวีดีโอเทปที่เขาต้องกู้คืนเป็นของนักศึกษาปริญญาเอก เมโลดี้ แพนเดรส (ดีนา ชิฮาบี) ที่ถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับชีวิตของผู้คนในอพาร์ตเมนต์วิสเซอร์ อพาร์ตเมนต์ที่เชื่อว่ามีแรงอาถรรพ์ดึงผู้คนที่ชะตาตรงกันให้มาพักที่นี่ แต่จริง ๆ แล้วเป้าหมายหลักของเมโลดี้คือตามหาแม่ที่ให้กำเนิดของเธอ การสัมภาษณ์ผู้อาศัยในอพาร์ตเมนต์ทำให้เธอต้องเจอเรื่องราวประหลาดมากมายเริ่มจาก เจส ลูอิส (อารีอานา นีล) เด็กหญิงที่มีอาการชักประหลาดเมื่อเห็นสิ่งลี้ลับแต่ไม่สามารถจำความได้แซมวล (อีวาน โจนิกคัทต์) อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ที่พักอยู่ชั้นเพนท์เฮ้าส์ในวิสเซอร์ สมาชิกลัทธิลับที่บูชารูปปั้นคาเลโก้ การเก็บกู้เทปทำให้แดนได้รู้เรื่องราวของเมโลดี้ และรู้สึกผูกพันกับเธอ แดนอยากช่วยเธอให้หลุดพ้นจากเหตุการณ์อันตรายเมื่อ 25 ปีที่แล้ว
Archive 81 ได้ผู้สร้างฝีมือดีอย่าง รีวิวซีรี่ย์ Archieve 81
Rebecca Sonnenshine (The Boys ), Paul Harris Boardman (The Exorcism of Emily Rose) และ เจมส์ วาน (Insidious) ซึ่งซีรีส์ก็ทำออกมาได้อารมณ์หนังสยองขวัญ ระทึกขวัญ นักแสดงนำทั้งสองคนแสดงดี ดูเข้าถึงบทบาท นักแสดงสมทบชวนให้ระทึกขวัญมากขึ้น แต่อาจจะเยอะเกินความจำเป็นไปหน่อย เนื้อเรื่องลึกลับซับซ้อน แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร เล่นกับเวลา เล่นกับการอนุรักษ์เทปวีดีโอเก่า ทำให้กลับมามีชีวิต เชื่อมโยงตัวเอกที่อยู่ต่างเวลาได้น่าสนใจ แต่ละตอนเพิ่มปมใหม่ ๆ เข้ามาทีละนิด เดาทางไม่ได้ ตอนจบน่าสนใจ น่าจะปูทางสำหรับภาคสอง
อาการจิตหลอนในเรื่องส่วนหนึ่งก็มาจากสภาพรอบตัวที่ทำงานแดนเป็นบ้านที่ทิ้งร้างไว้ให้แดนเข้าไปทำงานคนเดียว ห้ามให้ใครอื่นเข้าไปจะโดนยกเลิกสัญญา ซึ่งตัวบ้านก็ส่งเสริมบรรยากาศหลอนๆ ของเรื่องได้ดี แต่ไม่ใช่แบบบ้านผีสิง เป็นบ้านกึ่งห้องวิจัยทดลอง มีห้องลับ กล้องวงจรปิดติดตามดูชีวิตของแดนตลอดเวลา แต่ตัวเรื่องไม่ได้ทำมาว่าแดนไม่รู้ เนื้อเรื่องให้เขารู้แต่แรกและก็พยายามสำรวจหาความลับในบ้านหลังนี้ไปพร้อมกับความลับในวิดีโอแต่ละม้วนที่เขากู้มาดู แม้ปริศนาในเรื่องจะเยอะมากแบบจับต้นชนปลายไม่ถูกเลยว่าเรื่องจริงเป็นอะไรกันแน่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เรื่องดูยาก ชวนงงแบบน่าเบื่อ กลับกันตัวเรื่องปล่อยปริศนาออกมาแต่ละอย่างได้น่าติดตามมาก ถึงว่าแม้ผู้ชมจะไม่สามารถเชื่อมต่อเรื่องราวได้เองแน่ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ปวดหัว แค่อาจจะงงไปกับเรื่องราวที่เห็นเหมือนแดนเองก็สบถ “เรื่องเชี่ยไรวะ” ทุกครั้งที่มีปมปริศนาใหม่โผล่ขึ้นมา
อีกอย่างที่ช่วยบิ้วบรรยากาศในเรื่องให้อารมณ์ลึกลับปนสยองได้ดีก็คือ การใช้เสียงประกอบแปลกๆ หลายอย่างที่บอกไม่ได้ว่าเป็นเสียงอะไร แต่ตัวเรื่องใส่มาแทบจะตลอดเวลา เป็นเหมือนเสียงแอมเบี้ยน (เสียงสภาวะแวดล้อม) ที่คอยรบกวนจิตใจของตัวละครในเรื่องอยู่ตลอด ไม่ใช่เสียงที่เกิดขึ้นในธรรมชาติที่เข้าใจได้ ซึ่งก็ส่งผลมาถึงผู้ชมด้วย ทำให้เวลามีเสียงพวกนี้เข้ามาเรื่องจะดูหน่วงๆ อึมครึม เหมือนมีอะไรจะปรากฎตัวออกมาได้ตลอดเวลา เป็นอารมณ์น่ากลัวแบบลึกๆ ประกอบเรื่อง ที่เสียงพวกนี้ทำหน้าที่ของมันได้ดีเลย
ตัวเรื่องไม่ได้มีแค่แนวปริศนาปนสยองเพียงอย่างเดียว
แต่มีเรื่องราวดราม่ารักๆ เกิดขึ้นด้วย จากการที่แดนดูวิดีโอของแมนดี้ แล้วก็ค่อยๆ เริ่มรู้สึกผูกพันกับเธอขึ้นเรื่อยๆ จนฝันเห็นเขากับเธอพูดคุยกันเหมือนเป็นจริงแบบแยกไม่ออกว่าเรื่องจริง ความฝัน หรือจินตนาการ โดยทุกฉากในตอนนี้จะมีละอองฟุ้งๆ รอบตัวทั้งคู่ให้คนดูได้รู้ว่านี่เป็นฉากเหนือจริงที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งชวนให้คนดูสงสัยมากว่ามันคืออะไร นี่เป็นหนังไซไฟรักข้ามกาลเวลาด้วยหรือไม่? ซึ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีคำตอบที่ไปไกลกว่านั้นมาก เป็นการมิกซ์หลายไอเดียรวมกันเหมือนเรากำลังดู Stranger Things อะไรแบบนั้นเลย และนอกจากฟุตเทจวิดีโอที่เราเห็นพร้อมกับแดนแล้ว ก็จะมีฉากที่เล่าเรื่องโดยไม่ใช้ฟุตเทจเป็นชีวิตแมนดี้เองตรงๆ ก่อนตัดสลับกลับมาที่ฟุตเทจที่แดนดูอยู่ เป็นการเติมเต็มเรื่องราวของแมนดี้ให้คนดูเข้าใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งเธอก็เป็นตัวเอกหลักที่เล่าเรื่องคนละยุคสมัยต่างกับปัจจุบัน