รีวิวซีรี่ย์ Breaking Bad

เมื่อ​ครู​เคมีคนหนึ่งที่เปลี่ยนเเปลงตนเองมาเป็น​ใหญ่​ในธุรกิจ​การค้ายาโดย​ร่วม​มือกับ​อดีต​ลูกศิษย์​ที่​นำตัวเองเข้าไปเป็น​ใหญ่​ในโลก​ของการค้ายา  เป็นเรื่องราวของครูสอนเคมีระดับมัธยม วอลเตอร์ ไวท์ ซึ่งค้นพบว่าเขาป่วยด้วยโรคมะเร็ง ดูหนังฟรี แต่เขามีครอบครัวที่ต้องดูแล ทั้งภรรยาที่ท้องอยู่ และลูกชายที่พิการ ฐานะของวอลเตอร์ไม่ดีเท่าไหร่นัก ดูหนังออนไลน์ เขาจึงดิ้นรนหาค่ารักษาและเงินมรดกให้ครอบครัวของตนเอง ด้วยการร่วมก๊วนกับ เจสซี พิงค์แมน เด็กเกเรในห้องของเขา ในการสกัดยาไอซ์ออกมาขาย ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา

มาที่นักเเสดง​ต่อ​ นักเเสดง​ในเรื่องเล่นดีมาก​ ไบรอัน​ เเครนสตันที่รับบทเป็นวอลเทอร์​ ไวท์หรือไฮเซนเบิร์ก​เล่นดี​มาก​เเละ​ไม่รู้จะติอะไร​เลย​ ส่วนคนอื่น​ที่ชอบก็เยอะมากครับ​ เเต่อาจจะมีตัวละครที่รำคา​ญ​บ้างเเหละ เเละ​ฉากพีค​เเละฉากเลือดสาดทำได้​น่าจดจำ​เเละติดตาเลย​ รวมเเล้วนี่คือซีรีส์​ที่​เเอด​ดูไม่ตํ่า​กว่า​ 1 รอบครับ​ เเละ​มองว่า​ควร​เปิดดูในช่วงที่​เราอยู่บ้าน​นี้​

วอลเตอร์เป็นหัวหอกในการผลิต ส่วนเจสซีเป็นสายยา ทำเรื่องการตลาด เพียงไม่นาน รีวิวซีรี่ย์ Breaking Bad 

ด้วยทักษะด้านเคมีที่ไร้คู่ต่อสู้ของวอลเตอร์ ยาของพวกเขาก็ติดตลาดอย่างรวดเร็ว เพราะมีความบริสุทธิ์มาก และทำให้พวกเขารวยขึ้นมหาศาล แต่มันต้องแลกมากับอันตรายรอบด้านที่พวกเขาต้องเอาตัวเองให้รอด! ทำให้เราตั้งคำถามกับศีลธรรม ว่ามันคืออะไรกันแน่ ถ้าหากเราป่วยและจนแบบวอลเตอร์ เราจะเลือกทำแบบเขาหรือไม่ ซึ่งหลายคนที่ใช้ชีวิตปกติอยู่ทุกวันอาจฉุกคิดขึ้นมาว่า เมื่อเราจนนั่นแหละ ถึงมีคนมาคาดคั้นเอาศีลธรรมจากเรา ในขณะที่คนรวยที่ทำตัวเป็นปลาใหญ่กินปลาเล็กกลับได้รับการยกย่องว่าพวกเขาเก่ง

รีวิวซีรี่ย์ Breaking Bad

ในบรรดาซีรีส์ชื่อดังมากมายที่สร้างกันมา “Breaking Bad” (ซึ่งในชื่อฉบับแปลภาษาไทยใช้ชื่อเรื่องว่า ดับเครื่องชนคนดีแตก) มักได้รับการยกย่องจากแทบทุกสำนักในอเมริกา ยกให้เป็นซีรีส์อันดับหนึ่ง ซึ่งก็คู่ควรเช่นนั้นจริง ๆ แล้วยังได้คะแนนเฉลี่ยในเว็บ IMDB ในระดับสูงสุดถึง 9.5 ซึ่งหากประเมินจากจำนวนผู้ร่วมโหวต ถือว่าเรื่องนี้อยู่ในอันดับหนึ่งในบรรดาซีรีส์ทั้งหมด และได้คะแนนเฉลี่ยเหนือยิ่งกว่า Game of Throne เสียอีก

แถมหากดูคะแนนเฉลี่ยของตอน หรือ Episode ที่ดีที่สุด ตอน 14 ใน Season 5 ในชื่อตอน Ozymandias ได้คะแนนเฉลี่ยสูงถึง 10.0 จากจำนวนคนโหวตหลักแสนคน เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดของการแสดงเลยก็ว่าได้ (แม้แต่ท่านเซอร์แอนโธนี ฮอปกินส์ หลังจากได้ดูตอนนี้แล้วถึงกับออกมาบอกว่า Bryan Cranston ที่เล่นเป็นวอลเตอร์ไวท์ ตัวเอกของเรื่อง แสดงได้เก่งกว่าตัวเขาเเสียเอง)

มาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนอาจสงสัยว่า ทำไม Breaking Bad ได้รับการยกย่องมากขนาดนั้น ถึงขั้นที่มีบางคนพูดกันว่า ถ้าเรื่องนี้ยังฉายไม่จบไปซะก่อน บางที Game of Throne อาจจะไม่ได้รางวัล Emmy Awards ในปี 2015

บางคนอาจจะรู้สึกว่า โห มันเจ๋งขนาดนี้เลยเหรอ แต่ด้วยเนื้อหาที่ดูแล้วค่อนข้างหนักหน่วง จริงจัง

แถมเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ โลกอาชญากรรม การค้ายา Gangster เรื่องราวก็ค่อนข้างดาร์ก มีหลายฉากที่ใช้ความรุนแรงระดับเรต 18+ ตัวละครในเรื่องหลายคนพร้อมจะฆ่ากันง่ายมาก ๆ ซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบเรื่องราวที่มันโหดดิบแนวนี้ แถมยังมีถึง 5 Season แล้วจากที่พบว่า บางคนลองเปิดดูตอนแรก จะรู้สึกว่าการเดินเรื่องค่อนข้างเนือย ๆ แล้วแบบนี้แล้วจะสนุกจริงหรือ

รีวิวซีรี่ย์ Breaking Bad

ที่จริงผู้เขียนอยากนิยามเรื่องนี้สั้น ๆ อีกสักประโยคว่า เรื่องนี้มันนำเสนอ “เรื่องตลกซีเรียสครับ” คือหลายเหตุการณ์ในเรื่อง มันเป็นฉากซีเรียส บีบคั้นตัวละครมาก ๆ แต่เราดูแล้วก็อดขำกับไอ้ฉากเหล่านั้นไม่ได้ นี่จึงไม่ใช่ซีรีส์ที่มีแต่การเสนอฉากดิบ ๆ หรือฉากรุนแรงอย่างที่คิดไปเสียหมด เพราะเอาจริง ๆ แล้วฉากการยิงกันในเรื่องนี้แทบจะนับครั้งได้เลย เอาเป็นว่าในเมื่อหนังภาคต่อของเรื่องนี้อย่าง El Camino กำลังจะเข้าใน Netflix แล้ว ก็เลยขอรีวิวเรื่องราวเบื้องต้น รวมถึงแนะนำตัวละครหลักในเรื่อง ซึ่งจะมีบทบาทและคอยขับเคลื่อนเรื่องราว เผื่อว่าหลายคนอาจจะรู้สึกว่าน่าลองเปิดดูกันมากขึ้นครับ

เรื่องราวเกิดขึ้นในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในรัฐนิวเม็กซิโก ชื่อ อัลบูเคอร์คี ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้พื้นที่ทะเลทราย เมื่อครูสอนวิชาเคมีในโรงเรียนไฮสคูลคนหนึ่ง คือ วอลเตอร์ ไวท์ ได้ตรวจพบว่าตนเองกำลังเป็นมะเร็ง ด้วยความที่กลัวว่าตัวเองตายไป ครอบครัว ภรรยา และลูกชายที่มีความพิการจะใช้ชีวิตลำบาก

จึงคิดหารายได้เป็นกอบเป็นกำทิ้งไว้ให้ครอบครัว จนวันหนึ่งโชคชะตาเหมือนเล่นตลก เขาได้บังเอิญดูโทรทัศน์ที่ถ่ายภาพการจับกุมขบวนการผลิต “ยาไอซ์” ที่กำลังแพร่ระบาดในเมือง ซึ่งน้องเขยของเขาที่เป็นเจ้าหน้าที่ ปราบยาเสพติดรับผิดชอบคดีเหล่านี้อยู่ แล้วเขาก็ได้รู้ข้อมูลว่า สิ่งที่ตำรวจจับมาได้ไม่ใช่มีแค่ยา แต่ยังมีเงินจำนวนมหาศาลที่มาจากการค้ายา เขาจึงเปิดปิ๊งไอเดีย ด้วยการไปหาอดีตนักเรียนคนหนึ่งที่กลายเป็นขี้ยาและเป็นคนขายยา คือ เจสซี พิงค์แมน แล้วชวนให้มาร่วมกันปรุงยาไอซ์ขายเพื่อทำเงิน

ซึ่งปรากฏว่า ครูวอลเตอร์ไวท์คนนี้ก็มีทีเด็ดและความสามารถในด้านวิชาเคมีระดับอิจฉริยะ

โดยเรื่องราวจะเปิดเผยออกมาทีละน้อย กระทั่งวอลเตอร์ได้ปรุงผลิตยาไอซ์ที่มีความบริสุทธิ์ถึงขีดสุดชนิดที่แม้แต่โรงงานผลิตยาขั้นเทพยังทำไม่ได้ ทำให้ทั้งสองวางแผนจะนำไปปล่อยขายเพื่อทำเงินก้อนใหญ่ แต่แล้วนั่นก็ทำให้เกิดเรื่องราววายป่วงที่เริ่มต้นจากเรื่องราวเล็ก ๆ แล้วขยายกลายเป็นเรื่องลุกลามใหญ่โตอีกมากมายตามมา

รีวิวซีรี่ย์ Breaking Bad

ด้วยดีกรีการแสดงของนักแสดงนำหลักทั้งสอง ทำให้ซีรีส์มีกลิ่นอายของความเป็นดราม่าจัด ๆ ที่จะทำให้เราอยากติดตามเรื่องราวต่อไปได้ไม่ยาก หลายฉากก็เป็นซีนอารมณ์ เช่นการที่วอลเตอร์จะต้องเลือกระหว่างครอบครัว หรือความร่ำรวยแบบผิดกฎหมายที่เขาสร้างขึ้นมากับมือ หรือการที่เจสซีต้องเสียคนสำคัญไปจากฤทธิ์ของยาเสพติด ยังทำให้เราตั้งคำถามถึงฐานเงินเดือนของอาชีพที่สำคัญสำหรับสังคมอย่างเช่นครู ว่าเงินเดือนของคนเหล่านี้น้อยเกินไปหรือไม่ ทั้งที่อาชีพครูเป็นอาชีพที่ต้องบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ออกสู่สังคม แต่เหตุใดเงินเดือนพวกเขาถึงต่ำเตี้ยเรี่ยดิน จนครูอย่างวอลเตอร์ต้องผันตัวไปขายยาเสพติด

ซีรีส์แนวดราม่าอาชญากรรม ซีรีส์อันดับ 1 รีวิวซีรี่ย์ Breaking Bad

ที่ได้คะแนนเฉลี่ยในเว็บ IMDB ในระดับสูงสุดถึง 9.5 คะแนนด้วยกัน แถมยังได้คะแนนเฉลี่ยเหนือกว่า Game of Thrones อีกด้วย บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดาเพราะซีรีส์เรื่องนี้นั้นเข้าชิงรางวัลมากกว่า 58 ครั้งและสามารถกวาดรางวัลไปได้ถึง 18 รางวัลเลยทีเดียว

โดยซีรีส์ Breaking Bad เป็นเรื่องราวของไวท์ วอลเตอร์ รับบทโดย ไบรอัน แครนสตัน ครูสอนวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่งที่เปลี่ยนเเปลงตนเองมาเป็น​ใหญ่​ในธุรกิจ​การค้ายา โดยร่วมมือกันกับศิษย์เก่าผู้ไม่เอาไหนอย่างเจสซี พิงค์แมน รับบทโดย แอรอน พอล จึงทำให้เขาต้องข้องเกี่ยวกับแก๊งค์ผู้มีอำนาจมากมาย และนี่จะแสดงกระบวนการจากคนดีสู่คนเลวในที่สุด ของซีรีส์ที่ดีที่สุดในโลกในขณะนี้ และการที่ซีรีส์เรื่องนี้ได้กลายเป็นซีรีส์ที่ดีที่สุดในโลกนั่นไม่ใช่เพราะความบังเอิญแต่เป็นเพราะด้วยองค์ประกอบที่ยอดเยี่ยม ทำให้เนื้อเรื่องเข้าถึงผู้ชมทุกคนได้อย่างง่ายดาย

ด้วยความที่มันเกี่ยวกับเรื่องค้ายาเรื่องราวมันจึงค่อนข้างดาร์ก

ซึ่งก็มีหลายฉากที่ใช้ความรุนแรงระดับเรท 18+ ด้วย ตัวละครพร้อมจะฆ่ากันง่ายมาก สำหรับใครที่ไม่ชอบแนวโหดดิบฆ่าฟันกันอาจจะรู้สึกเหนือยๆ ไม่ชอบเรื่องนี้เอาก็ได้ สำหรับนักเเสดง​ในเรื่องนั้นเล่นดีมากๆ​ ไบรอัน​ เเครนสตัน ที่รับบทเป็น วอลเทอร์​ ไวท์ ​เล่นดี​มากจน​ไม่รู้จะติอะไรเลย สำหรับบรรดาตัวละครในเรื่องนั้นจะมีความเทาๆ ไม่มีใครขาวหรือดำสนิท ทุกคนมี แง่มุมและเหตุผลในการขับเคลื่อนเรื่องราวของตนเอง แต่มันสะท้อนชีวิตคนในทุกสังคมในโลกเลยก็ว่าได้ เมื่อชีวิตมันไม่เป็นดั่งหวัง ถ้าอย่างงั้นก็ขอทำอะไรตามใจตนเองหน่อยสักครั้ง สำหรับคนที่กำลังสนใจซีรีส์เรื่องนี้อยู่ก็แนะนำให้เริ่มดูเลย เพราะมีหลายซีซั่นอยู่นะ ระวังตาแฉะ

วอลเตอร์ ไวท์ ครูสอนวิชาเคมีในโรงเรียนไฮสคูล ที่เกิดตรวจพบ ว่าตนเองกำลังเป็นมะเร็ง จึงคิดวางแผนปรุงยาไอซ์ขาย เพื่อเก็บเงินก้อนใหญ่ไว้ให้ครอบครัวคือ ภรรยา และลูกชายที่มีความพิการ

ที่จริงแล้ว วอลเตอร์ ไม่ใช่คนธรรมดา ๆ แบบที่ซีรีส์นำเสนอในตอนแรก ๆ เมื่อดูไปเรื่อย ๆ เราจะเริ่มพบอดีตและเรื่องราวของเขามากขึ้นว่าที่จริงแล้วเขาเป็นนักเคมีอัจฉริยะ ที่เคยถึงขั้นร่วมเปิดบริษัทระดับโลกกับเพื่อนสนิทสองคน แต่ด้วยปัญหาบางอย่างทำให้เขาขายหุ้นบริษัทแล้วออกมาทำงานของตนเอง แต่สุดท้ายด้วยจังหวะชีวิตต่าง ๆ กลับทำให้เขากลายเป็นเพียงครูสอนเคมีบ้าน ๆ คนหนึ่งเมื่ออายุกำลังเข้าเลข 50 กว่า ๆ