รีวิวซีรี่ย์ Deliver Us From Evil
รีวิวซีรี่ย์ Deliver Us From Evil
เป็นภาพยนตร์เกาหลีขายดี อันดับที่ 2 ของปี 2020 (นับถึงเดือนกันยายน) มียอดขายตั๋วทะลุ 4 ล้านใบ รองจากเรื่อง The Man Standing Next ด้วยความเป็นงานบันเทิงมันส์ๆ บู๊กระหน่ำแอคชันกระจาย โหด..โฉด..ดิบหน่อย อารมณ์คล้ายต้นตำรับหนังเจ้าพ่อหรือหนังแอคชันสูตรฮ่องกงในอดีต แต่ปรุงรสใหม่ในสไตล์เอกลักษณ์เกาหลี คือผูกดรามาเข้าไปในเส้นเรื่องอย่างลงตัวกลมกล่อม มีท้องเรื่องที่ต้องถ่ายทำใน 3 ประเทศ เกาหลี ญี่ปุ่น และไทย เราเลยได้มีโอกาสชมหนังเรื่องในโรงภาพยนตร์บ้านเรา ดูหนัง
อินนัม (ฮวังจองมิน) นักฆ่าฝีมือดีพบว่าคนรักเก่าของเขาถูกคนฆ่าตายในประเทศไทย จึงเดินทางมาเพื่อตามหาความจริง ในขณะที่ เรย์ (อีจุงแจ) ก็ถูกอินนัมฆ่าพี่น้องร่วมสาบานของเขาตาย ก็ได้เดินทางมาไทยเพื่อหวังจะล้างแค้นเช่นกัน เกมไล่ล่าสุดอันตรายของ อินนัม กับ เรย์ จึงเปิดฉากขึ้น และทั้งคู่ต้องสะสางให้มันจบที่นรก! ดูหนังออนไลน์
หนังเกาหลีสายแอ็กชันที่เปิดหัวมาด้วยสถิติสุดสวยจากการขายตั๋วได้ถึง 2 ล้านใบภายใน 5 วันที่เกาหลี เอาชนะหนังมาแรงแห่งปีอย่าง Peninsula (ภาคต่อ Train to Busan) ไปได้เป็นที่ประหลาดใจหลายคน แถมขึ้นแท่นหนังแอ็กชันที่ดีที่สุดแห่งปีของเกาหลีจากนักวิจารณ์เกาหลีบางสำนักด้วย นังเล่าถึงมือสังหารรับจ้างฝีมือเยี่ยมสุดเหี้ยม ที่ไม่เคยพลาดการล่าเป้าสักครั้ง คิมอินนัม (รับบทโดย ฮวังจองมิน) แต่เขาตั้งใจจะวางมือแล้ว ชีวิตซึ่งผ่านเรื่องพลิกผัน และงานโหดๆมาเยอะจนอยากไปใช้ชีวิตสงบๆริมทะเลที่ปานามาดีกว่า งานจ๊อบสุดท้ายเพื่อรวบรวมทุนไปอยู่ปานามาถาวร คือจัดการจอมโฉด โคริดะ ไดสุเกะ บอสใหญ่ขององค์กรคันโต สาขาโตเกียว ซึ่งแท้จริงเป็นคนเกาหลีมาตั้งรกรากที่ญี่ปุ่น ซึ่งจะพ่วงให้งอกจ๊อบสุดท้ายของสุดท้ายอย่างเลี่ยงไม่ได้ คือต้องตามเก็บน้องชายร่วมสาบานของโคริดะไดสุเกะให้ได้ ก่อนน้องจะรู้ตัวว่าพี่สุดรักตายด้วยฝีมือใคร ไม่เช่นนั้นเจองานล้างแค้นเดือดแน่ ดูหนัง 4k
แต่สำหรับคอหนังเกาหลีสายดิบ ความน่าสนใจจะอยู่ที่ว่าหลังจากห่างหายไปกว่า 5 ปี ผู้กำกับ ฮงวอนชาน เขาไปอัปฝีมือมามากขนาดไหนมากกว่า โดยเขาเป็นมือเขียนบทหนังเด่น ๆ ของผู้กำกับ นาฮงจิน มาแล้วทั้ง The Chaser (2007) และ The Yellow Sea (2010) แล้วยังเคยร่วมเขียนบทหนังรางวัลบทยอดเยี่ยมเรื่อง Confession of Murder (2012) ของผู้กำกับ จังเบียงกิล อีกด้วย หนังเรื่องแรกที่เขาทั้งเขียนบทและกำกับเองอย่าง Office (2015) เองก็ได้รับเลือกไปชิงในสาขา Golden Camera ที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ด้วย ซึ่งใครได้ดูหนัง Office มาแล้วก็น่าจะจำได้ดีถึงฝีมือการขยี้วัฒนธรรมเกาหลีที่เป็นส่วนสากลอย่างการทำงานในออฟฟิศ ออกมาได้น่าตื่นเต้น เย้ยหยันและปวดใจได้ขนาดไหน การกลับมาหลังจากบ่มไอเดียนานถึง 5 ปีของเขาใน Deliver Us From Evil ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย ดูหนังออนไลน์ 4k
ในขณะที่ อินนัมมีโอกาสที่จะหนีไปปานามาได้ แต่ก็เกิดเหตุสำคัญให้เขาต้องเปลี่ยนใจกระทันหัน มุ่งหน้าดั้งด้นมาถึงไทย เพื่อตามหาซอยูมิน (รับบทโดย พัคโซอี) ลูกสาววัย 9 ขวบของ ซอยองจู (รับบทโดย ชเวฮีซอ) แฟนเก่าของเขาที่มีเหตุจำใจเลิกราตัดขาดกันไปเมื่อ 9 ปีก่อน ซึ่งทำให้เธอย้ายมาอยู่เมืองไทยตั้งแต่นั้น อินนัมเองเพิ่งมารู้ว่าพวกเขามีลูกด้วยกัน
ก็ตอนเกิดเหตุที่ยูมินถูกพี่เลี้ยงต่างด้าวลักพาตัวหายไปนี่แหละ เป็นตายร้ายดีก็ยังไม่มีใครรู้ ซ้ำร้ายยองจูก็มาตายปริศนาระหว่างตามหาลูกด้วย รีวิวซีรี่ย์
ซึ่งในครั้งนี้แม้ความคมคายในบทหนังอาจไม่ได้มีมากอย่างที่เราหวัง แต่มันก็เข้มในแนวทางของหนังบู๊ที่หยิบยืมหัวใจของหนังแอ็กชันฮ่องกง หรือหนังแอ็กชันเอเชียอาคเนย์ทั้งจากบ้านเราและอินโดนีเซีย มาผสานกันได้สนุก จะว่าไป ฮงวอนชาน ก็เป็นสายบทหนังธริลเลอร์เข้ม ๆ ดาร์ก ๆ ตัวพ่อเหมือนกันและทำการบ้านมาได้ดีมาก ๆ จึงทำให้ตลอดเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงของ Deliver Us From Evil เต็มไปด้วยความเท่ ความดาร์ก และเรื่องราวที่ปูมาสำหรับแอ็กชันได้ลุ้นสุด มันสุด เช่นกัน
ภารกิจการตามหายูมินและปกป้องชีวิตเธอให้ทันการ จึงเป็นเรื่องเดียวที่สั่นคลอนจิตใจอินนัมให้อ่อนไหวได้ และมันจะเป็นเพียงโอกาสเดียวที่เหลืออยู่ให้เขาได้ลบความรู้สึกผิดในใจ
ด้วยความช่วยเหลือของนายเก่า ทำให้อินนัมได้เจอกับคนเกาหลีที่มาทำมาหากินในไทย ช่วยเขาตามหายูมิน นั่นคือ ยูอี หรือที่เรียกแบบไทยๆว่า ยุ้ย (รับบทโดย พัคจองมิน) สาวประเภทสองทำงานบาร์ มุ่งมั่นหาเงินไปผ่าตัดแปลงเพศ
เมื่อเรย์ไล่สืบไล่ฆ่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับอินนัม จนสาวได้เรื่องว่าอินนัมมาไทย เพราะอะไร เขาจึงตามมาจัดการเคลียร์บัญชีนรกถึงที่นี่ การไล่ล่าและเผชิญหน้ากัน จึงกลายเป็นเรื่องราวบู๊โหดซัดกระหน่ำจนกว่าต่างฝ่ายจะบรรลุเป้าหมายของตน
ว่ากันตามตรงพลอตของหนังเรื่องนี้ไม่ได้ใหม่อะไรเลย หนังจา พนม หนังบู๊ไทย หรือหนังฮ่องกงเมื่อไม่นานนี้ก็กลิ่นอายแบบเดียวกันเลย แต่ความที่ฮงวอนชานทำการบ้านหนังแอ็กชันโซนนี้มาดีมาก มันจึงตกตะกอนเป็นหนังที่มีไอเดียแตกต่าง ใช้ความชั่วหลายฝักฝ่ายไล่ล่ากันแบบตะลุมบอน โดยมีเด็กน้อยตาใสที่แค่ฉากแรกโผล่มาเราก็ตกหลุมรักอยากเอาใจช่วยอยู่กลางสมรภูมิที่ผู้ใหญ่เลว ๆ ห้ำหั่นกัน และการเสริมพื้นด้านดราม่าของตัวละครก็เป็นงานถนัดฝั่งเกาหลีที่ีมาเติมเต็มจุดอ่อนของหนังบู๊แบบบ้านเราได้พอดิบพอดี ทำให้เรารู้สึกจริงจังขึงขังกับมันได้มาก แม้บางฉากแอ็กชันจะแฟนซีไม่แพ้หนังไทยยุคเวอร์ ๆ ก็ตาม (ระเบิดรถหมุนสามตลบงี้) แต่ด้วยความสร้างสรรค์มันเลยไม่เด๋อแต่กลายเป็นความเท่มาก ๆ ไปแทน
ยิ่งได้ดาราเบอร์ใหญ่ของหนังเกาหลีอย่าง ฮวังจุงมิน ที่บ้านเราอาจคุ้นหน้าจากหนัง The Battleship Island และ Asura: The City of Madness หรือหนัง The Wailing ก็ด้วย
ซึ่งรับประกันฝีมือด้วยรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมจากเวที Blue Dragon Film Awards มาถึง 2 ตัว และเมื่อมาประชันบทกับ อีจุงแจ
ซึ่งก็คุ้นหน้าดีจากหนังใหญ่อย่าง The Housemaid (2010) และ Along With the Gods: The Two Worlds (2017) ซึ่งทั้งสองคนนี้ยังเป็นการกลับมาชนกันในหนังอีกครั้งหลังจากเคยขับเคี่ยวกันมาแล้วใน New World (2013) ด้วย
สำหรับความบันเทิงจากงานแอคชัน ก็ต้องถือว่าจัดเต็มมาอย่างดี ดูเพลินเลย ให้ลุ้นตื่นเต้นมันส์ๆในหลายสไตล์ ไม่ว่าจะบู๊ด้วยอาวุธประชิดตัว กดดันด้วยพื้นที่แคบๆของโถงทางเดิน หรือกราดยิงถล่มใส่กันโครมๆกลางลานถนน ตะลุมบอนชุลมุนหลายฝ่าย หรือฉากระเบิดตูมตาม ฉากโลดโผนเสี่ยงตาย ลุ้นระทึกไล่ล่าอย่างตื่นเต้น หรือฉากเสียวสยองเชือดสด ตัดนิ้วตัดหูชวนให้จินตนาการร้องตามกันเลย แต่ความเว่อร์ไม่สมจริงก็ย่อมมีบ้างนะ เช่น คิดดูสิว่า ใช้รถตุ๊กตุ๊กซิ่งประจันบานกลางห่ากระสุน คนขับตุ๊กตุ๊กนี่คือฮีโร่สุดๆเลยนะ 555 ก็คิดซะว่าเขาช่วยขายตุ๊กตุ๊กเอกลักษณ์ไทยๆให้เรา
แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็พ่วงนำเสนอเมืองเราในด้านมืดไปด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นบ้านช่องโทรมๆที่จัดแสงย้อมสีให้ดูป่วยหนักไปอีก พลุกพล่านจอแจแบบไม่ศิวิไลซ์ ความล้าหลังของระบบความปลอดภัยกล้องวงจรปิดตามท้องถนน ประสิทธิภาพของตำรวจ ตามด้วยความเสื่อมทรามชุกชุมของมิจฉาชีพ อบายมุข อาชญากรรม ค้ายาค้ามนุษย์ เจ้าพ่ออิทธิพล โอย เรียงกันมาฉาวยังกะเป็นเมืองเถื่อนเลย สำหรับนักแสดง ฮวังจองมิน และ อีจองแจ ยังไม่ต้องดูก็เชื่อใจได้ในฝีมือและพอนึกภาพออกอยู่ ทั้งคู่เคยแสดงหนังแนวใกล้เคียงร่วมกันมาแล้ว มีความเข้าขากันอย่างสมศักดิ์ศรี แต่ที่เซอร์ไพรส์ผู้เขียนมาก คือ พัคจองมิน ในบทสาวประเภทสอง แม้ว่าจะเห็นภาพจากข่าวโปรโมตมาบ้างแล้ว
แต่พอมาดูจริง คือต้องยกนิ้วให้ลีลาที่สุดเนียนอินเนอร์จัดเต็ม จริตจะก้านน่าเอ็นดูจริงๆ 555 และที่สุดทึ่งคือ พูดไทยปร๋อ ชัดถ้อยชัดคำมาก พูดฟังออกเกือบทุกประโยค เรียกได้ว่าเติมสีสันอีกรสชาติให้หนังมีเสน่ห์มากขึ้น เบรคคลายเครียดได้ดี สมควรมอบรางวัลขโมยซีนดีเด่นเลย เพราะสามารถฉายรัศมีท่ามกลางสองนักแสดงระดับตัวพ่อได้ ทำเอาผู้เขียนหลงรักพัคจองมินขึ้นไปอีก แต่กลับกัน ผู้เขียนออกจะผิดหวังหน่อยๆกับนักแสดงไทยซึ่งเข้าฉากบทสนับสนุน ส่วนใหญ่จะเล่นแข็งกันจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทพูดที่ไม่เป็นธรรมชาติเอาซะเลย