รีวิวซีรี่ย์ Doctor Prisoner
ด้วยความเรียบง่ายของชื่อเรื่อง Doctor Prisoner ที่สื่อตรงๆก็คือ นักโทษที่เป็นหมอ หรือ หมอ+นักโทษ แต่ซ่อนนัยให้ชวนคิดต่อเองจากเรื่องย่อที่วางไว้ว่า หมอถูกกล่าวโทษจนต้องติดคุกจึงอยากแก้แค้น มันคงจะแซ่บกว่าชื่อแน่ เพราะเป็นแผนแก้แค้นที่สุดเฉียบคม จากทั้งระดับสมองอันชาญฉลาด ความรู้ทางด้านการแพทย์ที่เปรียบเหมือนอาวุธเฉพาะทาง ผสมเข้ากับ ความร้ายเข้มโหมดคนคุก
แถมด้วยการเติมพล็อตที่แปลกใหม่น่าสนใจ หยิบ “การแพทย์” มาคลุกรวมกับ “กฎหมาย” อิงหลักพิจารณาความคดีอาญาของเกาหลีที่ว่าด้วยหลักสิทธิมนุษยชน นักโทษซึ่งป่วยเข้าเงื่อนไขข้อกำหนดจะใช้สิทธิ์ ‘ระงับคดี’ จะได้รับอนุญาตออกมาใช้ชีวิตรักษาตัวนอกคุกได้ โดยผ่านการตรวจร่างกายและมีใบรับรองแพทย์ จึงเป็นที่มาของโรงพยาบาลและหมอที่แหกจรรยาแพทย์ หาประโยชน์โดยมิชอบ ออกใบรับรองโรคปลอม
เมื่อ นาอีเจ (รับบทโดย นัมกุงมิน) ศัลยแพทย์ทรวงอกคนเก่ง ประจำแผนกฉุกเฉิน (ER) ของ รพ.แทกัง ใจบุญชอบช่วยคนไข้จรจัด แต่กลับต้องมาซวยด้วยที่นิสัยตรงไปตรงมา จึงไม่พินอบพิเทาให้บริการ อีแจฮวาน (รับบทโดย พัคอึนซอก) ลูกชายคนรองของเจ้าของโรงพยาบาล
ความป่วนเกเรทำให้นาอีเจพลาดการช่วยชีวิตคนไข้ท้องแก่ที่สนิทกัน นำไปสู่การโดนจับข้อหาทำคนไข้ตาย โดนยึดใบอนุญาต เพราะการจงใจกลั่นแกล้งของอีแจฮวาน ทั้งๆที่อุบัติเหตุของสาวท้องรายนี้ก็มีเหตุเบื้องต้นมาจากการขับรถบ้าบิ่นของอีแจฮวานเอง ที่ โรงพยาบาลแทกัง มีการใช้วิชาชีพในทางมิชอบ
ขายใบรับรองแพทย์โรคปลอม ให้นักโทษที่มีเงินและอิทธิพล เพื่อใช้สิทธิ์ระงับคดี ออกมารักษาตัวนอกคุก ก่อนหน้านี้นาอีเจเองก็เพิ่งถูกผอ.ขอให้เซ็นต์รับรองให้นักโทษ สส. จองมินเจไป ทั้งๆที่ไม่ได้เต็มใจนัก แต่จำยอมเพื่อแลกกับการได้ช่วยคนไข้จรจัดต่อไป และการผ่าตัดรักษาแม่ใน รพ.นี้ แต่หลังจากนาอีเจติดคุก แม่ก็เสียชีวิตเพราะไม่ได้รับการรักษา เป็นอีกหนึ่งความแค้นเคืองของเขา..
สามปีให้หลัง เมื่อนาอีเจพ้นโทษ แต่อีแจฮวานกลับถูกจับคดียาเสพติด จึงสบช่องเหมาะให้นาอีเจเดินเกมแผนแก้แค้นเอาคืนอย่างถึงพริกถึงขิง ด้วยกระบวนการสุดแยบยลซับซ้อน ปนความนิ่งเฉียบจนดูเหมือนจิต สไตล์เกลือจิ้มเกลือ คือ ใช้กฎหมายการระงับคดี กลับมาเล่นงานอีแจฮวาน ทายาทแทกัง
ในขณะที่ในคนตระกูลแทกังก็ห้ำหั่นแย่งอำนาจกันเองอย่างมีเบื้องลึกเบื้องหลัง ธุรกิจในกลุ่มมีหลายกิจการ ไม่ว่าจะเป็นเคมีคอล ขนส่ง ฯลฯ แต่เรือธง (Flagship) ก็คือ โรงพยาบาล หลังประธานใหญ่ผู้เป็นพ่อจู่ๆเกิดป่วยเป็นอัลไซเมอร์จนต้องสละตำแหน่ง ขั้วแย่งชิงอำนาจฝ่ายหนึ่ง
ผู้สืบทอดธุรกิจในความตั้งใจเดิมของประธานใหญ่ ได้แก่ โมอีรา (รับบทโดย จินฮีคยอง) ซึ่งเป็นเมียใหม่ และลูกทั้งสอง อีแจฮวาน ที่เกเรไม่เอาถ่าน อีแจอิน (รับบทโดย อีดาอิน) เพิ่งจบกฎหมายมาจากต่างประเทศ กับอีกฝ่ายคือ อีแจจุน (รับบทโดย ชเววอนยอง) ลูกเมียเก่าผู้มีปมชีวิต แต่เป็นตัวจริงที่ฉลาดและมากฝีมือในงาน เป็นตัวแสบมาดนิ่งที่กำลังไต่เต้าตำแหน่งไล่บี้แม่เลี้ยง หวังขึ้นเป็นผู้นำกลุ่มธุรกิจแทน ดูหนัง
ชเววอนยอง รับบท อีแจจุนนาอีเจจึงเข้าคลุกวงในด้วยการไปเป็น หมอเรือนจำ โดยสมัครเป็น ผอ.ศูนย์การแพทย์ของเรือนจำโซลตะวันออก เพื่อจัดการอีแจฮวาน ขุดคุ้ยข้อมูลนักโทษวีไอพี และสิ่งที่โยงใย รพ.แทกัง ทำให้คนแรกที่ต้องต่อกรด้วย คือ ผอ.คนเดิมของศูนย์ ซอนมินชิก (รับบทโดย คิมบยองชอล) ดูหนังออนไลน์
ที่ยังยืนขวางทางนาอีเจอย่างสุดแรง เพราะเห็นแววตัวอันตราย จะทำลายความเป็นราชามาเฟียแห่งเรือนจำของเขา ขัดขวางผลประโยชน์ที่เขาได้จากใช้ยาแทนอาวุธคุมนักโทษ สับเปลี่ยนยาปลอมให้นักโทษ ยักยอกยาจริงไปขาย ส่งนักโทษป่วยไร้ประกันเข้ารพ.แฮอึนของตัวเอง โอย กินเรียบหลายเด้งมาก และที่สำคัญ ส่งนักโทษไปออกใบรับรองโรคปลอมเพื่อการระงับคดี ที่ รพ.แทกัง ดูหนัง 4k
คู่ต่อสู้ของนาอีเจมีมากหน้าหลายตา ทั้งแบบเห็นๆ และอยู่เบื้องหลังชักใย ทั้งแบบย้ายข้างไปมาตามสถานการณ์ เพราะแต่ละคนฉลาดร้ายเขี้ยวๆ ยึดเป้าหมายผลประโยชน์ของตนเองเป็นที่ตั้ง ทำให้เกิดเกมการต่อสู้ที่พลิกไปมา ผลัดรุกผลัดรับ เดาเกมได้ยาก ทุกคนเหมือนอยู่โหมด poker face ในวงไพ่ ต่างมีไพ่เด็ดในมือ ต้องเก็บไต๋ซ่อนสีหน้า รอจังหวะปล่อย ดูหนังออนไลน์ 4k
นาอีเจต้องใช้กลเม็ดการสร้างโรคปลอมที่เนียนๆกว่า คือ วิเคราะห์หาโรคที่เหมาะสมกับประวัติ และปั่นร่างกายให้เกิดอาการของโรคขึ้นเอง (แค่การปลอมโรค ยังจริงจังเหนือกว่า ผอ.ซอน หรือ รพ.แทกังที่ใช้ยาช่วยหรือเซ็นต์มั่วๆไป) มาเพื่อช่วยนักโทษ มาดามโอจองฮี (รับบทโดย คิมจองนัม) ให้กลายเน็ตเวิร์คผู้ช่วย (มีความเกลือจิ้มเกลือเลยหละ) และนักโทษอื่นๆเพื่อประโยชน์การเดินแผนให้ถึงที่หมาย รีวิวซีรี่ย์
ระหว่างการจัดการอีแจฮวาน และโค่นหมอซอน ยังมีเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังสลับซับซ้อน ที่ทยอยเผยมาทีละส่วน ล้วนเป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวพันกับอดีตอันเจ็บปวดของนาอีเจ และความสกปรกเลวร้ายของตระกูลแทกัง ซึ่งนาอีเจต้องทุ่มสรรพกำลังสมองในการสาวไส้มาแฉความผิดส่งให้ถึงมือกฎหมาย
ในระหว่างนั้น ก็มีบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวพันด้วยอีกหลายคน มีทั้งตัวช่วยและตัวฉุด ว่ากันไปตามสถานการณ์ เช่น หมอผู้ช่วยโกยองชอล (รับบทโดย อีจุนฮยอก) เภสัชกรบ๊กฮเยซู (รับบทโดย อีมินยอง) ในเรือนจำ จิตแพทย์ ฮันโซกึม (รับบทโดย ควอนนารา) ฮันบิท-น้องชายของโซกึม และอัยการ จองอึยชิก (รับบทโดย จางฮยอนซอง)
สนุกเข้ม ตื่นเต้นทุกอีพี เหนืออื่นใด หัวใจความสนุกที่สำคัญมาก คือ การไม่รู้อะไรมาก่อน ค่อยๆดูไป ค่อยๆเผยปมข้อมูลที่ลึกขึ้นๆ นำกลับมาปะติดปะต่อเรื่องราวได้ ซึ่งการเดินเรื่องจะกระชับฉับไว มีกั๊กสลับลำดับคิวบ้าง แต่ไม่มีซีนไหนมาแบบเปล่าประโยชน์ ประมาณว่าตาดูให้ทัน สมองคิดตามให้ไวว่อง เหม่อมีงงนะคะ และจะโดนกระตุกเซอร์ไพรซ์ หักมุม ที่เป็นทั้งมุมถูกใจและเจ็บใจสลับปนๆกันไป
งาน Cinematography คือองค์ประกอบสำคัญที่ต้องชื่นชม เรื่องนี้มีโทนนัวร์หน่อย แต่เล่นแสงได้สวยงาม ภาพมีมิติแปลกตา โฟกัสการบิวท์อารมณ์ผ่านสีหน้า คู่ไปกับงานวางซาวน์ที่สะดุดหูกระตุ้นต่อมตื่นตัวได้ดี มีเอกลักษณ์เข้ากับพล็อตเรื่อง ที่โดดเด่นโดนใจมาก คือ เสียงตึ๊ดตึ๊ดของเครื่องมือการแพทย์ ประมาณว่าเป็นพวกเครื่องวัดสัญญาณชีพหรือหัวใจ ซึ่งจะดังพีคเร่งเร้าจังหวะหัวใจเราให้เต้นระทึกตามในทุกชอตที่สำคัญ
แต่ทั้งหลายทั้งปวง ต้องยกความดีให้กับทีมนักแสดงหลักที่ขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้นมาก ไม่ว่าจะเป็น นัมกุงมิน หน้ายิ้มยั่วซ่อนร้าย กำแผนอย่างสุขุม ชเววอนยอง มาดนิ่งซ่อนร้ายแฝงความจิต คิมบยองชอล งูพิษฉาบรอยยิ้ม หรือจะเป็นเทพแห่งกิ้งก่าดีนะ ทุกคนเป็นมือเก๋าที่สามารถเล่นน้อยๆแต่ได้อารมณ์เยอะๆ ปลายปีคงได้ชิงรางวัลการแสดงกันเองแน่นอน ส่วนการจับคู่กุ๊กกิ๊กของรุ่นใหญ่อย่างคิมจองนัมกับจางฮยอนซอง ก็ฟินโลดได้น่าเอ็นดูเกินคาด
สำหรับใครที่สนุกกับความรู้ทางการแพทย์ เรื่องนี้ศัพท์โรคและยาเยอะเชียว มีโรคใหม่ๆที่ไม่ค่อยคุ้นหูกันมาก่อน ถึงขั้นต้องเสิร์ชกูเกิลกันเลยเชียว อย่างน้อยที่สุด โรคฮันติงตัน ซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่อง ต้องอยู่ในความสนใจผู้ชมแน่นอน มันคือ Huntington Disease เป็นโรคความเสื่อมของสมอง
ถ่ายทอดทางพันธุกรรม นอกจากความจำที่เสื่อมแล้ว ร่างกายจะเคลื่อนไหวไม่ได้ตามปกติ ออกอาการที่ปลายแขนปลายขา รวมไปถึงการแสดงอาการทางจิต เช่นซึมเศร้า ย้ำคิดย้ำทำ หรืออารมณ์สองขั้ว แต่เป็นโรคที่ไม่ค่อยพบเจอในกลุ่มคนไทยหรอก ชื่นชมไปตั้งมากมาย มุมติก็พอมีบ้างนะ คือ ความแผนเยอะก็พามึนล้าเวียนหัว
และเมื่อพลิกไปพลิกมาหลายๆตลบเกิน หลังๆก็อาจมีท้อหรือชักเกิดชาชินได้บ้างในช่วงท้ายๆ ดีที่เขาลดจำนวนตอนลงจากเดิมที่วางไว้ 40 เหลือ 32 ในความตั้งใจที่จะโฟกัสแต่ซีนคัดเน้นๆ ก็มีผลให้เรื่องราวข้ามความสมเหตุสมผลไปบ้าง แต่ก็ไม่เป็นประเด็นสำคัญอะไรนัก เพราะถ้ามองในมุมความสนุกและคุณภาพของงาน ก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในละครมอมเมาความมันส์ ฉีกความจำเจจากละครประโลมโลกอื่นๆที่กลาดเกลื่อนจอได้ดีเลยนะ 555
เป็นการห้ำหั่นที่ใช้วิชาแพทย์ที่ไม่เหมือนเรื่องไหนจริงๆ ค่ะ นอกจากจะหยิบเอา ช่องโหว่ของกฎหมาย กับมุมมืดของวงการแพทย์ มาผูกเรื่องกับการแก้แค้น รวมกับการชิงอำนาจทั้งในและนอกคุก พอมัดรวมกันแล้วกลายเป็นสิ่งที่ชอบมากๆ อีกอย่างคือเรื่องมีเส้นหลักในการแก้แค้นอยู่แล้ว แต่สิ่งที่คิดว่าเลวแล้ว มันยังเลวได้อีก ระหว่างทางเลยมีโจทย์ยากๆ ที่ตัวเอกของเรื่องต้องฝ่าไป เรื่องไม่ได้มีฉากบู๊ ต่อสู้เลือดสาดอะไรเลย มีแค่คำพูดล้วนๆ ก็ทำให้คนดูอย่างเราลุ้นจนนั่งไปติดเลยค่ะ
รีวิวซีรี่ย์ Doctor Prisoner
เปิดเรื่องมา 10 นาทีแรกก็เหมือชกทุกอย่างค่ะ ศัพท์แพทย์เอย ศัพท์อัยการเอย เต็มที่มาก แต่มีแปลอยู่ข้างๆ ไม่ต้องห่วง อาจจะต้องหยุดดูนิดหนึ่งเพื่อทำความเข้าใจ เนื้อเรื่องดำเนินเร็ว ไม่เสียเวลาอธิบายหน้าหลังให้มาก การชิงไหวชิงพริบเลยเกิดขึ้นตลอดเวลา เรียกได้ว่าห้ามหลุดไปสักประโยค เพราะทุกบท ทุกคำพูด ทุกฉากคือการเฉือนคมระหว่างหมอสองคนที่กระดูกเบอร์เดียวกัน คนหนึ่งกิ้งก่าเปลี่ยนสี อีกคนจิ้งจอกกัดไม่ปล่อย
.
แน่นอนว่าพอเกี่ยวกับมุมมืดในอาชีพแพทย์ การกลับมาของนักโทษที่เคยติดคุกในบทบาทที่กุมผลประโยชน์มากที่สุดในเรือนจำ เพราะสามารถยื่นงดบังคับคดีโดยใช้การเจ็บป่วยเป็นข้ออ้างให้แก่คนรวย หรือนักโทษ VIP จ่ายเงินให้เพื่อรับการดูแลพิเศษซึ่งทีเด็ดก็อยู่ที่การปั้นเสริมเติมแต่งโรคที่ไม่ได้เป็นจริงๆ ให้เกิดขึ้นจริงของหมอสายดาร์กนี้แหละค่ะ ต้องทำให้รอดจากสายตาคมของอัยการให้ได้ เนื้อหาช่วงนี้เลยมีโรคแปลกๆ เยอะ อาการของโรคนั้นก็ปางตาย จนระหว่างดูต้องเอาไปเสิร์ชหาอ่านกันหลายรอบเลย
ไม่เคยเจอเรื่องไหนที่เข้ากับคำว่า ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูที่ถาวร ได้เท่าเรื่องนี้เลยค่ะ พลิกลิ้นเพียงคำพูด สำคัญคืออำนาจต่อรอง จับมือกันสามนาที จะฆ่ากันอีกแล้ว โอ๊ย ตอนหนึ่ง ย้ายข้าง สลับมือ แก้เกมกันหลายรอบ ไม่ใช่แค่ตัวเอก แต่ทุกตัวละครที่โลดแล่นเลยค่ะ เพราะฉะนั้นอย่าเข้าข้างฝ่ายไหนเป็นอันขาด เรื่องมันพลิกตลบได้เสมอ มีทั้งสะใจและเจ็บใจพอๆ กันเลยค่ะ
อีกจุดที่ชอบมากคือวิธีการดำเนินเรื่องค่ะ คนดูจะอยู่ล่างสุดของเรื่องนี้ เหมือนแหงนมองข้างบน ว่าเขากำลังทำอะไรกันอยู่มากกว่า ไม่มีใครรู้อะไรมาก่อน รู้แค่ว่าทุกเลวค่ะ แต่เลวสุดคืออะไร ตรงนี้เรื่องจะค่อยๆ เล่าแทรกมาทีละนิด เผยออกมาทีละหน่อย ทำให้เราได้คิดตาม ใช้สมองไม่หยุด ตื่นเต้นและสนุกไปกับเรื่องมากๆ ยิ่งเป้าหมายสุดท้ายของพระเอกจริงๆ บอกเลยว่าคาดไม่ถึง ไม่คิดว่าจะมีการเกี่ยวโยงกันขนาดนี้
จากหมอจิตใจดี จิตเมตตา ผ่านความโหดร้ายมาจนคนกลายเป็นนาอีเจเวอร์ชันถึงพริกถึงขิง กวนประสาทพอๆ กับความเจ้าเล่ห์ แผนการสูง ก่อนที่จะเป็นคาแรกเตอร์เทาๆ เขาเคยขาวบริสุทธิ์มากก่อน แต่มันทำอะไรไม่ได้ สิ่งที่จะชนะได้คือต้องมีอำนาจที่เหลือกว่าเท่านั้น เมื่อตั้งใจที่จะแก้แค้น เส้นทางที่ต้องยอมสละทุกสิ่ง ครอบครัว คนรู้จัก รวมถึงศีลธรรม ความดีงามที่เคยมีในอดีตค่ะ แต่ในระหว่างทาง เขาได้เรียนรู้ข้อผิดพลาด ตรงนี้มันก็ชอบมากอีก บทไม่ได้ทำให้การแก้แค้นมันเพอร์เฟกต์
คิมบยองชอล นัมกุงมิน ชเววอนยอง ขออวยนักแสดงหลักทั้งสามคน อยากกราบอยากเรียกว่าเทพแห่งการแสดง ทุกบทสนทนาเหมือนถือปืนจ่อใส่กัน ถ้าขาดความโฉดของทั้งสาม vibe ของเรื่องนี้จะเปลี่ยนไปเลยค่ะ เฮียนัมแสดงความยียั่วซ่อนร้ายได้เอาเรื่อง ขับเคี่ยวอีกขั้วอำนาจอย่างเข้มข้น เหนืออื่นใดคือซีนฟาดฟัน แต่ไม่ต้องมีอะไรมาก แค่ยืนขยับยิ้ม พูดไม่กี่คำก็ฟันกันยับแล้ว บอกเลยว่าขนลุกกับการแสดงเก๋าเกมกันมากค่ะ
จริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ได้ดูงานของ นัมกุงมิน ค่ะ ตอนดูก็ไม่ได้อะไรมาก แต่พอดูเรื่องต่อไปของนักแสดงคนนี้ต้องบอกว่าเป็นอีกเรื่องทางการแพทย์ที่ยกขึ้นหิ้งไว้เลย ทั้งบท นักแสดง พล็อตที่แหวกซีรีส์แนวหมอจนไม่มีความจำเจเหลืออยู่สักนิด
งาน cinematic กับจัดแสง สวยตาแตกอีกแล้วค่ะ ด้วย Vibe และ Mood and Tone ของเรื่องนัวมืดครึ้มอยู่แล้ว เลยได้เห็นความสนุกในการดีไซน์ฉากแทบทุกฉาก มุมกล้องแปลกๆ ที่สรรหามาได้ อันนี้ต้องกราบ Director Photography ช่างสามารถส่งผลให้ความรู้สึกกดดันและอินกับตัวละครเพิ่มขึ้น
ซาวนด์ในเรื่องก็มีผลนะคะ ติดหูอย่างมาก เวลากำลังฟาดกันเนี่ย เหมือนเครื่องกระตุ้นหัวใจทำงาน อารมณ์ให้คนดูตื่นตามว่าใครจะรอด ใครจะตายในยกนี้ เรียกว่าบิวด์คนดูได้ทุกโซนประสาท มีช่วงติฉากใน รพ ค่ะ ค่อนข้างเบา ถ้าเทียบกับซีรีส์หมอเรื่องอื่น แต่ก็ใช่ว่าจะไม่โอเคนะ ด้วยความที่เนื้อเรื่องหลักอยู่ในคุกมากกว่าคิดว่าโปรดักชันเลยเทไปทางนั้นสะมากกว่า