รีวิวซีรี่ย์ Extracurricular

Extracurricular (인간수업) ถือเป็นหนึ่งในออริจินัลซีรีส์สัญชาติเกาหลีของ Netflix ที่ได้รับความคาดหวังเป็นอย่างสูงในช่วงต้นปี 2020 นี้ ซึ่งเป็นซีรีส์ที่ฉีกแนวไปจากซีรีส์วัยรุ่นวัยใสทั่วไป แต่เป็นซีรีส์วัยรุ่นที่เล่าความดาร์กผ่านตัวละคร เด็กมัธยมธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ที่มีเป้าหมายเพียงต้องการเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของเกาหลีให้ได้เท่านั้น แต่การจะทำความฝันให้สำเร็จได้ ต้องอาศัยปัจจัยสำคัญ นั่นก็คือ ‘เงิน’ ดูหนัง

 

หากใครที่เคยติดตามซีรีส์หลายเรื่องของเกาหลีมาก่อนหน้านี้ คงจะเคยได้ยินหรือได้เห็นคำว่า ‘SKY’ ซึ่งในที่นี้ไม่ได้แปลว่าท้องฟ้า แต่ว่าเป็นตัวย่อของชื่อมหาลัยระดับชั้นนำของเกาหลี นั่นคือ ‘S’ ที่มาจาก Seoul University ‘K’ ที่มาจาก Korea University และ ‘Y’ ที่มาจาก Yonsei University ดูหนังออนไลน์ 

 

การจะเข้ามหาวิทยาลัยดังเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ท่ามกลางการแข่งขันทางการศึกษาที่สูงมากของเด็กนักเรียนทั้งประเทศ และต้องใช้ต้นทุนทางการศึกษาที่สูง กว่าจะถึงปลายทาง สำหรับบางคนอาจมีครอบครัวที่คอยสนับสนุน แต่สำหรับในเรื่องนี้ได้เล่าผ่านมุมมองของเด็กมัธยมคนหนึ่งที่ถูกพ่อแม่ทิ้งให้เลี้ยงดูตัวเองตั้งแต่เด็ก เขาไม่มีทางเลือกในการหาเงินได้มากมาย จนต้องตัดสินใจเลือกเส้นทางที่แสนอันตรายจากความจำเป็น ดูหนัง 4k 

 

ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องราว ของ โอจีซู (รับบทโดย คิมดงฮี) เด็กนักเรียนชั้นมัธยมคนหนึ่งที่ภายนอกเขาเป็นคนเงียบ ๆ ไม่สุงสิงกับใคร เขามีความมุ่งมั่นในการหาเงินส่งตัวเองเพื่อที่จะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย และเขาได้เลือกที่จะก่ออาชญากรรมที่ร้ายแรง เพื่อแลกกับ ‘เงิน’ ซึ่งมาพร้อมกับ ‘ความเสี่ยง’ ที่ยากเกินคาดเดา ดูหนังออนไลน์ 4k 

 

ในขณะเดียวกัน ซอมินฮี (รับบทโดย จองดาบิน) และ แบกยูรี (รับบทโดย พัคจูฮยอน) ได้มีส่วนพัวพันในอาชญากรรมครั้งนี้ การตัดสินใจของเขาได้ลุกลามบานปลายจนยากที่จะแก้ไข เขาจะเผชิญหน้ากับผลลัพธ์จากการกระทำของเขานี้อย่างไร รีวิวซีรี่ย์ 

 

นักแสดงนำผลงานนี้ล้วนแล้วแต่เป็นนักแสดงวัยรุ่นคลื่นลูกใหม่ที่ได้รับการจับตามอง ไม่ว่าจะเป็น ‘คิมดงฮี’ นักแสดงหนุ่มที่เดบิวต์ผ่านผลงานเว็บดราม่า A-TEEN และเพิ่งได้รับความสนใจอย่างสูงจากบทบาท ชางกึนซู ในซีรีส์ Itaewon Class ‘พัคจูฮยอน’ นักแสดงสาวหน้าใหม่ที่ฝีมือการแสดงไม่ธรรมดา

 

รีวิวซีรี่ย์ Extracurricular

 

ที่ก่อนหน้านี้ เธอสวมบทบาทเป็น จีซู รักแรกที่ฮาวอนฝังใจ ในซีรีส์ A Piece of Your Mind ‘จองดาบิน’ นักแสดงวัยรุ่นที่อยู่ในวงการบันเทิงมาตั้งแต่อายุน้อย ซึ่งผ่านประสบการณ์การแสดงมานับไม่ถ้วน และ ‘นัมยุนซู’ นายแบบนักแสดงหนุ่ม ที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาเขาดีจาก MV เพลง First Love ของ Epitone Project ร่วมกับ ซูจี

 

ในเรื่องนี้ผู้ชมจะได้เห็นพวกเขาเหล่านี้พลิกบทบาทที่แตกต่างไปจากผลงานที่ผ่าน ๆ มา จนน่าตกใจ ซึ่งเคมีระหว่างนักแสดงแต่ละคนนั้นมีความเข้ากันอย่างลงตัว ส่วนตัวค่อนข้างคาดหวังกับซีรีส์เรื่องนี้ตั้งแต่แคสติ้งนักแสดง และได้เห็นความดาร์กของเรื่องนี้ตั้งแต่หน้าโปสเตอร์ ซึ่งพอได้ชมแล้ว ก็ต้องขอชื่นชมว่าเปิดเรื่องมาด้วยความน่าสนใจ

 

ทั้งในตัวเนื้อหาที่เล่าเรื่องราวอาชญากรรมความรุนแรง ที่เกิดขึ้นนอกโรงเรียน แต่บุคคลที่เกี่ยวพันกับเรื่องนี้นั้นเป็นเด็กนักเรียนในโรงเรียนเดียวกัน ซึ่งตัวละครแต่ละคนล้วนมีปมเป็นของตัวเอง รวมไปถึง Mood&Tone เรื่องที่ฉีกสไตล์การเล่าเรื่องในแบบที่เราคุ้นเคยในซีรีส์เกาหลี กลิ่นอายของซีรีส์เรื่องนี้ให้ความรู้สึกคล้ายซีรีส์โรงเรียนของญี่ปุ่น ที่มีพาร์ทความคิดฟุ้งซ่านที่มโนขึ้นมาของตัวละคร ซาวน์ประกอบที่ขึ้นมาได้ถูกจังหวะและบิ๊วท์อารมณ์ให้เรารู้สึกอยากติดตามว่าเรื่องราวจะนำพาเราไปในทิศทางไหน

 

ในเรื่องเราจะได้เห็นความบานปลายของการกระทำของตัวละครหลัก ที่มาถึงจุดที่ยากเกินจะหันหลังกลับ พวกเขาจึงเลือกที่จะไปต่อให้สุดทาง ในขณะเดียวกันก็มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ที่ทำเราแอบคิดขึ้นมาว่าถ้าเกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นมาจริงๆ จะเป็นอย่างไร

 

ส่วนของการกำกับ สามารถทำออกมาได้น่าสนใจและดึงให้คนดูอย่างเรารู้สึกอึดอัด และอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้ ผู้กำกับคิมจินมิน ซึ่งเคยผ่านผลงานกำกับซีรีส์มาหลายเรื่อง อย่าง Lawless Lawyer / Marriage Contract / Pride and Prejudice / Time Between Dog and Wolf ในขณะที่นักเขียนบทเรื่องนี้

รีวิวซีรี่ย์ Extracurricular

นักเขียนบทฮันจินเซ เป็นนักเขียนบทหน้าใหม่ ส่วนตัวรู้สึกว่าเขาสามารถหยิบยกประเด็นที่น่าสนใจมาเล่าได้ดี แต่ยังคงมีช่องโหว่หลายอย่าง ทั้งความสมเหตุสมผลในการกระทำของตัวละคร การผูกและคลายปมที่น่าจะสามารถไปให้สุดได้มากกว่านี้ การเล่าเรื่องมีบางช่วงรู้สึกขัดใจและทำให้หงุดหงิดอยู่ไม่น้อย และมีหลายอย่างที่ยังคงค้างคาใจและตั้งคำถามหลังจากซีรีส์จบลง

 

Extracurricular ชมรมลับธุรกิจรัก เป็นออริจินัลซีรีส์สัญชาติเกาหลีของ Netflix เล่าเรื่องราวความดาร์กผ่านตัวละครที่เป็นเด็กมัธยมปลาย คือโอจีซู (คิมดงฮี) ที่ภายนอกเป็นคนเงียบ ๆ สุขุม ขยันเรียน มีความประพฤติดี เขาตั้งเป้าที่จะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยการหาเงินส่งตัวเองเพราะพ่อแม่แยกทางกัน

 

แต่วิธีการหาเงินของเขามาพร้อมกับความเสี่ยงที่เหนือการคาดเดา เพราะมันคืองานผิดกฎหมายและผิดศิลธรรมอย่างร้ายแรง แต่เมื่อ แบกยูรี (พัคจูฮยอน) เพื่อนร่วมชั้นของจีซู เด็กสาวที่มีชีวิตสมบูรณ์แบบ ฐานะร่ำรวย ที่ดูเผิน ๆ เหมือนจะเพียบพร้อมในทุก ๆ ด้าน รู้ความลับนั้นเข้าเธอตัดสินใจร่วมมือกับจีซู

 

เพียงเพื่อต้องการต่อต้านครอบครัวที่ตั้งความคาดหวังกับเธอไว้สูง แต่ทั้งสองคนหารู้ไม่ว่า การดำเนินการในกิจการด้านมืดในครั้งนี้จะนำมาซึ่งอาชญากรรมร้ายแรง จนทำให้ ซอมินฮี (จองดาบิน)และ ควักกีแท (นัมยุนซู)เพื่อนร่วมชั้นเรียนอีกสองคน เข้ามามีส่วนพัวพันในอาชญากรรมครั้งนี้ด้วย

 

รีวิวซีรี่ย์ Extracurricular

 

โอจีซู เป็นเด็กบ้านแตก พ่อแม่แยกทางกันแล้วต้องอยู่ตัวคนเดียว เขาเรียนดีเพราะขยันแต่มักจะโดนเพื่อนกลั่นแกล้ง ตัวละครตัวนี้มีความเป็น Loser เป็นเด็กขี้แพ้แต่ใฝ่ดี คือต้องการเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของเกาหลีให้ได้ แต่ติดอยู่ตรงที่การจะทำความฝันให้สำเร็จได้ มันต้องใช้ “เงิน” สำหรับเด็กบ้านแตก

 

ความฝันมันแพงเกินเอื้อม (เขาคิดแบบนี้) เขามีความฝันของเขาแปะฝาบ้านเอาไว้เลยนะว่า SKY เหนือไปอีกขั้น นั่นหมายความว่าเขามีความมุ่งมั่นที่จะต้องเข้ามหาวิทยาลัยในระดับ SKY ที่ไม่ได้แปลว่าท้องฟ้าให้ได้ มันคือความต้องการสูงสุดของเขาในขณะนี้ เพื่อถีบตัวเองออกไปจากจุดที่รู้สึกว่าต้อยต่ำและต้องการการยอมรับจากสังคม

 

ซึ่งการจะเข้ามหาวิทยาลัยดังขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งการแข่งขันที่สูงเอามาก ๆ ของเด็กนักเรียนทั้งประเทศ ทั้งค่าใช้จ่ายที่แพงหูฉี่ ซีรีส์ทำให้เห็นว่าเขาไม่มีใครคอยซัปพอร์ต วัน ๆ เขาเอาแต่ตั้งใจเรียนและคำนวณตัวเลขที่เขาจะต้องใช้ไปกับการศึกษาของตัวเอง “ความฝันของผมคือเรียนให้จบ ทำงานหาเงินเลี้ยงลูก แล้วก็ตาย”

 

ความต้องการของเขามีเพียงอยากเป็นมนุษย์ธรรมดาเหมือนคนอื่น ๆ ที่เรียน ทำงาน และใช้ชีวิตไปจนถึงจุดจบอย่างธรรมดาสามัญ แต่แค่ค่าเรียนพิเศษก็ปาเข้าไป 2ล้านวอน ทำให้เขาไม่มีทางเลือกในการหาเงินได้มากมาย จนต้องตัดสินใจเลือกเส้นทางที่โคตรอันตรายจากความจำเป็น

 

ลืมไปเลยกับคำว่า ศีลธรรม จนทำให้รู้สึกว่าความต้องการอันแรงกล้าที่จะถีบตัวเอง ทำให้เด็กหัวดีใสซื่อคนหนึ่งเดินทางผิดจนถอนตัวไม่ขึ้น หนำซ้ำไอ้ศีลธรรมที่หายไปนี่แหละก็ทำให้เด็กหัวดีอีกคนเข้ามาพัวพันกับเรื่องราวดาร์ก ๆ ครั้งนี้ด้วย แบบที่ไม่มีใครเขาเชิญชวน เรื่องนี้มันดาร์กถึงขนาดที่บทเขียนให้

 

โอจีซู เด็กม.ปลายใฝ่เรียน เปิดกิจการ ค้าประเวณี ผ่านทางแอปพลิเคชัน มีห้องแชตที่คอยแจกจ่ายงานให้สมาชิก โดยที่ทุกคนไม่มีใครรู้จักว่าเจ้าของห้องแชตเป็นใคร แม้แต่ คุณลี (ชเวมินซู) ผู้คุ้มกันที่รับงานจากเขาก็ไม่เคยเห็นหน้าเจ้าของห้องแชตนี้ หรือแม้กระทั่ง ซอมินฮี ที่เป็นหนึ่งในเด็กของสังกัดก็ไม่เคยเห็นหน้า พ่อเล้า ที่คอยหางานให้ คือหัวดีขนาดนี้เอ็งควรไปทำอย่างอื่นไหมล่ะ หืมมมม

งานนี้ทำรายได้ให้มหาศาล เพียงพอกับที่โอจีซูจะใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียน เขาหวังเพียงแค่ขอให้มีเงินจ่ายค่าที่พัก ค่ากินอยู่และค่าเรียนที่สูงลิบลิ่วของตัวเองเท่านั้นแหละแต่ แบกยูรี ที่เป็นเพื่อนร่วมชั้น ถึงแม้จะมีฐานะทางบ้านร่ำรวยแต่ก็ขาดความอบอุ่นและมีความกดดันจากพ่อแม่ที่ตั้งความหวังกับลูกสาวไว้สูงจนเด็กรับไม่ไหว

 

ซีรีส์แสดงออกถึงความเก็บกดของ แบกยูริ ด้วยอารมณ์ภายในใจเป็นจินตนาการทางความรุนแรงต่อพ่อแม่ของตัวเองและเปิดเผยมันออกมาด้วยความป่วย ๆ ด้วยการจิกนิ้วตัวเอง ขโมยของเพื่อความสนุก จนทำให้รู้ความลับของ โอจีซู เข้าจนได้และคิดอยากจะเล่นสนุกต่อไปแบบถลำลึกเพื่อจะเป็นในสิ่งตรงกันข้ามกับที่พ่อแม่ต้องการ สุดท้ายสองคนร่วมมือกันจนนำพาให้ชีวิตตกอยู่ในความดำมืดตึ๊ดตื๋อแบบชนิดที่ว่าดูไปแล้วก็บอกว่า พอเหอะพวกเอ็ง มันจะไปกันใหญ่แล้ว พอแล้วมั้ยป้าขอร้อง

 

เป็นซีรีส์ที่ดูแล้วสงสารตัวละครเด็กทุกคนมาก ในความเป็นวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ แล้วขาดความรักที่ถูกที่ควร ขาดความเอาใจใส่ของพ่อแม่มันทำให้เด็กตัดสินใจผิดเอาได้ง่าย ๆ แถมยังเป็นการตัดสินใจที่หมางเมินศีลธรรมอันดีซะอีกด้วย และสิ่งที่ทำลงไปก็ไร้ซึ่งความรอบคอบ (ก็เขายังเด็กกันอยู่อ่ะนะ)

 

ความดาร์กของเรื่องนี้มันอยู่ที่ เด็กดี ๆ คนหนึ่งตัดสินใจทำผิดศีลธรรมเพียงเพื่อต้องการเงินมายกระดับชีวิต เหมือนจะไม่สมเหตุสมผลที่ไปทำแบบนั้น แต่ด้วยบทและธีมของเรื่องก็ทำให้เรายอมรับได้ซะอย่างนั้นว่า ใช่แหละ ไอ้เด็กคนนี้มันคิดได้ดีที่สุดก็แบบนี้นั่นแหละ เพราะมันสามารถที่จะเป็นด้านมืดของชีวิตวัยรุ่นที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง

 

ที่ขณะเดียวกันผู้ใหญ่ในสังคมบางกลุ่มก็ไม่แยแสต่อการกระทำที่ไร้ศีลธรรมของเด็ก ๆ แถมยังจะหาประโยชน์จากพวกเขาซะอีกด้วย เรียกว่าซ้ำกันเข้าไปและถีบให้ลึกลงไปอีก แต่ซีรีส์ก็ยังสร้างให้มีผู้ใหญ่อีกกลุ่ม ที่เห็นคุณค่าและหัวใจที่บอบช้ำ พยายามช่วยเด็ก ๆ อยู่อีกฝั่ง เราจะถือว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่างสู่สังคมให้หันกลับมาใส่ใจจุดเล็ก ๆ ที่อาจมองข้ามไปก็ไม่น่าจะผิด

ซีรีส์เล่นกับปัญหาของเด็กที่ผู้ใหญ่ในครอบครัวไม่เคยจะรับรู้ การผลักภาระอันหนักอึ้งให้หัวใจดวงน้อย ๆ ต้องต่อสู่เพียงลำพัง บ่มเพาะความเห็นแก่ตัวให้เด็กแบบไม่รู้ตัว จนทำให้พวกเขาตัดสินใจแก้ปัญหากันเองและพาตัวเองร่วงลงสู่เหวที่ลึกแสนลึก ระหว่างที่ดูก็คอยคิดในใจว่า ไปบอกครูดีมั้ย

 

ไปปรึกษาครูเถอะอย่าคิดกันเองเลยพวกเอ็ง คือดูแล้วก็อินจนเกิดความเป็นห่วง ก็ถือว่าซีรีส์มีการจับประเด็นสั้น ๆ มาขยายความ ตีแผ่และด่าทอสังคมได้เจ็บปวดเอามาก ๆ แล้วยิ่งมารู้ว่า จินฮันเซ ผู้เขียนบทเรื่องนี้เป็นนักเขียนหน้าใหม่ที่ได้เดบิวต์ผลงานเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกก็ต้องร้องว่า อุ๊ย!! ทำไมเก่งจัง

 

ถึงการดำเนินเรื่องใน 2ep แรกจะยังไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเท่าไหร่ จนออกจะเนือย ๆ อยู่สักหน่อย เพราะเป็นการแนะนำตัวละคร เสนอภาพของชีวิตที่มีขาวกับดำ ความต่างของคนสองสถานะแต่สภาพจิตใจเดียวกัน ความประพฤติต่าง ๆ ของวัยรุ่นในโรงเรียนมัธยมที่ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าเรื่องราวเหล่านี้มันมีได้จริง ๆ ในสังคมทุกวันนี้ แล้วเด็กมัธยมปลายเขาก็คิดได้แค่นี้แหละวุฒิภาวะเขามีแค่นั้น ถ้าเราดูด้วยหัวใจที่ไม่ต่อต้าน เชื่อว่าผู้หลักผู้ใหญ่ต้องหันไปสนใจบุตรหลานของตัวเองมากยิ่งขึ้นกันแน่ ๆ

 

ในแต่ละตอนเป็นเรื่องราวต่อเนื่องกันก็จริง แต่ไม่สามารถเดาความคิดของตัวละครเด็ก ๆ ได้ว่าจะทำอะไรต่อไปอีกหลังจากนี้ อะไรที่คิดไว้ว่าน่าจะเป็นแต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด จนปล่อยไปเลยละกัน ไหนดูซิว่าจะมีอะไรพังพินาศจากการแก้แหของพวกเอ็งอีกไหม (ซึ่งมีอยู่แล้วละ) ทำให้สามารถสร้างความอยากรู้ที่จะติดตามชมในตอนต่อ ๆ ไปได้อย่างไม่ยาก

 

เป็นการนำเสนอที่ดาร์กมาก ๆ กับความรู้สึกที่ทำให้อยู่ ๆ เราก็เห็นใจเด็กซะเหลือเกิน ไม่อยากให้โดนจับได้ ไม่อยากให้ต้องเจอกับเรื่องเลวร้าย ทั้ง ๆ ที่ดูทรงแล้วชีวิตพวกเอ็งน่ะ มองหาหนทางที่จะไปดีไม่ได้เลย ทั้งเป็นห่วง เข้าใจและอยากเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่กระโจนเข้าไปช่วยให้หลุดจากเหวลึกที่จมลงไปทุกที ๆ

 

เราจะไม่เกิดความรู้สึกแบบนี้เลยนะถ้าบทเขียนให้เด็กทั้ง 4 คน เป็นเด็กที่เลวในสันดาน แต่บทสร้างจุดเจ็บในใจไว้ว่า เขาก็แค่ต้องการมีชีวิตที่ดีและได้รับการยอมรับ ไม่ว่าจะเป็น โอจีซู ที่ต้องการถีบตัวเองจากจุดที่โดนทอดทิ้งซึ่งไอ้เด็กคนนี้มันน่าสงสาร มีระดับอารมณ์และความคิดที่ผันแปรไปตามสถานการณ์ที่หนักอึ้งขึ้นเรื่อย ๆ แบกยูริ

 

ที่ต้องการมีชีวิตเป็นของตัวเองโดยพ้นจากการบังคับของพ่อแม่ และเด็กคนนี้ควรจะได้พบแพทย์ ซอมินฮี ที่ต้องการความรักจากผู้ชายคนหนึ่ง และการยอมรับจากสังคมที่ฉาบฉวยด้วยการหาเงินแบบผิด ๆ หรือ ควักกีแท ที่ดูเหมือนจะเป็นเด็กเกเรแต่ก็ลุกขึ้นมาปกป้องผู้หญิงของตัวเองแบบเด็กเสเพลคนหนึ่ง จนความซวยเข้ามาเยือน ตัวละครตัวนี้ดูเผิน ๆ เหมือนจะมีบทที่เบาบางกว่าตัวอื่น แต่ดูไปเถอะเขาก็มีอะไร ๆ ที่เข้มข้นอยู่เหมือนกัน

 

รีวิวซีรี่ย์ Extracurricular