รีวิวซีรี่ย์ Extreme Job (2019) ภารกิจโปลิศสุดโต่ง ตำรวจขายไก่
รีวิวซีรี่ย์ Extreme Job (2019) ภารกิจโปลิศสุดโต่ง ตำรวจขายไก่
เป็นเรื่องราวของทีมตำรวจไฟแรงที่ทำงานกันแบบทุ่มสุดตัวแต่ดันพลาด จะจับคนร้ายทั้งทีก็เรียกว่า เดือดร้อนไปทั้งเมือง งานนี้เลยโดนเรียกมาสั่งสอนจากหัวหน้าชุดใหญ่แบบไฟกระพริบ แต่คนที่จะได้รับหนักหน่อยก็ไม่วายเป็น หัวหน้าทีมโก ซึ่งเป็นผู้นำจับในครั้งนี้ ลูกน้องภายในทีมก็โดนไปตามๆ กัน และเสียหน้ายิ่งไปอีกเมื่อตำรวจรุ่นน้องดันได้ดีเกินรุ่นพี่อย่างหัวหน้าทีมโกไปซะแล้ว งานนี้ทีมของเขาต้องรีบสร้างผลงานกันอย่างด่วนๆ ไม่งั้นถูกพิจารณาทีมอีกแน่ สุดท้ายก็ได้งานตามสืบและจับเจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ที่ไม่ว่าจะยังไงก็หาหลักฐานมามัดตัวไม่ได้สักที จนพวกเขาทั้งห้าคนประกอบด้วย หัวหน้าทีมโก , นักสืบยองโฮ , นักสืบจาง , นักสืบมา และนักสืบแจฮุน ต้องมาแอบตามสืบที่ร้านไก่ทอดซึ่งตรงข้ามกับแก๊งค้ายา จับพลัดจับผลูอยู่ดีๆ ก็ได้เป็นคนขายไก่ทอดกันซะงั้น งานก็ต้องสืบไก่ก็ต้องขายจะไปกันรอดไหมรับชมได้ที่ Extreme Job ดูหนัง
ว่ากันว่าคนเรามักจะทำงานที่ตัวเองรักได้ดีกว่าหน้าที่ที่ต้องทำเสมอ แต่สงสัยคำพูดเหล่านี้คงใช้ไม่ได้กับกลุ่มตำรวจสายกากกลุ่มหนึ่งที่มีสมาชิกทีมอยู่ตั้ง 5 คน แต่ดั๊นนนไม่เคยปิดคดีเด็ด ๆ ได้เลยสักครั้ง นี่จึงเป็นโอกาสสุดท้ายก่อนที่พวกเขาจะโดนพับโครงการ กับปฏิบัติการซุ่มจับเจ้าพ่อแก๊งค้ายาสุดโหด ที่รังโจรนั้นก็ดันมาอยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านขายไก่ทอดที่กำลังจะเจ๊งซะอย่างนั้น ด้วยความที่ไม่อยากเสียทำเลทองไปพวกเขาจึงจำใจเซ้งร้านต่อแล้วมาขายไก่ทอดบังหน้ามันซะเลยละกัน แต่ดูเหมือนว่ากิจการไก่ทอดจะไปได้ดีว่าหน้าที่การงานจริง ๆ ซะจนพวกเขาอาจจะต้องตัดสินใจแล้วว่า …หรือพวกเขาจะไปได้ดีกับตำแหน่งราชาไก่ทอดกันแน่นะ!?! ดูหนังออนไลน์
และนี่ก็คือเรื่องย่อสุดกาวแบบคร่าว ๆ ของภาพยนตร์เกาหลีใต้สุดฮอตอย่าง ‘Extreme Job’ ที่เปิดตัวแรงสุด ๆ ด้วยการทำลายสถิติเป็นภาพยนตร์ที่มียอดผู้ชมจำนวนกว่า 2 ล้านคน ภายในเวลาเพียงแค่ 3 วัน! จนเกิดเป็นกระแส Talk of the Town ในเกาหลีไปแล้วในช่วงต้นปี 2019 ที่ผ่านมานั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์มาแรงของปีนี้เลยก็ว่าได้
กับพล็อตหนังแบบสั้น ๆ สุดบ้าบอ ที่แค่อ่านผ่าน ๆ ก็กระตุ้นต่อมอยากดูของคนดูหนังเข้าอย่างจัง ถึงขนาดที่ในบ้านเราได้มีคนเอามารีวิวไว้บนสื่อโซเชียลครั้งหนึ่ง แล้วก็เกิดเป็นกระแสตามหาที่มาของหนังเรื่องนี้กันเต็มหน้าไทม์ไลน์เลยทีเดียว ว่าแล้วก็อย่าชักช้าถ้าใครอยากรู้ว่าของเขาดีจริงไหม? เรามีคำตอบมาให้แล้วจ้า! ดูหนัง 4k
หนังแอคชั่น คอมเมดี้ สุดฮา จากในทีแรกผมยังไม่ได้ดูชื่อผู้กำกับ แต่พอได้เห็นแล้วก็ไม่แปลกใจกับชื่อ อีบยองฮุน เพราะงานล่าสุดของเขาที่ได้ดูก็คือ Be Melodramatic ซีรีส์ คอมเมดี้ สุดกวนที่ถูกใจผมเอามาก ๆ ส่วนในหนังเรื่องนี้มุกแต่ละอย่าง ก็แทบจะถอดแบบจังหวะการชงมุกยิงมุก มาจาก Be Melodramatic เลยล่ะ แถมจะว่าไปมีนักแสดงจากซีรีส์ที่ว่ามาอยู่ในหนังเรื่องนี้ เท่าที่จำได้ก็สามสี่คนเป็นอย่างน้อย อย่างนักสืบน้องเล็กแจฮุน ก็รับบทเป็น แจฮุน (ชื่อเดียวกันซะอีก) ในซีรี่ส์ Be Melodramatic อีกด้วย ดูหนังออนไลน์ 4k
หนังมีความฮาแบบกวน ๆ อยู่ในที คือ มุกตลกสไตล์ของผู้กำกับ อีบยองฮุน ไม่เชิงว่าเป็นดาร์กคอมเมดี้ แต่ก็ไม่ใช่มุกตลกสีขาวที่ทุกคนจะขำไปด้วยได้ เมื่อมักเป็นการเสียดสีทำอะไรเพี้ยน ๆ Surreal ล้อเลียน มีคำหยาบคาย หรือเอาเรื่องเศร้ามาพลิกให้เป็นความตลกขำขัน จะว่าหนังในสไตล์ของผู้กำกับคนนี้มัน mass ไหม ผมว่ามันก็ไม่เชิงนะ อย่างพอเป็นซีรีส์ยาวแบบ Be Melodramatic ที่ใช้สไตล์เดียวกัน แม้จะเป็นที่พูดถึงบ้างแต่เอาจริงก็ถือว่าไม่ปังนะ เพียงแต่พอมาเป็นหนังที่สั้นแค่ชั่วโมงกว่า มันเลยกลายเป็นเหมือนอาหารที่รสชาติพอดี ไม่เฝือ ไม่ล้นจนเกินไป รีวิวซีรี่ย์
เหมือนหนังเสียดสีอาชีพตำรวจในทำนองเห็นอกเห็นในอยู่เล็ก ๆ เมื่อตำรวจเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงสูง แต่เครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์กลับไม่ค่อยมีความพร้อม รายได้ก็น้อย ความรับผิดชอบสูง ทำงานผิดพลาดก็โดนเรียกไปด่า แถมยังต้องทำผลงานแข่งขันกันหากอยากจะไปอยู่ในจุดที่ดีกว่าเดิม ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมด มันเลยทำให้บางครั้งเจ้าหน้าที่ก็อาจเผลอตัวเผลอใจ ลืมหน้าที่ของตัวเองและหลงไปกับช่องทางอื่นที่สามารถหาเงินทองได้มากกว่า
เพียงแต่ Extreme Job (2019) เรื่องนี้ไม่ได้ ทำออกมาในมุมมองที่ตำรวจ หลงลืมหน้าที่แล้วไปทำอะไรผิดกฎหมาย แต่การที่พวกเขาสามารถทำงานอย่างอื่น นอกจากการเป็นตำรวจจนประสบความสำเร็จได้ มันก็ย่อมทำให้พวกเขาตั้งคำถามกับตัวเองว่า หรือว่าการเป็นตำรวจจับผู้ร้ายมันจะไม่เหมาะกับพวกเขาจริง ๆ
แต่เห็นแอดเขียนแบบเหมือนมีเนื้อหาสาระ แล้วหวังว่าจะได้สาระอะไรจากหนัง ขอบอกว่าคุณคิดผิดนะ ฮ่าฮ่า ไม่มีอะไรแบบนั้นให้หรอก หนังเพียงแค่หยิบเอาบางส่วนของชีวิตตำรวจมาเป็นกิมมิก ที่เหลือนอกนั้นก็มีแต่สิ่งไร้สาระ บุคลิกแปลก ๆ พฤติกรรมเพี้ยน ๆ ของตัวละครตลอดทั้งเรื่อง
เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ยกขึ้นหิ้งในใจเลยกับเรื่องนี้ เรื่องย่ออาจจะไม่ได้ดึงดูดเพื่อนๆ กันสักเท่าไหร่ แต่นักเขียนขอรับประกันความสนุกแบบเต็มร้อยคุณจะไม่เสียเวลาแน่นอนถ้าได้ดูเรื่องนี้ เป็นหนังตลกแอ็คชั่นที่ทำออกมาได้อย่างกลมกล่อม ถ้าเป็นอาหารก็คืออร่อยมากๆ โดยตัวหนังจะเล่าเรื่องการทำงานเป็นทีมของหัวหน้าทีมโกและเหล่านักสืบว่าทำงานยังไงและใครมีหน้าที่อะไรแบบไหน และหากคุณคิดว่าอาจจะเหมือนหนังจับเจ้าพ่อค้ายาแบบเดิมๆ ต่อสู้ บุกรัง บอกเลยว่าผิดถนัด ขอเบรคด่วน สำหรับ Extreme Job ให้คุณมากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะจับพ่อค้ายา หรือ ทำธุรกิจบอกเลยว่าเหมาหมด ทั้งนี้ตัวหนังได้มีการสร้างทางเลือกให้กับตัวละครซึ่งเราต้องมาลุ้นกันว่า พวกเขาจะเลือกเส้นทางไหน เมื่องานที่ทำอยู่ดันไม่รุ่งอย่างที่คิดแม้จะทุ่มสุดตัว แต่งานที่คิดว่าจะทำเป็นอดิเรกหน้าร้านหลอกอย่างการเซ้งร้านไก่ทอดมาเปิดเองดันรุ่งจนฉุดไม่อยู่ งานนี้พวกเขาจะเลือกทางไหนกันต้องไปเอาช่วย
และยังมีนักแสดงระดับ Top อีกมากมายที่มาปรากฎในเรื่องนี้ถ้าไม่ดูจะพลาดหนักๆ แบบของจริง ข้อเสียของภาพยนตร์เรื่องนี้มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่ขัดใจนักเขียนสุดๆ คือ คือ คือ 1 ชั่วโมง 51 นาทีมันน้อยเกินไป อยากจะดูสัก 24 ชม. (นี่คิดว่าดูไหวแน่ๆ เพราะมาราธอนซีรีส์จีนก็ทำมาแล้ว)
แต่ก็ไม่ต้องห่วงนะว่าถ้าหนังมันออกไปทางตลกจ๋าซะขนาดนี้ พาร์ตของตำรวจและการไล่ล่าจะดรอปลงไปหรือไม่? เพราะบอกได้คำเดียวเลยว่า “เดือดมาก!” ยิ่งขึ้นชื่อว่าหนังเกาหลียุคนี้ ความจริงจัง และบรรยากาศกดดันในสไตล์หนังตำรวจจับผู้ร้ายนั้นมีให้เห็นอยู่พอสมควรเลยแหละ แม้ว่าสัดส่วนของมันอาจจะต้องถูกหารกับความเป็นคอมเมดี้ออกไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตัวหนังขาดน้ำหนักของความเป็นหนังแอ็กชันลงไปแม้แต่น้อย ฉากต่อสู้ก็ทำได้ดี มีความน่าจดจำและไม่เยอะจนเวิ่นเว้อ แถมทุกตัวละครหลักยังมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนและโดดเด่นในแบบของแต่ละคนสูงมาก ทำให้คนดูสามารถจดจำและประทับใจกับทุกตัวละครได้อย่างที่ไม่มีบทไหนถูกลืมอย่างแน่นอน เรียกได้ว่าลงตัวและกลมกล่อมแบบพอดีคำซะจนจะเรียกว่าเป็นหนังดู “อร่อย” ก็ไม่แปลกเลย (ไก่ทอดในหนังก็ดูน่าอร่อยมากเช่นกัน)
สิ่งสำคัญที่สุดคงจะเป็นใจความสำคัญของหนัง ที่ผู้กำกับขยี้ประเด็นด้วยการจั่วหัวตั้งคำถามกับคนดูตั้งแต่ต้นเรื่องว่า ‘ความล้มเหลวที่มีเกียรติ และความสำเร็จที่น่าอาย’ อะไรคือสิ่งที่คุณจะเลือกถ้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับพวกเขาเหล่านั้น? ซึ่งมันเป็น Message ที่ค่อนข้าง Touch กับความรุ้สึกของกลุ่มคนดูส่วนใหญ่ กับยุคปัจจุบันที่ชีวิตถูกกำหนดด้วยบทบาทและเงื่อนไขทางสังคมมากมาย จนหลาย ๆ ครั้งที่เราก็ต้องเลือกปากท้องมากกว่าความฝัน ไม่ต่างอะไรกับตัวละครในหนังเรื่องนี้ ซึ่งตัวหนังสามารถทำให้เราคนดูเชื่อได้จริง ๆ ว่าชีวิตของตัวละครหลักเหล่านั้นช่างบัดซบซะจนเราเองก็แอบรู้สึกตามไปเหมือนกันว่า “ถ้าต้องเจองานแบบนี้ไปขายไก่ทอดยังดีซะกว่า!” แถมมุกตลกร้ายหรือความวายป่วงทั้งหลายที่ใส่ลงไปในหนัง มันทำให้เราขำก๊ากได้ในตอนแรก จากนั้นพอเรารู้สึกตัวอีกทีความตลกนั้นก็ทำเอาหัวใจเจ็บจี๊ดขึ้นมาได้เหมือนกัน งานนี้สรุปแบบสั้น ๆ ได้ใจความเลยว่า “กลมกล่อม ครบรส อูมามิมากเลยจ้ะ”