รีวิวซีรี่ย์ Gossip Girl 2021

สำหรับเรื่องราวในซีรีส์ชุดนี้จะเป็นภาคต่อของซีรีส์ Gossip Girl ที่โด่งดังจบผ่านไปแล้ว 9 ปี ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่ในภาคดั้งเดิมนั้นจะเป็นการบอกเล่าถึงชีวิตของกลุ่มนักเรียนไฮโซในนิวยอร์ก และบรรดาครูอาจารย์ ที่พูดกันถึงบล็อกในตำนานอย่าง “สาวช่างเม้าท์” (ตามชื่อเรื่องสาวGossip) ที่ครั้งหนึ่งเคยเขียนแฉพฤติกรรมของเหล่าวัยรุ่นไฮโซหน้าตาดีแต่เบื้องหลังอื้อฉาวทั้งหลาย ดูหนัง

รีวิวซีรี่ย์ Gossip Girl 2021

ในซีรีส์ภาคต่อชุดนี้ก็จะมีการเล่าถึงนักแฉในตำนานคนนี้ เมื่อ จูเลียน คัลโลเวย์ สาวไฮโซสุดแสบในโรงเรียนที่เป็นคนดังสุดๆทั้งอิทธิพล เงิน และชื่อเสียง รวมถึงการเป็นนางแบบชื่อดัง ได้เตรียมต้อนรับ โซย่า ล็อต น้องสาวต่างพ่อที่ได้ทุนการศึกษาเข้ามาเรียนในที่เดียวกัน โดยทั้งสองหวังว่าจะสานสัมพันธ์กันในฐานะพี่น้องที่ดีได้ แต่เนื่องจากความแสบสันต์ของจูเลียนที่ทำให้เหล่าครูต้องปวดหัวและถึงขั้นถูกไล่ออก ทำให้ครูสาว เคท เกลเลอร์ ที่ค้นพบเรื่องราวของบล็อกสาวช่างเมาท์ในตำนาน ตัดสินใจงัดบล็อกนี้ขึ้นมาเขียน “เรื่องราวซุบซิบของเหล่านักเรียนไฮโซ” โดยมุ่งเป้าไปที่ตัวจูเลียนและโซย่า เพื่อหวังว่าจะควบคุมและเปลี่ยนพฤติกรรมของนักเรียนยุคนี้ ให้อยู่ในการควบคุม ดูหนังออนไลน์ 

รีวิวซีรี่ย์ Gossip Girl 2021

ในขณะเดียวกันเหล่าวัยรุ่นไฮโซสุดแสบที่เคยคิดว่าพวกตนสามารถควบคุมทุกอย่างได้ดั่งใจต้องการรวมถึงการเป็นเจ้าแม่ในโซเชียลมีเดียว ก็กลับเริ่มพบความเป็นจริงที่ว่าบางครั้งต่อให้มีอำนาจและเงินแค่ไหนก็ไม่อาจคุมทุกอย่างได้ เช่นเดียวกับการโกหก หลอกลวง และพลังของข่าวลือเพียงเล็กน้อยก็อาจจะทำลายชีวิตของคนอื่นได้โดยไม่รู้ตัวภาพรวมของตัวเรื่องยังมีการเล่นกับบริบทจริงในสังคมโลก คือการที่โรงเรียนเปิดสอนหลังจากวิกฤตระบาดของโควิด-19 ทำให้นักเรียนต้องเรียนกันผ่านทางโปรแกรม Zoom ซึ่งก็จะมีการพูดถึงตั้งแต่ตอนแรกเลย ดูหนัง 4k 

รีวิวซีรี่ย์ Gossip Girl 2021

หากพูดถึงคำว่า “Gossip Girl” หลายคนคงมีภาพจำผุดขึ้นในหัวมากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นทั้งเสียงพากษ์สาวช่างเมาท์ของ คริสเตน เบลล์ ภาพจำของความสัมพันธ์แบบเพื่อนแอบหยิกหลังกันของแบลร์และเซรีน่า หรือ กลุ่ม Non-Judging Breakfast Club ของเหล่าตัวหลักของซีรีส์ และแดน ฮัมฟรีย์คือเบื้องหลังของเว็บไซต์สาวช่างเมาท์ ส่วนที่ลืมไม่ได้อีก ก็คือแฟชั่นที่ขนกันมาอย่างจัดเต็มประหนึ่งขนทุกคอลเลกชั่นทุกแบรนด์ ภาพจำเหล่านี้คือเครื่องพิสูจน์ความเป็นตำนานของซีรีส์เรื่องนี้  ดูหนังออนไลน์ 4k

รีวิวซีรี่ย์ Gossip Girl 2021

และในปี 2021 สาวช่างเมาท์กลับมาอีกครั้ง แต่ไม่ใช่เพียงแค่นำเสนอเรื่องราวของวัยรุ่นผู้ลากมากดีกับเว็บไซต์ปล่อยข่าวเมาท์เหมือนเดิม ตัวซีรีส์เวอร์ใหม่ยังเสนอมุมมองเกี่ยวกับเหล่าชาวเน็ตกับบุคคลสาธารณะ เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสปัจจุบันที่โซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้น หากแต่ซะว่าเป็นธรรมดาของสังคมอยู่แล้วเมื่อมีสิ่งกำเนิดใหม่ มนุษย์จำต้องเทียบเคียงกับสิ่งที่มีอยู่เดิม เฉกเช่นนั้น “ก็อตซิปเกิร์ล นิวเวอร์ชั่น” จำต้องโดนเปรียบเทียบกับออริจินอล ก็อตซิปเกิร์ล รีวิวซีรี่ย์ 

ความหลากหลายของเหล่าตัวละครถือว่าเป็นจุดแข็งหลังของนิวเวอร์ชั่นเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายทั้งด้านเชื้อชาติหรือเพศ จุดนี้ทำให้สามารถถ่ายทอดเรื่องราวให้สอดคล้องกับประเด็นที่กำลังเป็นที่พูดถึงในวงสังคมมีส่วนเพิ่มไดนามิกให้กับเนื้อเรื่องมากขึ้น คือเรียกได้ว่า ก็อตซิปเกิร์ล นิวเวอร์ชั่นเขามีลูกเล่นสำหรับสไตล์ของซีรีส์ชุดนี้ในภาคแรกที่โด่งดังจนเป็นกระแสทอร์คออฟเดอะทาวน์ในสมัยนั้น มาจากความ “แสบ แซ่บ แรง โดนใจสังคมวัยรุ่น” ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องแรกๆที่เข้าฉายในช่อง CW โดยเป็นผลงานที่ทาง Warner Bros ร่วมสร้างกับ UPN หมายมั่นจะปั้นให้มีผลงานที่สามารถจับตลาดวัยรุ่นในเมืองให้ได้ ซึ่งผลปรากฏว่าซีรีส์เรื่องนี้สร้างปรากฏการณ์โด่งดังทั้งเรตติ้งและการบอกต่อจากการฉาย จนในที่สุดจากที่วางแผนว่าจะจบเรื่องราวในซีซันสอง ก็มีการขยายเนื้อหาและฉายต่อเนื่องถึง 6 ซีซันแล้วจึงปิดฉากลง

อีกข้อแสนเก๋ของก็อตซิปเกิร์ลทั้งสองเวอร์ชั่นเลย ก็คือบทสนทนาเสียดสีสังคมแบบให้ได้พอเจ็บพอคัน นิวเวอร์ชั่นก็ยังถือว่าทำได้ไม่พร่องไปกว่าเวอร์ชั่นออริจินอล ทั้งเสียดสีรัฐบาล สังคมชายเป็นใหญ่ อคติและการกีดกันทางเพศ รวมถึงเรื่องราวป๊อปคัลเจอร์ต่างๆ
ส่วนงานด้านเสื้อผ้าก็มีให้พอได้หอมปากหอมคอ มีการผสมผสานสไตล์จากกลุ่มตัวละครในออริจินอลเวอร์ชั่น ให้กับตัวละครหลักของนิวเวอร์ชั่น เราจะได้เห็นที่คาดผม ผ้าพันคอ ร่วมถึงความคลาสสิกจากแบลร์ เราจะได้เห็นความเปรี้ยว ความเท่ ความเฟียร์สแบบเซรีน่า สำหรับใครที่อยากมาเสพงานแฟชั่นรับรองไม่ผิดหวังแน่นนอน

ดังนั้นการกลับมาครั้งนี้จึงเป็นที่คาดหวังของแฟนๆ ที่เคยชื่นชอบเสน่ห์จากซีรีส์ชุดเก่า แต่กลายเป็นว่า ฉบับ 2021 ชุดนี้ดูจะไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของแฟนๆได้เลย เพราะมีจุดให้ติมากมายไม่ว่าจะเป็น

1.การแคสติ้งนักแสดง เป็นส่วน “แย่” ที่สุดของซีรีส์รีเมกตัวนี้ เพราะทีมนักแสดงหลัก แทบจะไม่มีเสน่ห์ชวนให้ดึงดูด เมื่อเปรียบเทียบกับทีมนักแสดงชุดเก่า โดยเฉพาะตัวเอกของเรื่องอย่างสองสาวคู่พี่น้อง จูเลียนและโซย่า ที่นำแสดงโดย จอร์แดน อเล็กซานเดอร์ และ วิทย์นีย์ พีค ที่ควรจะสามารถทำให้คนดูตามลุ้นเอาใจช่วยให้ผ่านพ้นปัญหาชีวิต ความรัก การเรียน เรื่องซุบซิบ และความสัมพันธ์แบบพี่น้องที่มีปมดราม่าหลายจุด แต่ยิ่งดูก็ยิ่งไม่อิน ทั้งเหตุผลที่พี่น้องคู่นี้ต้องปกปิดเพื่อนๆเรื่องความสัมพันธ์ (แม้ในเรื่องจะให้เหตุผลไว้แต่ก็เป็นตรรกะแปลกอยู่ดี) แล้วนอกจากแคสติ้งที่แย่แล้ว คอสตูมก็เข้าแย่ไปอีกขั้น จูเลียนกลายเป็นตัวละครที่ไม่น่าเอาใจช่วยเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่โซย่าก็เป็นตัวละครสาวน้อยบ้านจน หาทุนเรียน ในแบบตามสูตร

แม้จะไม่ได้จัดจานเทียบเท่าอาหารจานก่อน อาหารจานใหม่นี้ก็ยังพอมีกลิ่นและรสที่พอให้ทานได้อร่อย แม้จะไม่กลมกล่อมครบรสแต่ก็ปรุงออกมาได้ดีกว่าที่คาดหวังเอาไว้ ปัญหาหลักของอาหารจานนี้คือเหล่านักแสดงที่มารับบทตัวละครหลักนั้นแสนจืดชืด เสมือนกับส้มตำที่ไม่ใส่มอโนโซเดียมกลูตาเมต คือมันไม่นัว ไม่แสบคอแสบลิ้นอยากดื่มน้ำตาม อีกทั้งบทละครและการเล่าเรื่องแสนประหลาดที่ดูยุ่งเหยิงและดูไม่มีชีวิตชีวา ซึ่งประจวบเหมาะกับเหล่านักแสดงที่แสดงออกมาได้จะว่าแปลกก็แปลก จะว่าตลกก็คงใช่ ร่วมถึงการเล่ามุกตลกที่ไม่ตลกและเรื่องหักมุมที่ต้องให้คนดูสวมบทว่ารู้สึกเซอร์ไพส์ไปด้วย

2.แนวทางของเรื่องที่ให้พวกครู นำโดย เคท เกลเลอร์ นำแสดงโดย ทาวี เกวิสัน ที่ใช้บล็อกในตำนานอย่างสาวช่างเม้าท์ในการเล่นงานกลุ่มสาวแสบที่มีจูเลียนเป็นแกนนำ ก็เป็นพลอตที่ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่ แถมเรื่องซุบซิบที่ถูกโพสต์ลงไป (แม้ว่าจะมีมูล) ก็กลายเป็นเรื่องที่ทำให้คนทั้งโรงเรียนเชื่อง่ายจนน่าเกลียด เพราะในชีวิตจริงคนเราคงไม่ได้ไปบ้าสนใจชีวิตประจำวันของสาวไฮไซประจำโรงเรียนคนหนึ่งมากขนาดนั้น เพราะมันมีเรื่องอื่นให้สนใจมากกว่า แล้วเรื่องแนวซุบซิบ เป็นกระแสแบบนี้ พอพ้นวันก็จะมีเรื่องอื่นขึ้นมาแทนทันที

เคมีความเข้ากันของกลุ่มตัวละครที่ขาดหายไปและสัมผัสไม่ได้ เทียบกับออริจินอลเวอร์ชั่นแล้ว เหล่านักแสดงสามารถแสดงเสน่ห์และเคมีออกมาได้มากกว่า ซึ่งทำให้คนดูร่วมสัมผัสและอินตามไปกับเนื้อเรื่อง ตัวซีรีส์พยายามยัดเยียดความเป็นแบลร์ เซรีน่า ชัค แบส เนท อาร์ชิบอลด์และแดน ฮัมฟรีย์ลงไปในตัวละครใหม่ ซึ่งสะท้อนออกมาในแบบที่คนดูถูกสะกดจิตให้เชื่อตามว่า ตัวละครหลักอย่าง จูเลี่ยน นั้นคือ ควีน บี อินฟลูเอนเซอร์บนโลกอินเทอร์เน็ตชื่อดัง แต่กลับกลายเป็นว่าคนดูรู้สึกอึดอัดกับการนำเสนอที่ยัดเยียดเกินไป และในความเป็นจริงแล้วตัวละครจูเลี่ยน คาลโลเวย์ ไม่มีความเป็นควีน บีแบบแบลร์ วอลดอร์ฟให้เห็นเลยสักนิด
แท้จริงแล้วถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนคงเป็นประมาณแอดดิสัน แร และ เบลล่า พอร์ช มากกว่า ผลจากการที่พยายามยัดเยียดและสร้างตัวละครใหม่โดยอ้างอิงจากตัวละครเก่า ทำให้ไม่เห็นเรื่องราวที่แปลกใหม่ได้เลย เราจะเห็นภาพสะท้อนของตัวละครเก่าทาบทับบนตัวละครใหม่ ซึ่งคนดูจะไม่สามารถสัมผัสและตกหลุมรักกับตัวละครใหม่ได้เลย อีกสิ่งที่ดูจะขาดหายไปจากนิวเวอร์ชั่นนั้นก็คือ ปริศนาว่าใครกันแน่อยู่เบื้องหลังสาวช่างเมาท์ การเริ่มต้นของเนื้อเรื่องในนิวเวอร์ชั่นมุ่งเน้นไปในเชิง “ใครทำอะไรไว้ ควรได้รับการลงโทษ” โดยมีตัวโซเชียลมีเดียเป็นเหมือนศูนย์รวบรวมและกระจายข่าวสาร จุดประเด็นที่จะนำไปสู่บทลงโทษจากประชาคมบนโลกออนไลน์
จะว่าเป็นข้อดีก็คงจะไม่ผิด หากแต่เรื่องราวในซีรีส์นั้นจะขาดจุดน่าสนใจที่ทำให้ชวนคนดูตัวสินใจจะดูต่อ การฝากความหวังไว้ที่บทและทีมนักแสดงในนิวเวอร์ชั่นเป็นเรื่องที่ผิดอย่างมาก เพราะไม่มีใครสามารถแบกความหวังและพาทีมไปได้ถึงฝั่งฝันเลยสักคน ตัวซีรีส์ในครึ่งแรกยังดำเนินไปอย่างไร้จุดหมายและเป็นเรื่องาวที่เบสิก ไม่ได้แปลกใหม่อะไรแล้ว เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ก็อตซิปเกิร์ล ในฉบับปี 2021 จะเป็นคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจและเข้ากับยุคสมัยมาก หากไม่มีเคยมีซีรีส์เวอร์ชั่นออริจินอลมาก่อน การเล่นกับมุมมองและเรื่องราวที่สอดคล้องกับโลกปัจจุปันเป็นตัวชูโรงที่ดี ในโลกของเราตอนนี้ที่เชิดชูและให้ค่ากับบุคคลบนโลกออนไลน์เป็นอย่างมากและในโลกของเราที่มีการใช้ช่องทางต่างๆ
ทำร้ายกัน ทั้งนี้ก็อตซิปเกิร์ล นิวเวอร์ชั่นเป็นซีรีส์ที่สามารถดูได้กำลังพอสนุก รสชาติกำลังพอดี แม้จะขาดเปรี้ยว ขาดหวานไปบ้างก็ตาม สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเริ่มต้นเลยคือการเปิดใจเพื่อรับการเล่าเรื่องแบบใหม่และตัวละครใหม่ๆ และเตรียมใจรับเรื่องราวที่ต้องดูไปบ่นไป เหมือนละครน้ำเน่าก่อนข่าวแบบเดิมแน่นอน แต่ข้อดีของซีรีส์ก็ยังพอมี ไม่ใช่มีแต่เรื่องแย่ๆ โดยหลักก็คือการสะท้อนจิกกัดสังคมวัยรุ่น ที่ติดและคลั่งตามทุกอย่างที่ลงในโซเชียลมีเดียต่างๆมากเกินไปหน่อย แล้วยังสะท้อนภาพของวัยรุ่นที่ชอบถ่ายหรือเซลฟี่ทุกอย่างเพื่อแสดงตัวตนบนโซเชียล รวมถึงการใส่ใจต่อยอดผู้ติดตามและแคร์ความคิดหรือคอมเม้นท์ของผู้คนมากเกินไป
แทนที่จะให้ความสำคัญกับคนที่รักหรือใกล้ตัวจริงๆ ซึ่งก็เป็นการเตือนสติวัยรุ่นยุคใหม่เหมือนกันว่า บางทีก็ต้องอย่าตามหรือเชื่อทุกอย่างบนโซเชียลมากนัก ถ้าไม่อยากดูงี่เง่าแบบเหล่าตัวละครในเรื่องนี้ อีกจุดคือด้านโปรดักชั่น ถือว่าเป็นซีรีส์ที่ค่อนข้างใส่เต็มด้านงบประมาณ เพื่อจำลองสังคมไฮโซสุดขั้วในระดับไฮสคูล ว่ามันสามารถสุดได้ถึงขนาดไหน ทำให้เราเห็นช่องว่างและความเหลื่อมล้ำของสังคมคนปกติและเหล่าไฮโซที่ไม่ใช่แค่ออกงานสังคมทั่วไปเท่านั้น แต่มันมีช่องทางอื่นๆทั้งในด้านคอนเนคชั่น Career Path ที่เหล่าไฮโซมีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่าคนทั่วไปนั่นเอง
จงใจใส่ฉากขาย LGBT เกินเหตุไปหน่อย คือการใส่เข้ามามันไม่ได้เป็นปัญหา แต่หลายฉากจงใจยัดเข้ามาเพื่อ “ขาย” มากเกินไปพยายามที่จะทำให้ซีรีส์ไม่เป็นเรื่องราวของ “คนผิวขาว” จึงมีการใส่นักแสดงผิวสี เอเชีย ละติน เข้ามาผสมผสานเต็มที่ ซึ่งที่จริงมันก็เข้ากับสังคมปัจจุบันที่คนไฮโซยุคนี้มีความหลากหลายมาก แต่นักแสดงผิวสีในเรื่องนี้ที่ถูกชูว่าเป็นพวกสวยเริศ ก็ยังไม่ได้ถึงกับชวนให้รู้สึกว่าเป็นคนสวยเริศแบบนั้นจริงๆตรรกะตัวละครค่อนข้างวายป่วงมากๆ บางทีก็เหมือนดูถูกพวกคนรวย เซเล็บมากเกินไปหน่อย ว่าจะต้องทำตัวงี่เง่าแบบนี้ตลอดเวลา
Gossip Girl' Reboot Character List: Breaking Down All the New Characters -  Thrillist
เรื่องราว 8 ปีให้หลังของก๊วนไฮโซเหล่าลูกคุณในมหานครนิยอร์กกับเว็บไซต์ข่าวซุบซิบสุดฮอต “สาวช่างเมาท์” ที่ค่อยสอดส่องและบอกเล่าเรื่องราวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ (Exclusive) ตลอดจนไปถึงเอ็กซ์พลิซิท (Explicit) ของพวกเขา บัดนี้ สาวช่างเมาท์ได้ถูกคืนชีพอีกครั้งบนแพลตฟอร์มที่ทันสมัยยิ่งขึ้นอย่าง อินสตาแกรม (Instagram) พร้อมกับก๊วนไฮโซกลุ่มใหม่ ที่เรียกตัวเองว่า “The Samurai Seven” นับทีมด้วยราชนีคนใหม่ของอัปเปอร์อีสต์ไซด์ จูเลียน คาลโลเวย์ (Julien Calloway) หรือ เจซี (JC) ลูกสาวนักดนตรีชื่อดังในวงการเพลง เจซีเป็นสาวสังคมและอินฟลูเอนเซอร์ตัวแม่ที่กำลังเป็นที่ถูกจับตามองจากเหล่าอเจนซีมากมาย และแน่นอนว่าเธอคือคควีนของหมากเกมนี้