รีวิวซีรี่ย์ Keep Breathing
บอกเล่าเรื่องราวของ ลิฟ (รับบทโดย เมลิสซา บาร์เรรา) ทนายสาวเก่ง ที่กำลังเผชิญดราม่าปัญหาชีวิตจนต้องหาทางฟื้นฟูจิตใจ เธอเลือกเดินทางไปเมือง อินูวิก เมืองห่างไกลจากความเจริญที่เต็มไป ดูหนังออนไลน์ ด้วยป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ในประเทศแคนาดาด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว แต่แล้วเกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อเครื่องบินประสบอุบัติเหตุตกลงในแม่น้ำ ดูหนังฟรี และลิฟคือหนึ่งเดียวผู้รอดชีวิต ระหว่างพยายามหาทางเอาตัวรอด จิตใจของลิฟก็แข็งแกร่งขึ้นตามลำดับ ลิฟจะรอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ได้หรือไม่ต้องไปติดตาม ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา
ขอบอกก่อนเลย ว่าส่วนตัวชอบ หนังเอาชีวิตรอดมาก keep breathing เป็นซีรีส์ความยาวตอนละ 30 นาที มีทั้งหมด 6 ตอน ตลอด 6 ตอนที่ดูมา หนังดำเนินเรื่องแบบตัดสลับช่วย เวลาในชีวิตของลิฟ ไปมาตลอดทั้งเรื่อง มีทั้งหมดสามช่วงเวลาคือ ตอนเด็กที่เกี่ยวกับพ่อแม่ ตอนทำงานชีวิตและความรัก และตอนปัจจุบันที่ต้องเอาตัวรอดในป่า แม้ ซีรีส์จะตัดสลับไปมาแต่ก็ไม่ได้ทำให้เรางง หรือเข้าใจเนื้อเรื่องยากเลย เป็นการตัดสลับที่เรียบเรียงมาแล้ว
รีวิวซีรี่ย์ Keep Breathing เป็นซีรีส์ที่เอาชีวิตรอดแบบไม่ค่อยสุดสำหรับเรา
เพราะซีรีส์ไม่ได้ทำให้ ออกมาเอาชีวิตรอดแบบหนักๆ ซีรีส์จะมีพาร์ทอดีตมาแทรก จึงทำให้เราดูไม่ต่อเนื่อง จากที่ลุ้นๆอยู่ฉาก ก็ตัดไปอดีตไรงี้ มาว่าถึงพาร์ทอดีตกันดีกว่า พาร์ทตอนเด็กหนังจะเล่าถึง แม่ที่เป็นศิลปินวาดรูปและมีอาการจิตอยู่ ส่วนพาร์ทที่สองคือชีวิตตอนโตของลิฟ ซึ่งเล่าถึงการ จริงจังกับงาน และความรักของเธอ ซีรีส์จะค่อยๆใส่พาร์ทอดีตของ ลิฟสลับกับปัจจุบัน ทำให้ซีรีส์ไม่ค่อยลุ้นกับเหตุการณ์ปัจจุบัน ในส่วนนี้เราไม่ติดอะไรเลย ซีรีส์เรียบเรียงเหตุการณ์ อดีตกับปัจจุบันได้ดีมาก เหตุการณ์มีการสอดคล้องกัน จึงทำให้การดูเข้าใจเนื้อเรื่องได้ง่าย
การเอาตัวรอดกลางป่า ของลิฟไม่ค่อยน่าลุ้นและตื่นเต้นสักเท่าไร อาจเป็นเพราะซีรีส์ตัดสลับไปมา การเอาชีวิตรอดของเธอถือว่าทำได้ดี เพราะซีรีส์ได้ว่างตัวละครนี้มา ให้ฉลาดและเอาตัวรอดเก่ง และมันก็สอดคล้องกับความเก่ง ของเธอในการเอาตัวรอดในป่าคนเดียว การอยู่ในป่าคนเดียว ทำให้เธอมีอาการหลอนบ้าง บางครั้งก็มีเสียงหรือภาพ คนอื่นมาแทรกหรือพูดคุยกับเธอ จริงๆมันไม่ได้เป็นผีหรืออะไรหรอก มันเป็นความรู้สึกในใจลิฟมากกว่า แต่ซีรีส์ทำออกมาให้เป็นภาพและเสียง ส่วนตัวเราว่ามันโอเคเลยที่ทำแบบนี้ มันช่วยให้ไม่น่าเบื่อและเข้าใจความรู้สึกตัวละครได้ง่าย
การดำเนินเรื่องสลับระหว่างการใช้ชีวิตกลางป่า ของลิฟหลังเหตุ การณ์เครื่องบินตก กับการนึกย้อน อดีตถึงปมชีวิตที่ทำให้ลิฟ เป็นคนเย็นชา ไม่มีหัวใจ สนใจแต่เรื่องงาน ช่วง 4 ตอนแรกแบ่งสัดส่วน การดำเนินเรื่องสลับไปมาได้ลงตัว น่าติดตามต่อเนื่อง แต่ช่วงหลังเอื่อย ๆ ชวนง่วงไปหน่อย แต่โดยรวมถือว่าสนุก ปมน่าสนใจทั้ง เรื่องชีวิตของทนายสาวหญิงแกร่ง และ เรื่องการเอาตัวรอดคนเดียวในป่าลึก
เราจะได้เห็นนิสัยของลิฟในช่วงโต ช่วงนี้เป็นการเล่าความเป็น มาและปมในใจเธอได้ดีและเข้าใจง่ายที่สุด ทนายสาวที่มีความเก่งและบ้างานขั้นสุด เพื่อปิดบังความอ่อนแอของตัวเอง ฉากที่เพื่อนที่พ่วงตำแหน่ง ผู้ช่วยเข้ามาขัดเวลาทำงาน เพื่อจะบอกลิฟว่าพ่อเธอนั้นอาการทรุดและต้องการให้เธอไปดูเขา ฉากนี้เราเห็นแววตาลังเลและสับสนของลิฟ แต่เธอกล่าวปฏิเสธที่จะไปและก็ทำงานต่อ เธอทำงานเพื่อปิดบังความอ่อนแอ และก็ชายหนุ่มแดนนี่เพื่อนร่วม งานที่เธอรู้สึกดีด้วย แต่เธอก็ปฏิเสธแดนนี่เพราะยิ่งเธอไว้ใจเขาเท่าไร ความอ่อนแอของเธอจะเผยออกมามากเท่านั้น
ถ่ายทำกันทั้งในสตูดิโอและในป่าลึก
เขตแม่น้ำ Cheakamus ในรัฐบริติช โคลัมเบีย ฝั่งตะวันตกของประเทศแคนาดา อิ่มเอมไปกับธรรมชาติที่งดงาม แม่น้ำและป่าสน ภายสวยดีเด่นชนะเลิศ ทั้งพระอาทิตย์ตกดิน แสงเหนือ เครื่องบินในน้ำ หรือซีนอ่างน้ำตัน ฯ สร้างสรรค์ภาพในการเล่าเรื่อง และพิถีพิถันการนำเสนอสุด ๆ เสียงดีงาม ตอนฟังเสียงหัวใจเต้น ลุ้นไปกับซีรีส์ด้วยเลย
ตัวละครในซีรีส์ค่อนข้างน้อย ตัวหลักเลยคือลิฟ แสดงโดย เมลิสซา บาร์เรลา(Melissa Barrera) เอาจริงเราว่าเธอเอาบทอยู่ทั้งเรื่องเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นพาร์ททำงานหรือพาร์ทเอาชีวิตรอด นักแสดงทำออกมาได้ดีผ่านแววตาสีหน้า ไม่ว่าจะเข้มแข็ง เสียใจ ผิดหวัง เธอเอาอยู่จริงๆ ส่วนนักแสดงคนอื่นๆก็แสดงดีตามมาตรฐาน
ก่อนดูคิดว่าจะเป็นซีรีส์แนวเอาชีวิตรอดให้ได้ในป่าแบบข้มข้นเหมือนการ์ตูนผู้รอดตาย ต้องรอด หรือแบร์กริลทำนองนั้น แต่พอได้ดูจริงๆ นี่กลับเป็นซีรีส์ที่แทบไม่ได้นำเสนอเรื่องราวการเอาชีวิตรอดอะไรเลยแบบที่คิด ทั้งเรื่องเต็มไปด้วยสิ่งที่คนไม่อยากดู แต่ต้องถูกบังคับให้ดู และไม่เกี่ยวข้อง กับการเอาชีวิตรอดตามชื่อเรื่องแต่อย่างใด
ในส่วนของการเอาชีวิตรอดเริ่มแรก หลังจากเครื่องบินตก ก็ดูเหมือนจะพอเข้าท่านิดๆ เมื่อนางเอกพยายาม ก่อไฟแต่ก่อไม่ได้ด้วยวิธีการปั่นไม้ หรือการหเ่มเลือดที่ใช้ไม้ขันชะเนาะให้แน่นก็พอให้คิดว่า เออ เรื่องน่าจะพยายามนำเสนอแนวทางที่สมจริงกว่า แต่เปล่าเลยหลังจากนั้นตัวเรื่องมีแต่การกระทำที่ไม่เข้าท่า ไร้เหตุผล ไม่เหมือนคนปกติเขาทำกันด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างฉากที่นางเอกก่อไฟได้แล้วต้องต้มน้ำกินจะได้สะอาด
แต่นางเอกกลับเอามือไปแตะภาชนะ ที่ต้มน้ำแล้วพึ่งรู้ว่าจับไม่ได้ นี่ก็งงแล้วหนึ่ง แต่เรื่องยังให้นางเอกทำอะไรโง่ๆ อย่างเอาน้ำดับไฟที่พยายาม ก่อจนติดขึ้นเพื่อรอให้น้ำเย็นจะได้ตักกินได้ ทั้งๆ ที่เสื้อผ้า ผ้าเปียกหรืออะไรมากมายที่จะเอามาจับได้ไม่ให้โดนมือก็มีเต็มไปหมดทั้งฉาก หรือการดำน้ำไปงมวิทยุในเครื่องบินมาโดยหวังว่ามันจะใช้ได้
ทั้งเรื่องเต็มไปด้วยการกระทำที่ไม่สมเหตุผลเกินคนปกติไปมาก
โดยที่ตัวละครนางเอกที่เป็นทนายก็ถูกปู ว่าเป็นคนฉลาดมากอีกด้วยนะ เป็นอะไรที่ย้อนแย้งกันสุดๆ จนไม่เข้าใจเลยว่าคนเขียน บทเรื่องนี้เขียนออกมาได้ยังไง ไม่มีแม้แต่การเปิดสารคดีแบร์กริลหรือหนังสือเอาตัวรอดในป่าสักเล่มตอนเขียนบทหรือไง (แบบเรียนลูกเสือยังมีอะไรอะไรดีกว่าเรื่องนี้อีก) เพราะทั้งเรื่องไม่มีอะไรที่เข้าท่าเลยจริง แล้วก็มีอุปสรรคที่ต้องเอาตัวรอดไม่กี่อย่างจนเหมือนนางเอกไปติดป่าละเมาะข้างบ้านมากกว่าจะเป็นการเอาตัวรอดในป่าลึกแคนาดาจริงๆ ภาพสวยๆ จากโลเกชั่นในป่ายังแทบไม่มีให้เห็นเลย เหมือนถ่ายกันไม่กี่ที่ข้างแม่น้ำแค่นั้น
แต่ที่แย่กว่าฉากเอาตัวรอดไม่สมเหตุผลนั่นคือการที่เรื่องพยายามแฟลชแบ็คพร่ำเพรื่อ
ไปยังทุกๆ อย่างในชีวิตนางเอก โดยที่แทบไม่มีอะไร เกี่ยวข้องกับการเอา ตัวรอดในป่านี้เลย (มีฉากเดียวคือแฟลชแบ็คถึงตอนเด็กที่ครูสอนเรื่องทำเข็มทิศใช้เอง) ทำให้เรื่อง ดูยืดเยื้อโดยไร้เหตุผล แม้จะพยายามปูว่า นางเอกตั้งท้องอ่อนๆ แบบไม่ตั้งใจ เลยต้องพยายามเอาตัวรอดให้ได้ แต่แฟลชแบ็คก็ไมไ่ด้ช่วยส่งเสริมอะไรตรงนี้เลยด้วย มีแต่เรื่องพระเอกมีคนมาจีบ บางทีก็วีนเขาโดยไม่มีเหตุผล กลายเป็นฉากแฟลชแบ็คเหล่านี้คือการยัดเยียดอะไรที่น่ารำคาญมากๆ ให้คนดูที่ตั้งใจมาดูฉากเอาตัวรอด แต่กลับเจอแต่เรื่องชีวิตของนางเอกเยอะสุดๆ ขนาดที่ตีเป็นสัดส่วนก็คงสัก 70/30 เลย เพราะฉากเอา ตัวรอดอะไรนี่น้อยมากจริงๆ
สรุปคือเป็นซีรีส์เอาชีวิตรอดแบบ ไม่ได้หนักหน่วงเท่าไร เนื้อเรื่องจะเล่าถึงปมในชีวิตลิฟ มากกว่าเอาชีวิตรอดด้วยซ้ำ เนื้อเรื่องดราม่านะ แต่เราว่าดราม่าไม่ค่อยสุด เหมือนจะค่อยๆไต่ระดับแต่เราว่าก็ไม่สุดอยู่ดี ครึ่งๆกลางๆ มุมกล้องและภาพสวย นักแสดงเอาบทอยู่ ความตื่นเต้นไม่ค่อยมีมากเท่าไร แม้แต่ฉากลิฟวิ่งตาม เสียงเครื่องบินเรา ยังไม่รู้สึกลุ้นไปกับซีรีส์เลยฮ่าๆ ตัวเอกก็สู้ที่จะเอาชีวิตรอดจริงๆ เธอทำทุกอย่างเพื่อออกจากป่า ต่อให้หินทับหรืออะไร เธอก็ไม่หยุดจะหาวิธีเอาตัวรอด ซึ่งมันก็สอดคล้องกับ ชื่อซีรีส์ จนกว่าจะหมดลม ถ้าไม่หมดลมก็จะทำทุกทางเพื่อออกจากป่านี่ ลิฟจะออกจากป่าได้มั้ย ทำไมเธอถึงต้องไปอินูวิกให้ได้ และปมในชีวิตของลิฟคืออะไร
ที่ว่าแย่หนักๆ แล้วก็ยังมีเรื่องแย่มากกว่านี้อีก รีวิวซีรี่ย์ Keep Breathing
เมื่อคิดว่าตอนจบของ เรื่องอาจจะ มีพีคอะไรน่าสนใจบ้าง แต่เปล่าเลย เรื่องราวจบลงแบบโง่ๆ เป็นการกระทำที่งี่เง่าที่สุดของเรื่อง แล้วก็ไม่สมเหตุผลในแง่การเอาชีวิตรอดได้จริงๆ ด้วย เป็นตอนจบแบบ เหมือนคิดมุกไม่ออกเลยเอามันแบบนี้แหละ ซึ่งเป็นอะไรที่ดูถูกคนดูสุดๆ อย่างไม่น่าเชื่อเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้สร้างมาโดยตั้งใจธีมเอาชีวิตรอดได้ยังไงกัน
แนวระทึกขวัญ แต่ไม่ระทึกมาก ไม่มีสะดุ้งหรือลุ้นปิดตา เล่าเรื่องเรื่อย ๆ อาจมีซ่อนตาดำ แต่ส่วนตัวชอบนะชอบที่ตัวเอกของเรื่องเป็นผู้หญิง เมลิสซา บาร์เรรา แสดงดี สุดยอดแห่งความผจญภัย ทั้งว่ายน้ำ ดำน้ำ ช่วยชีวิตคน ปีนต้นไม้ เดินป่า ฯ ดูแล้วก็ลุ้นอยากรู้ว่าตอนจบจะลงเอยอย่างไร
แต่สิ่งหนึ่งที่ ได้จากเรื่องนี้คือ ถ้ากำลังเล่นโยคะ หรือเรียนคลาสทำสมาธิ แล้วคุณครูผู้สอนบอก ให้ผ่อนคลายและ จินตนาการว่า กำลังนอนบนพื้นดินกลางป่าคนเดียว ถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติ มีเสียงน้ำไหล ฟ้าสีฟ้า หลังจากดูเรื่องนี้แล้วคงยากที่จะผ่อนคลายจากจินตนาการนี้