รีวิวซีรี่ย์ Kingdom: Ashin of the North ซอมบี้คลั่งแค้น
รีวิวซีรี่ย์ Kingdom: Ashin of the North ซอมบี้คลั่งแค้น
KINGDOM : ASHIN OF THE NORTH (ผีดิบคลั่งบัลลังก์เดือด : อาชินแห่งเผ่าเหนือ) บอกเล่าเรื่องราวของ อาชิน ลูกสาวของหัวหน้าหมู่บ้านซองจอยาอิน ชาวหนี่ว์เจินที่อยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรโชซอน อาชินพยายามเสาะหาวิธีรักษาแม่ที่ป่วย จนบังเอิญได้พบกับสมุนไพรคืนชีพ ดอกไม้สีม่วงหายากที่ได้รับการบอกเล่าว่า สามารถคืนชีพคนตายได้ ดูหนัง
เรื่องราวของหนังจับใจความย้อนไปเป็นเป็นเวลาหลายปีก่อนเหตุการณ์ในซีรีส์ ณ ชายแดนตอนเหนือของโชซอนที่กำลังมีปัญหากับกลุ่มชนเผ่าเร่ร่อนหนี่ว์เจินที่รวมเป็นประเทศที่ชื่อ พาจอวี ดังนั้นกองทัพโชซอนซึ่งนำโดยรองแม่ทัพ มินจีรก ผู้อุทิศตนเพื่อชาติซึ่งเคยปรากฏตัวในซีรีส์มาก่อนแล้ว ดูหนังออนไลน์
จึงอาศัยชนกลุ่มน้อยของหนี่ว์เจินกลุ่มหนึ่งที่อยู่คั่นกลางคอยเป็นไส้ศึกเพื่อรายงานความเคลื่อนไหวของพาจอวีโดยเสนอจะช่วยให้ได้เป็นข้าราชการของโชซอนต่อไป แต่เมื่อเกิดเหตุบางอย่างในเขตป่าลึกของโชซอนทำให้ชาวพาจอวีตายหลายคน โดยทหารโชซอนอ้างว่าเป็นการกระทำของเสือร้าย ก็กลับยิ่งสร้างความสงสัยของพาจอวีจนเสี่ยงจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามขึ้น ดูหนัง 4k
บ่อเกิดของหายนะคือการปกป้องผู้มีอำนาจและทำร้ายประชาชน
การปกป้องผู้มีอำนาจ และเพิกเฉยต่อความอยุติธรรม โดยเริ่มจากการที่ ‘แม่ทัพมินชีรก’ (พัคบยองอึน) โกหกเพื่อปกป้องกษัตริย์โจบอมอิลตระกูลแฮวอนโจที่ทอดทิ้งประชาชนและใช้อำนาจในทางมิชอบเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชาวซองจอยาอินโดนฆ่าและกลายเป็นปีศาจในท้ายที่สุด ดูหนังออนไลน์ 4k
จอนจีฮยอนรับบทเป็น อาชิน ตัวหลักของเรื่องที่วัยเด็กของเธออาศัยอยู่ในหมู่บ้านชนกลุ่มน้อยหนี่ว์เจิน โดยพ่อของเธอเป็นหัวหน้าหมู่บ้านที่คอยรายงานโชซอนอยู่เสมอ นอกจากนั้นเธอยังได้ค้นพบดอกไม้ต้องห้ามที่ซุกซ่อนไว้ในป่าลึกพร้อมสลักคำเตือนว่า ดอกไม้นี้ชุบชีวิตคนตายได้ หากแต่ต้องรับผลในสิ่งที่ตามมา รีวิวซีรี่ย์
และหลังจากหมู่บ้านของเธอตกเป็นเหยื่อความขัดแย้งของพาจอวีและโชซอน อาชินจึงระเหเร่ร่อนมาขอให้รองแม่ทัพโชซอนมินจีรกซึ่งแสดงโดยดาราคุณภาพอีกคนอย่าง พักบยองอึน นั้นช่วยล้างแค้นให้พ่อของเธอ แลกกับการที่เธอจะสอดแนมพาจอวีให้
ด้วยปัญหาขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย อาชินในวัยเด็กจึงต้องเผชิญโศกนาฏกรรมที่ไม่อาจทำใจได้ ทำให้อาชินนั้นผูกใจเจ็บ และเติบโตขึ้นมาพร้อมจิตมุ่งมั่นที่จะแก้แค้น และเฝ้ารอวันที่จะได้ล้างแค้นผู้ที่ทำลายครอบครัวของเธอ !
ความภักดีจะไร้ค่าถ้ามอบให้ผิดคน
พ่อของอาชินภักดีต่อแผ่นดินโชซอนและราชวงศ์เพราะมีบุญคุณต่อกันมาตั้งแต่ยุคบรรพบุรุษ และยอมทำงานทุกอย่างตามสั่งเพื่อรอคอยที่จะได้รับเกียรติและการยอมรับเป็นรางวัล แต่เรื่องราวก็สะท้อนให้เห็นว่าหากภักดีต่อผู้ที่ไม่เห็นค่า จนวันตายรางวัลตอบแทนก็ไม่มีวันมาถึง
‘พวกเขาอาจมีน้ำใจต่อบรรพบุรุษของพวกเราก็จริง แต่บัดนี้พวกเขาทวงคืนทุกอย่างไปหมดแล้ว’ ประโยคง่ายๆ ที่อาชินพูดกับพ่อทำให้เห็นว่าบุญคุณที่มอบให้ก็หมดได้ สะท้อนให้เห็นความแตกต่างทางความคิดของคนสองรุ่นที่เด็กๆ ได้เห็นว่าบุณคุณมีวันหมดได้ในขณะที่ผู้ใหญ่ยังติดอยู่กับความเชื่อเดิมๆ ที่ว่าบุญคุณต้องทดแทน และการอาศัยบารมีของผู้มีอำนาจนั้นเป็นส่ิงที่ปลอดภัยกว่า
และความภักดีอย่างไม่มีเงื่อนไขจะทำให้พวกเขาใช้ชีวิตอย่างองอาจ ฉากนี้ยิ่งทำให้ฉากที่อาชินได้พบกับพ่อในวัยชราที่ร้องหาเพียงความตายน่าสะเทือนใจและทำให้เห็นว่าจุดจบของคนที่เลือกเข้าข้างผู้มีอำนาจมากกว่าความถูกต้องนั้น สุดท้ายก็ต้องอยู่อย่างไร้วิญญาณและศักดิ์ศรี
ซอมบี้เป็นเพียงคนธรรมดากระหายที่จะมีชีวิตรอด
ประเด็นนี้แสดงอย่างชัดเจนผ่านฉากที่คอยย้ำอยู่เสมอว่า ก่อนที่พวกเขาจะกลายเป็นซอมบี้นั้นพวกเขาเคยเป็นคนไม่ต่างกับคนทั่วไปที่คิดเพียงแต่เอาชีวิตรอด เพราะความอยุติธรรม อดอยากและหิวโหย บีบบังคับให้คนเห็นแก่ตัวจนขาดสติ คำที่พ่อของอาชินพูดไว้ว่า ‘สิ่งที่น่ากลัวกว่าพวกปีศาจคือทหาร’ จึงกลายเป็นเหมือนลางบอกเหตุ เพราะผู้ใช้อำนาจในทางมิชอบนั่นร้ายยิ่งกว่าปีศาจนั่นเอง
ด้านไม่ดีก็คือ Format จากซีรีส์กลายมาเป็นภาพยนตร์ การทำภาพยนตร์ค่อนข้างมีความต่างกับซีรีส์พอสมควรในด้านของเวลา จากตอนละ 1 ชั่วโมง 13-16 ตอน ให้จบเรื่อง 92 นาที การดำเนินเรื่องเลยต้องเลือกดี ๆ ว่าจะนำเสนอออกมาในด้านไหน
Ashin of the North เลือกให้น้ำหนักไปทางของที่มาที่ไป และความเข้าใจตัวละคร ซึ่งมันก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่ผมมองว่ามันค่อนข้างขัดใจแฟนสายแอคชั่นไปซะหน่อย เพราะสิ่งที่ซีรีส์ Kingdom ทำไว้ก็คือ ฉากซอมบี้ไล่ล่าความบีบหัวใจ ความ“โหดสัส” ของซอมบี้ ที่มันไม่ตายสักที และดูจะแข็งแกร่งขึ้นในทุก ๆ ซีซัน และเรื่องนี้ถูกปล่อยออกมาหลังจาก
ซีซันสองที่ซีรีส์สร้างมาตรฐานการบีบหัวใจไว้ขนาดนั้น มันก็ย่อมมีความคาดหวังว่าหนังเรื่องนี้จะมันหยด หรือคนดูอาจจะอยากเห็นมุมที่ อาชิน ใช้ชีวิตคนเดียวลุยผ่านซอมบี้มาได้อย่างไร จนมาเจอกับฝ่าบาทในซีรีส์ Kingdom เสียมากกว่า แต่เรื่องของอาชินก็นำเสนอในมุมที่ต่างออกไปจากความคาดหวัง แต่ก็เป็นมุมที่น่าสนใจ
แตกต่างจากซีรีส์ซอมบี้ของฝั่งตะวันตกอย่าง THE WALKING DEAD ซึ่งตอนนี้เราก็น่าจะยังไม่รู้เลยว่าซอมบี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไรจนตอนนี้บทออกทะเลไปไหนต่อไหนแล้ว
ด้านโปรดักชันยอมรับว่าผู้กำกับ คิมซองฮุน นั้นคุมซีรีส์สเกลใหญ่มาได้อย่างดีแล้ว พอมาทำเป็นหนังก็ยิ่งอยู่มือเข้าไปอีก เพราะเขาจับจุดเน้นได้ไม่จำเป็นต้องพึ่งฉากใหญ่โตอลังการมากแต่คุมโทน ทำให้ผู้ชมดิ่งจมราวกับไปอยู่ในป่าชายแดนโชซอนได้อย่างอิ่มอารมณ์ มีฉากโชว์ มีฉากเน้นสวย คือประสบผลดีทั้งด้านสุนทรียะและด้านความบันเทิง
ยิ่งการเล่าเรื่องอันซับซ้อนมีการเมืองหลายฝักฝ่ายในพื้นที่เดียวที่มาจากปากกาของคิมอึนฮีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำให้เล่าเรื่องได้ง่าย แต่คิมซองฮุนกลับทำได้ดีทีเดียว และที่ชื่นชอบมาก ๆ คือการใช้กิมมิกสิ่งของอย่างเช่น ธนูที่นางเอกเคยเห็นก็เฉลยเรื่องราวบางอย่างได้ ทำให้หนังมีความลื่นไหลและเท่ในการเล่าเรื่องด้วย
จุดติงที่พอเห็นได้ชัด ก็คงเป็นรอยแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นตัวละครที่ทำจากซีจียังมีจุดลอยหลอกตาอยู่ ซึ่งหนังพยายามซ่อนด้วยการตัดต่อที่ไวอยู่แล้วแต่บางฉากที่แช่ภาพนาน ๆ ก็ไม่รอดเลย อาจเป็นความโชคร้ายของหนังที่เราเพิ่งได้ชมซอมบี้เสือเนี้ยบ ๆ ไปใน ‘Army of the Dead’ เมื่อไม่นานนี้จึงยังมีภาพเทียบชัดอยู่
นอกจากนี้อาจไม่ใช่ข้อติงที่ชัดเจนก็คือความน่าเสียดาย ที่หนังอาจยังใช้ความเป็นจอนจีฮยอนได้ไม่คุ้มนักเพราะแม้เธอจะมีคุณภาพการแสดงที่ดีแต่กว่าเธอจะได้ออกโรง ตัวละครก็พัฒนาไปเยอะจนมีคาแรกเตอร์หลักที่ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ไปแล้ว น่าเสียดายที่ได้เห็นการพัฒนาอารมณ์เชิงลึกด้วยฝีมือของเธอไม่มากนัก
ต้องยอมรับว่า ‘Kingdom: Ashin of the North’ ถูกสร้างขึ้นด้วยวิธีคิดที่ชาญฉลาดทั้งในด้านการเล่าเรื่องและการตลาด ศักยภาพของหนังยาวเรื่องนี้ไม่ได้เพียงมาคั่นรอระหว่างที่ซีรีส์ซีซันที่ 3 ยังไม่มาถึง เพื่อไม่ให้กระแสหายนานเกินไป หากแต่ในแง่การตลาดมันยังช่วยดึงดูดคนดูหน้าใหม่ที่ยังจด ๆ จ้อง ๆ ไม่ดูตัวซีรีส์เพราะยังไม่มีเวลามากพอ ให้ลองชิมลางด้วยการดูหนังยาวชั่วโมงครึ่งที่อยู่ร่วมจักรวาลเดียวกันก่อนได้ และเชื่อเถอะว่าเบ็ดรสจัดจ้านเรื่องนี้ จะตกแฟนหน้าใหม่และบำเรอแฟนหน้าเก่าที่กำลังลงแดงได้อย่างอยู่หมัดทีเดียว
ซีรีส์ KINGDOM : ผีดิบคลั่งบัลลังก์เดือด ถือได้เป็นว่าเป็นซีรีส์ที่มีสเกลงานสร้างดีมากมาตั้งแต่ซีรีส์ซีซันที่หนึ่งแล้ว ในตอนพิเศษนี้ก็เช่นเดียวกันจัดเต็มทั้งฉาก นักแสดง โลเคชั่นถ่ายทำ คอสตูม หรือแม้แต่จำนวนของซอมบี้ เรียกได้ว่ามาตรฐานพอ ๆ กับซีรีส์ทั้งสองซี่ซันที่ผ่านมาเลยทีเดียว
ตอนพิเศษนี้ได้นักแสดงคุณภาพอย่าง จอนจีฮยอน นางเอกสาวแถวหน้าของเกาหลีใต้มาเป็นนักแสดงนำ ร่วมกับนักแสดงที่เป็นตัวละครเก่าในซีรีส์ซีซันที่ผ่านมาอย่าง พัคบยองอึน ที่รับบทเป็น มินชีรก ทำให้ตอนพิเศษนี้ให้ความรู้สึกที่ลื่นไหล สามารถปะติดปะต่อเรื่องราวผ่านตัวละครที่กำลังดูอยู่ได้โดยอัตโนมัติ
อาจจะไม่ได้มีความลุ้นระทึกอะไรมากมายสำหรับการหนีซอมบี้ของตอนพิเศษนี้ แต่ก็ไม่ได้น่าเบื่อเสียทีเดียว ความลุ้นระทึกที่หายไปถูกทดแทนด้วยเนื้อเรื่องที่จะปูทางสู่จักรวาลหนีซอมบี้ในอนาคต เพราะยิ่งเริ่มเฉลยปัญหาที่ข้องใจในซีรีส์ซีซันที่ผ่านมา และเริ่มพาคนดูอย่างเราลงลึกในเรื่องราวของจักรวาล KINGDOM มากเท่าไหร่ ความอยากดู อยากติดตามก็ยิ่งมากขึ้น จนอยากให้ซีซันที่สามออกมาวันนี้ พรุ่งนี้กันเลยทีเดียว
ประเด็นที่ 1 ข้อสงสัยตั้งแต่ซีซันที่หนึ่งเกี่ยวกับที่มาของสมุนไพรคืนชีพ และการนำมาใช้กับกษัตริย์ในพระราชวังได้ถูกเฉลยออกมาในตอนพิเศษ
ประเด็นที่ 2 ข้อสงสัยเกี่ยวกับแรงจูงใจของผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในซีรีส์ ที่ได้ถูกเปิดเผยในช่วงท้ายของซีซันที่สองว่า อาชิน คือผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง ตอนพิเศษนี้เปิดเผยแรงจูงใจได้อย่างชัดเจน
ประเด็นที่ 3 ทิศทางของซีซันที่สามของซีรีส์ KINGDOM เหมือนจะถูกสปอยแบบผ่าน ๆ จากในตอนพิเศษนี้แล้ว
โดยรวมแล้ว อยากเล่าหนัง คิดว่า ตอนพิเศษของซีรีส์ KINGDOM : ASHIN OF THE NORTH (ผีดิบคลั่งบัลลังก์เดือด : อาชินแห่งเผ่าเหนือ) เป็นทั้งจุดไขข้อสงสัย จุดเชื่อมต่อ และจุดกำหนดทิศทางของซีซันที่สามเลยที่เดียว หากผู้ชมท่านใดยังไม่ได้รับชมก็อย่าลืมไปชมกันได้ทาง NETFLEX เมื่อไหร่ที่ซีซันสามออกมาจะได้ไม่สงสัยในตัวละคร อาชิน ทาง อยากเล่าหนัง หวังว่าคุณผู้ชมทุกท่านจะสนุก และมีความสุขกับการดูตอนพิเศษของซีรีส์ซอมบี้สุดมันส์อย่างKINGDOM กันนะ
ปกติการรีวิวของเราจะมีแนบข้อคิดที่ได้จากหนังแต่ละเรื่องเสมอ ๆ แต่เรื่องนี้ด้วยความสัจจริง ผมรู้สึกว่าแง่คิดต่าง ๆ มันค่อนข้างที่จะง่ายเกินไปและเป็นที่คุ้นเคยกัน บวกกับ 92 นาทีที่ดู ผมกดหยุดไปหลายต่อหลายครั้งเลยทีเดียวครับ (อาจจะสมาธิสั้นเองด้วย) หนังไม่ได้ดึงความสนใจ หรือความกระหายอยากรู้อะไรได้มากพอสำหรับผมเลย แต่ก็ต้องดูให้จบเพื่อให้สมกับเวลาที่รอคอย
7 คะแนนที่มอบให้กับเรื่องนี้ ต้องบอกว่าเป็นคะแนนที่ค่อนข้างน่าผิดหวังเลย เพราะตั้งความหวังไว้สูงกว่านี้ แต่ตัวที่ดึงคะแนนขึ้นมาก็เป็นเพราะตัวนักแสดงที่เล่นได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นตัวเอกอย่างจวนจีฮุน หรือแม้ตัวอาชินวัยเด็กก็เล่นได้อย่างดี รวมทั้งทีม Production เรียกได้ว่า Perfect แต่คะแนนต้องถูกตัดไปเพราะเส้นเรื่องที่ต้องการจะนำเสนอ (แต่เส้นเรื่องก็ดีนะครับแต่แค่ไม่ถูกใจตามความคาดหวัง) การเล่าเรื่องมันค่อนข้างยาวไปหน่อย กับผู้ที่หวังกับหนังซอมบี้ว่าจะมีฉากตื่นเต้น เสียวเป็นเสียวตายจากการวิ่งหนีซอมบี้ ปรากฏว่าหนังเรื่องนี้แทบจะไม่มีอะไรแบบนั้นเลย