รีวิวซีรี่ย์ LIFE

บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของผู้คนที่ทำหน้าที่ “รักษาชีวิต” โดยมีจุดศูนย์กลางของเรื่องอยู่ในโรงพยาบาลแห่งมหาวิทยาลัยซังกุก อันเป็นโรงพยาบาลชั้นนำติดอันดับหนึ่งในห้าของประเทศ ไล่เรียงกันตั้งแต่ ผู้ป่วย แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ โดยมีแกนหลักของเรื่องอยู่ที่ผู้บริหารสูงสุดที่จะนำพาโรงพยาบาลให้ดำเนินกิจการไปได้ตลอดรอดฝั่ง  ดูหนัง และสร้างผลกำไรให้สูงที่สุดเท่าที่ช่องทางจะมีให้ ดูหนังออนไลน์  หรือหากช่องทางมันคับแคบติดขัดนักก็สร้างช่องทางมันขึ้นมาซะเองเลย ทำทุกวิถีทางให้มันเกิดขึ้นให้จงได้ ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022 

แค่รู้ข่าวว่าคุณนักเขียนอีซูยอน เจ้าของผลงาน Secret Forest (รับชมพร้อมซับไทยได้ที่ Netflix)  ดูหนังฟรี ที่นอกจากจะสร้างความประทับใจไว้ในใจผู้ชมสายสืบสวน ยังกวาดรางวัลมากมายโดยเฉพาะรางวัลใหญ่สูงสุด (แดซัง) ในสาขารายการโทรทัศน์ ในเวทีระดับประเทศอย่าง 54th Baeksang Arts Awards และได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 รายการโทรทัศน์ที่ดีที่สุดของปี 2017 จาก New York Times โดยครั้งนี้แม้จะเปลี่ยนผู้กำกับที่ร่วมงานด้วย ดูหนัง เป็นคุณฮงจงชาน ที่เคยกำกับผลงานเรียกน้ำตา อย่าง Dear My Friends ก็ถือเป็นการเลือกผู้กำกับที่เหมาะกับบทเรื่องนี้อย่างมาก เพราะนอกจากความเข้มข้น ซับซ้อนของบทที่ทำได้อย่างดี เหมือนที่เคยฝากฝีมือไว้ในเรื่องป่าลับ เรื่องนี้คุณอีซูยอน ยังเพิ่มส่วนของอารมณ์ ความรู้สึก ที่ออกไปทางแนวดราม่าเข้ามาในบทด้วย ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา 

เอาเข้าจริงแม้ว่าตัวละครในเรื่องส่วนใหญ่จะเป็นแพทย์ที่ขนกันมาจากทุกแผนกในโรงพยาบาล แต่เนื้อเรื่องกลับไม่ได้เน้นที่การทำการรักษา หากจะมีฉากการรักษา หรือเรื่องเกี่ยวกับคนไข้ ก็จะเป็นในลักษณะของการนำเข้าไปสู่เรื่องราว ปัญหาด้านงานบริหารอีกที จึงอาจจะพูดได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่ใช่ซีรีส์การแพทย์ซะทีเดียว แต่เป็นดราม่าทางธุรกิจมากกว่า ซึ่งในส่วนการฟาดฟันระหว่างทีมแพทย์และทีมบริหารก็เป็นไปอย่างเข้มข้น อัดแน่นไปด้วยข้อมูลต่างๆ และกลทางธุรกิจ

เปิดดูซีรีส์เกาหลีมาหลายเรื่อง รีวิวซีรี่ย์ LIFE 

รีวิวซีรี่ย์ LIFE

ใช้เวลาในการเลือกพอสมควรกว่าจะได้พบเรื่องที่ถูกใจมากพอจะติดตามต่อไปจนจบ ยอมรับว่ามีซีรีส์แนวหมอเป็นอะไรที่เข้าไปแตะต้องน้อยมาก ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะซีรีส์พวกนี้จะมีฉากในห้องผ่าตัดอันเป็นจุดอ่อนอย่างหนึ่งของผม แต่ในเมื่อตั้งใจไว้แล้วว่าจะเลือกสักเรื่อง ในที่สุดก็ได้เรื่อง และมันคือเรื่องนี้ ‘Life’ หรือชื่อไทย ‘ค่าชีวิต’

มูลนิธิของโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยที่กำลังถูกฮวาจองกรุ๊ปเข้ามาซื้อ การบริหารจึงถูกเปลี่ยนถ่ายไปอยู่ในมือของ กูซึงฮโย (Cho Seung-Woo จากซีรีส์ ‘Stranger’) ประธานคนใหม่ที่มาจากธุรกิจลอจิสติกส์เข้ามาควบคุม เขาประกาศจะผ่าตัดโรงพยาบาลแห่งนี้เสียใหม่ แต่งานแรกของเขากลับกลายเป็นการโละส่งทีมแพทย์บางแผนกที่ไม่ทำกำไรให้ไปทำงานในต่างจังหวัด

เงื่อนงำหลายอย่างสร้างทั้งความสงสัยให้กับแพทย์-พยาบาล และสร้างความใคร่รู้กับผู้ชมซีรีส์ ทั้งหมดจะต้องมารับมือกับประธานหนุ่มคนใหม่ที่แสนเฉลียวฉลาด เก่งเกินวัย แม้ไม่ได้อยู่ในสายงานโรงพยาบาลมาก่อน นี่คือซีรีส์สายหมอที่เคร่งเครียดจริงจังและเปิดโปงวงการนี้ได้อย่างถึงแก่น

LIFE ซีรี่ย์ที่พูดถึงเรื่องราวชีวิตของผู้คนที่ทำหน้าที่ “รักษาชีวิต”

รีวิวซีรี่ย์ LIFE

โดยหลักๆในเรื่องจะพูดถึง เหตุการณ์ในโรงพยาบาลแห่งมหาวิทยาลัยซังกุกซึ่งเป็นโรงพยาบาลชั้นนำติดหนึ่งในห้าของประเทศประเด็นหลักๆของเรื่องอยู่ที่ผู้บริหารสูงสุดที่จะพาโรงพยาบาลดำเนินกิจการไปได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่ขาดทุน​ และสร้างผลกำไรให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ในโรงพยาบาลแห่งนี้

อย่างไม่ลดราวาศอกของทั้งสองฝ่าย ในนามของ “มนุษยธรรม” และ “ผลกำไรสูงสุด” ไม่ใช่แค่ประเมินสถานการณ์ แต่ตั้งป้อมอยู่บนจุดที่ตัวเองมองเห็นอย่างชัดเจน และเชื่อมั่นว่านั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดและหรือถูกต้องที่สุด การเผชิญหน้า การปะทะกัน จึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

แม้โรงพยาบาลจะได้ชื่อว่าเป็นสาธารณูปการของรัฐที่ดูแลและรับใช้ประชาชน แต่โดยเงื่อนไขการบริหารการจัดการเปรียบไปไม่ต่างกับธุรกิจอื่นๆ ที่ต่างมุ่งหวังผลกำไรและดิ้นรนให้หลุดพ้นจากภาวะขาดทุน เพียงแต่นี่คือโรงพยาบาลที่เราไม่ได้กำลังพูดถึงบริการหรือสินค้าทันสมัยรุ่นใหม่ล่าสุด แต่คือการทำงานอยู่บน “ความเป็น-ความตาย” ของชีวิต

การกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของ นักเขียน Lee Soo-Yeon

รีวิวซีรี่ย์ LIFE

และนักแสดงหลักสามคน จากซีรีส์ที่โด่งดังที่สุดเรื่องหนึ่งของปีที่แล้ว Secret Forest หรือ Stranger จากค่าย tvN นักแสดงหลักทั้งสามที่ต่างได้รับเสียงชื่นชมยกย่องจากการแสดงของพวกเขาคือ โจซึงอู, ยูแจ-มยอง และ อี-คยูฮยอง

ร่วมด้วย นักแสดงชายแถวหน้าอย่าง อีดงอุค นางเอกสาวหน้าใหม่มาแรงอย่าง วอนจินเอ เมื่อมารวมกับการกำกับจากผู้กำกับสายดราม่าชื่อชั้นดีงาม Hong Jong-Chan เจ้าของผลงานอย่าง Dear My Friends, Live Up To Your Name ทำให้นักดูแฟนซีรีส์เกาหลีต้องตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้นรอคอย

โจซึงอู หรือ โชซึงอู (Cho Seung-Woo) มารับบทเด่น ประธานกูซึงฮโย
ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง, มาดมั่น และมีประวัติการทำงานโดดเด่นเป็นเลิศ มาถึงจุดนี้ไม่ใช่เพราะโชคช่วยหรือเกิดมาเป็นทายาทตระกูลใหญ่อะไร แต่ด้วยความเก่งกาจสามารถของเขาล้วนๆ

เป็นอีกบทบาทการแสดงที่ท้าทายโจซึงอู รีวิวซีรี่ย์ LIFE 

แต่ก็ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงนักแสดงผู้มีรางวัลรับประกันฝีมืออย่างเขา กูซึงฮโยเปิดตัวกับคนดูด้วยความแรงและพร้อมชนทุกคนที่อยู่ในเส้นทางของเขา แต่ไม่ใช่ประเภทไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล สิ่งที่ทำให้คนดูลุ้นไปกับเขาตลอดทางก็เพราะความ เล่นตรงตรง ไม่โยกโย้โยนเกม ที่จะทำให้เขาได้หัวใจของคนดูไปครอง เผลอๆ จะได้หัวใจของหมอสาวไปด้วย

โดยการเล่าของคุณอีซูยอน ทำให้เราเห็นว่าทั้งสองฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตนเอง ชี้ให้เรามองว่า งานบริหารเอง ก็มีลักษณะงานอีกแบบ ความต้องการอีกแบบ ไม่มีใครที่ทำผิด หรืือใช้วิธีการสกปรก เพยงแต่เป็นการมองในมุมที่ต่างกัน ความเข้าใจที่ต่างกัน – แนวคิดอุดมการณ์ทางอาชีพ กับ ระบบทุนนิยมซึ่งก็ไม่ผิดทั้ง2ทาง ตัวละครเองก็ยังมีคำถามในใจ ยังสงสัยในตัวเองในขณะเดียวกันก็พยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่ัตัวเองไม่เคยสัมผัส หรือควมคิดที่ต่างออกไป

จุดนี้เราจะได้เห็นตัวละครประธานกูที่พยายามทำความเข้าใจงานทางการแพทย์อย่างจริงจัง จนเราเชื่อว่า เขาไม่ได้เข้ามาเพื่อทำธุรกิจแบบส่งๆ แต่พยายามทำความเข้าใจงานของฝั่งโรงพยาบาลเช่นกัน โดยไม่ใช่เพียงการเข้าใจเพื่อจับผิด แต่เป็นการทุ่มเทเพื่อจะได้เข้าใจปัญหาและนำไปทำให้เกิดประโยชน์จริงๆ – เป็นจุดหนึ่งที่เราประทับใจตัวตนของตัวละครตัวนี้มาก แสดงให้เราเห็นว่าคนเราที่ประสบความสำเร็จ บางครั้งไม่ใช่การเก่งมาแต่แรก หรือเป็นอัจฉริยะ แต่ความสำเร็จนั้น แลกมาด้วยความพยายามและทุ่มเทที่มากกว่าคนอื่น
ประเด็นดราม่าที่น่าสนใจที่หยิบมาเล่นในเรื่องนี้อันหนึ่ง คือประเด็นบุคคลทุพพลภาพและครอบครัว ที่เล่าผ่านความสัมพันธ์ของสองพี่น้อง จินอูและซอนอู (และแม่) โดยมีรายละเอียดในหลายแง่มุม และนำเสนอออกมาได้อย่างน่าสนใจในปมความสัมพันธ์ที่ดูใกล้ชิด แต่กลับมีซอกมุมของความไม่เข้าใจและระยะห่างระหว่างกัน นอกจากจะนำเสนอออกมาได้อย่างละเอียดอ่อน และให้เกียรติบุคคลทุพพลภาพ ยังเปิดแง่มุมของการใช้ชีวิตในสังคมที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตของบุคคลทุพพลภาพในเกาหลี (เป็นภาพลักษณ์ของประเทศที่ดีทีเดียว เพราะในเรื่องซอนอูสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนบุคคลปกติทุกอย่างและได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพ) ส่วนตัวเราเสียน้ำตากับความกดดันในใจระหว่างพี่น้องไปพอสมควร โดยเฉพาะช่วงท้าย และบทสรุปที่ซาบซึ้งของทั้งคู่

นอกจากความสัมพันธ์ในครอบครัว เรื่องนี้คุณอีซูยอนยังเพิ่มเติมอีกสิ่งที่เราสัมผัสได้เพียงบางเบาใน Secret Forest เข้ามาในเรื่องนี้อย่างชัดเจน นั่นคือ “เลิฟไลน์” ของตัวละครหลัก (คู่ท่านประธานน่ารักมากกกกก ไม่มาก ไม่น้อย พอเขินๆ มีฉากให้ยิ้มออกมาเรื่อยๆ) แถมยังมีความน่ารัก และตลก เล็กๆน้อยๆ ในบทของตัวละครสมทบต่างๆ ทำให้เรื่องค่อนข้างผ่อนคลาย และมีจังหวะพักความตึงเครียดของแกนหลักของเรื่อง

จุดนี้ ถ้าจะพูดก็เหมือนเป็นดาบสองคม เพราะถ้าคนที่ชอบสไตล์บทที่ไม่มีเลิฟไลน์ / ไม่เล่นดราม่าอารมณ์ ของ Secret Forest ก็็อาจจะรู้สึกว่าเรื่องอารมณ์ต่างๆที่เพิ่มเข้ามาเป็นเรื่องรุงรัง ทำให้เรื่องเบาลง ไม่เข้ม ไม่ลุ้นเหมือนตอนป่าลับ แต่กลับกัน การเพิ่มเรื่องทางอารมณ์ที่ใช้ความรู้สึกสัมผัส ก็ช่วยให้ส่วนของการใช้ความคิด ดูจะไม่ถี่ยาวติดต่อ จนปวดหัว กับการต้องคอยคิิดตามการเล่าเรื่องที่เข้มข้น บีบหัวใจ ระดับป่าลับ ส่วนตัวรู้สึกว่าการที่คุณอีซูยอนรักษาระกับความเข้มข้นในแกนหลักไว้ได้ การเพิ่มบทผ่อนคลายที่ไม่ทำให้แกนเสียก็ถือเป็นเรื่องดี และเป็นงานอีกแบบที่ทำให้เข้าถึงคนดูได้กว้างขึ้น

เรื่องนี้ค่อนข้างจะมีสไตล์การเล่าเรื่องที่คล้ายกับป่าลับค่อนข้างมาก

โดยเฉพาะการวางตัวละครต่างๆ และเปลี่ยนสถานที่เล่าเรื่อง จากงานศาลของเหล่าอัยการ(ไปทางสืบสวน) เป็นงานธุรกิจการสาธารณสุขที่ควบทั้งในมุมแพทย์และนักธุรกิจ(เอาข้อมูลมาฟาดฟัน)

ความจริงเสน่ห์ของบทคุณอีซูยอนนอกจากความซับซ้อนเดาไม่ได้ คือการเล่นกับความ “เทา” ของคน ใช้สถานการณ์ต่างๆมาชี้ให้เราเห็นว่า ความคิด-ความต้องการ-การยับยั้งชั่งใจ ของคนเรามีระดับต่าง และไม่ได้มีปริมาณชัดเจน ทุกอย่างเป็นไปตามความอ่อนไหวของกิเลส เลื่อนเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ซึ่งทำให้คนดูเองก็อดเอนไปตามเหตุและผลของแต่ละฝั่งไม่ได้ เพราะเรื่องราวต่างๆ ไม่จำเป็นต้องมีพระเอกที่ขาวสะอาด หรือตัวร้ายที่สำเร็จด้วยทริคสกปรกเสมอไป แต่เรื่องราวอาจดำเนินด้วยคนธรรมดา

บางคนหวั่นไหวไปกับกิเลสมนุษย์ บางคนกลับมาได้ บางคนไม่มีทางย้อนกลับ บางคนพยายามแต่พลั้งเผลอ บางคนยึดมั่น ยืดหยัดต่อสู้ โลกหมุนไปเรื่อยๆ ถ้าโลกเลวร้ายลง บางทีเราก็ทำได้แค่พยายามต้านมันในส่วนของเรา ต้านไว้ให้นานที่สุด

เสน่ห์หนึ่งของป่าลับ ที่มาเห็นชัดขึ้นไปอีกใน Life คือการคัดนักแสดงคุณภาพ ที่สามารถสื่อสารผ่านแววตา สีหน้า รอยยิ้มแค่มุมปาก ฯลฯ ทุกรายละเอียดในแต่ละอารมณ์และบริบท โดยเรื่องนี้ได้นักแสดงจากป่าลับมาเป็นตัวหลักถึง 3 คน คือโจซึงอู(ประธานกู) ยูแจมยอง(หมอจู ศัลยแพทย์ทรวงอก) และ อีคยูฮยอง(ซอนอู) เสริมด้วย อีดงอุค(จินอู) และนักแสดงสมทบท่านอื่นๆ แต่ละคนสามารถแสดงออกถึงความเปลี่ยนแปลงภายในของอารมณ์ตัวละครผ่านสีหน้าที่เปลี่ยนไปเพียงเล็กๆน้อยๆ แต่ชัดเจน ไม่ต้องเล่นล้น แต่พอดี เป็นธรรมชาติ (ดูซีรีส์เรื่องนี้รู้สึกว่าต้องดูละเอียดมาก เพราะต้องเก็บรายละเอียดสีหน้าแต่ละคน)

นักแสดงที่เราประทับใจมากในเรื่องนี้นอกจาก พระเอกทั้ง 2 และคุณหมอแว่น ก็คือคุณแม่โอเซฮวา รับบทโดย คุณมุนโซรี ที่แสดงบทสาวสตรองที่มีอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ แต่ก็ต้องรักษาเบื้องหน้าให้ดูดีเป็นที่เคารพ ขณะเดียวกัน เธอก็มีความโกรธ ความกลัว และความกล้าบ้าชน เป็นตัวละครเก๋ๆ เท่ๆ ที่ให้ความรู้สึกของผู้หญิงสาวสตรอง ทั้งบทและการแสดงที่น่าหมั่นไส้นิดๆ และทำให้เราเอาใจช่วยให้เจ๊ดับเครื่องชน ทำให้ตัวละครตัวนี้ เป็นตััวละครที่เราชอบมากตััวหนึ่ง