รีวิวซีรี่ย์ Light The Nigh
เรื่องราวของคดีฆาตกรรมผู้หญิงในไนท์คลับญี่ปุ่น ย่านโคมแดงของไทเปเมืองหลวงไต้หวันช่วงทศวรรษ 1980 ที่เต็มไปด้วย มิตรภาพ ความรัก อกหัก ความอิจฉาริษยา ดูหนังฟรี และการหลอกลวง เรียกว่านานๆ ทีจะมีซีรีส์จีนหรือไต้หวันที่สร้างจากทุนเน็ตฟลิกซ์ตรงๆ มาสักที ดูหนังออนไลน์ ซึ่งเรื่องนี้ก็มาในแนวดราม่าสืบสวนคดีฆาตกรรมผู้หญิงในย่านโคมแดงของไทเป เรื่องราวถูกเล่าย้อนอดีตไปช่วงปี 1988 ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา
สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ผู้เขียนมองว่า เป็นซีรีส์สืบสวนสอบสวนที่ผสมกับยุคไทเป 80
ที่น่าสนใจมาก ด้วยความที่ในยุคนั้นจะมีคนญี่ปุ่นอยู่เป็นจำนวนมากทำให้คนในไนท์คลับเองมีการพูดภาษาญี่ปุ่นปนกับภาษาจีนเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งซีรีส์มีทั้งหมด 3 ซีซั่น ซึ่งในทั้ง 3ซีซั่นนี้ก็จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการฆาตกรรมแต่เริ่มจากจุดสิ้นสุดไปยังจุดเริ่มต้น ในซีซั่นแรกเรื่องราวจะเน้นไปที่มาม่าซังคนไหนที่ถูกฆ่า และเหตุการณ์โดยรวมภายในไนท์คลับ ซีซั่นที่สองจะเน้นไปที่ความหลังที่ผ่านมาของทุกตัวละครว่ากว่าจะมีวันนี้ได้ผ่านอะไรมาบ้าง
ซีซั่นสุดท้ายก็จะเป็นเหมือนการเฉลยปมทุกอย่างที่เกิดขึ้นในซีซั่น1 และ 2 ส่วนตัวผู้เขียนมองว่าซีรีส์เรื่องนี้แอบขมวดปมนาน และ ดำเนินเรื่องช้าไปเล็กน้อย แต่จุดที่ทำให้อยากติดตามตอนต่อไปมีอยู่ในทุกตอนที่ดูจบ ถ้าใครอยากดูซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนจ๋าๆ เรื่องนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์เพราะเป็นการสืบสวนที่มีเรื่องราวของอดีตผสมกับปัจจุบันเยอะมาก และใช้เวลาเล่าเรื่องนานมากสำหรับคดีเพียง 1 คดี
ซีรีส์ไต้หวัน Netflix ที่ปราณีตใส่ใจงานสร้างมาก รีวิวซีรี่ย์ Light The Nigh
เชียร์ให้ทดลองดูกัน SS2 พึ่งมา มี 3 ซีซั่นจบ แต่ไม่ต้องรอนานเพราะเน็ตฟลิกซ์สร้างเสร็จแล้วก่อนปล่อยฉายต่อเนื่องทุกเดือน ss2 พลิกเกมการเล่าเรื่องใหม่หมดเลย กลายเป็นซีรีส์สืบสวนที่ซ่อนเงื่อนปมคดีฆาตกรรมที่ดูเหมือนธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา มีความลึกลับซับซ้อนหักมุมเรื่องราวในซีซั่น 1 ทั้งหมด มีตัวละครใหม่ปรากฎขึ้นมาในคดีได้อย่างน่าตื่นเต้น เหมือนเป็นหนังคนละม้วน แต่ก็ไม่ทิ้งพาร์ทดราม่าความสัมพันธ์ของตัวละครทุกคนไปเลย แถมยังส่งอารมณ์พาร์ทมิตรภาพกับความรักไปยังจุดที่ทั้งอบอุ่นกับเจ็บปวดใจไปพร้อมกัน ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง แม้ในซีซั่นแรกจะดูเป็นแนวดราม่าผู้หญิงก็ตาม
โดยมีตัวละครจำนวนมากมาเกี่ยวข้องผูกพันกันในไนท์คลับญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าแปลกสักหน่อยที่เป็นหนังจีนไต้หวันนำเสนอโลกของไนท์คลับญี่ปุ่น ตัวละครในเรื่องพูดญี่ปุ่นในไนท์คลับกับแขก แล้วก็สลับเป็นภาษาจีนกลาง เป็นซีรีส์ที่ถูกวางยาวไว้ 3 ซีซั่น รวมแล้ว 24 ตอนจบ มีทั้งหมดจำนวน 8 ตอนในซีซั่นแรกความยาวประมาณ 40-50 นาทีต่อตอน กำกับโดย เหลียน อี้-ชิ ที่มีผลงานฉายในไทยอย่าง หักเหลี่ยมโหดตำรวจโคตรระห่ำ Peace Breaker
เนื้อเรื่องเริ่มจากมีกลุ่มนักศึกษาไปพบศพถูกดินถล่มทับกลางป่า ก่อนที่ตำรวจจะสืบกลับมาว่าผู้ตายเป็นผู้หญิงในไนท์คลับญี่ปุ่น “แสงสกาว” เรื่องราวจะเล่าย้อนกลับไป 3 เดือนก่อนเกิดเหตุฆาตกรรม ที่มีจุดศูนย์กลางของเรื่องราวอยู่ที่มาม่าซัง 2 คน ซูกับโรส ที่ร่วมกันเปิดไนท์คลับแห่งนี้ขึ้นมา และก็มีเรื่องราวเหตุร้ายต่างๆ เกิดขึ้นมากับทุกคนในไนท์คลับในช่วงเวลา 3 เดือน เหมือนต่างคนก็เป็นชนวนเหตุเกี่ยวข้องกับคดีนี้ทั้งสิ้น
ดัดแปลงมาจากนวนิยายของ หม่าป๋อยง เรื่อง “Luoyang – ลั่วหยาง”
บอกเล่าเรื่องราวของคนชนชั้นต่างๆ ในยุคของพระนางบูเช็กเทียน เพื่อสืบคดีที่กำลังวุ่นวายในเมื่องลั่วหยาง รองแม่ทัพผู้ไม่ประสงค์ดีที่อยู่ด้านล่างของ ลั่วหยาง อย่าง “เกาปิ่งจู๋” (รับบทโดย หวงเซวียน) เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ และกลายเป็นผู้ต้องสงสัย เกาปิ่งจู๋จึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน
ซีรีส์เรื่องนี้มีรสชาติที่อาจจะแปลกแตกต่างจากที่มีในเน็ตฟลิกมากสักหน่อย ด้วยความที่เป็นซีรีส์จีนย้อนยุคเต็มตัว ซึ่งใครที่เกิดไม่ทันยุคซีรีส์จีนดราม่าสมัยก่อนก็อาจจะไม่ชอบหน้าตาของเรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ในตัวซีรีส์เองไม่ได้ด้อยคุณภาพใดๆ เลย ถือว่าเป็นซีรีส์ที่มีงานสร้างปราณีตพอตัวเลย ทั้งเสื้อผ้า ทรงผม สถานที่ แถมยังต้องจำลองไนท์คลับญี่ปุ่น ใช้นักแสดงญี่ปุ่นมาร่วมด้วย นักแสดงไต้หวันเองก็ต้องพูดญี่ปุ่นสื่อสารในเรื่องผสมกับจีนให้เป็นธรรมชาติอีก ถือว่าเป็นงานยากพอตัวเลยทีเดียว โดยใช้งบถึง 9 ล้านเหรียญสหรัฐในการสร้างเรื่องนี้ ซึ่งก็มากทีเดียวเมื่อเทียบกับซีรีส์เกรดทั่วๆ ไป ดังนั้นในเรื่องโปรดักชั่นก็เรียกได้ว่าผ่านเลยไม่มีอะไรต้องให้ติติงกัน
จุดเด่นของเรื่องนี้ก็ใช้การย้อนยุคเล่าเรื่องราวการสืบสวนที่แบ่งเป็นส่วนของ การเล่าชีวิตผู้หญิงในไนท์คลับกับส่วนของการสืบสวนตำรวจในปัจจุบันและอดีตที่ตำรวจกลุ่มนี้ไปเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งในส่วนชีวิตผู้หญิงในคลับก็มีตัวละครหลักคือ ซูกับโรส เป็นมาม่าซังที่ก่อตั้งแสงสกาวขึ้นมา เป็นเรื่องราวความรักสามเส้าของทั้งคู่ที่มีต่อผู้ชายคนเดียวกัน
ที่มีอาชีพเป็นนักเขียนบทโทรทัศน์ ซึ่งเขามีนิสัยเจ้าชู้ในตัวที่ทั้งคู่ก็รู้ดี แต่ด้วยความรักก็ทำให้เกิดการหักหลังแย่งชิงกันขึ้น แต่ก็ยังเป็นในรูปแบบมิตรภาพระหว่างเพื่อนไปด้วยนอกจากนี้ในแสงสกาวก็มีทีมงานเป็นสาวๆ ที่มีที่มานิสัยแตกต่างกันหมด เรื่องราวจะซอยย่อยออกเป็นคนๆ
ตัดสลับไปมาระหว่างเรื่องราวของซูกับโรส รีวิวซีรี่ย์ Light The Nigh
ทั้งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของสองคนนี้โดยตรงอย่าง ไอโกะ สาวนักศึกษาที่แอบรักเพื่อนหนุ่มที่เรียนด้วยกัน แต่เขากลับมาหลงรักมาม่าซู จนกลายเป็นปมรักซ้อนกันหลายทอด ซึ่งตัวละครแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์โดดเด่นกับเรื่องราวที่น่าสนใจ แม้จะเป็นเรื่องชีวิตผู้หญิงๆ
ที่มีทั้งเรื่องอิจฉาริษยา การแก่งแย่งลูกค้า แต่ก็ไม่ได้ออกมาน้ำเน่าอะไรมาก แต่ทุกคนก็จะมีจุดร่วมกันอย่างหนึ่งคือ การหลงรักผู้ชายที่อาจจะไม่ได้รักพวกเธอจริง ซึ่งผู้ชายในเรื่องแทบทุกคนจะเป็นคนเลวทั้งนั้น ถือว่าเป็นจุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้เลยที่เล่าเรื่องผู้หญิงหลายคนที่ต้องเจ็บปวดกับความรักความผิดหวังในตัวผู้ชายในแบบต่างๆ กัน
ซึ่งโทนเรื่องส่วนนี้จะค่อยๆ ซึมซับดราม่าพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ แรกๆ อาจจะรู้สึกว่าไม่ค่อยเข้าถึงเพราะตัวละครเยอะมากจริงๆ แต่พอผ่านไปสัก 3 ตอนผู้ชมจะเริ่มสัมผัสจับจุดเรื่องราวได้แล้ว อาจจะไม่ถึงกับติดมาก แต่ก็ชวนดูได้เรื่อยๆ เช่นกัน
เชียร์ให้ทดลองดูกัน SS2 พึ่งมา มี 3 ซีซั่นจบ แต่ไม่ต้องรอนานเพราะเน็ตฟลิกซ์สร้างเสร็จแล้วก่อนปล่อยฉายต่อเนื่องทุกเดือน ss2 พลิกเกมการเล่าเรื่องใหม่หมดเลย กลายเป็นซีรีส์สืบสวนที่ซ่อนเงื่อนปมคดีฆาตกรรมที่ดูเหมือนธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา มีความลึกลับซับซ้อนหักมุมเรื่องราวในซีซั่น 1 ทั้งหมด มีตัวละครใหม่ปรากฎขึ้นมาในคดีได้อย่างน่าตื่นเต้น
เหมือนเป็นหนังคนละม้วน แต่ก็ไม่ทิ้งพาร์ทดราม่าความสัมพันธ์ของตัวละครทุกคนไปเลย แถมยังส่งอารมณ์พาร์ทมิตรภาพกับความรักไปยังจุดที่ทั้งอบอุ่นกับเจ็บปวดใจไปพร้อมกัน ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง แม้ในซีซั่นแรกจะดูเป็นแนวดราม่าผู้หญิงก็ตามโดยมีตัวละครจำนวนมากมาเกี่ยวข้องผูกพันกันในไนท์คลับญี่ปุ่น
ซึ่งถือว่าแปลกสักหน่อยที่เป็นหนังจีนไต้หวันนำเสนอโลกของไนท์คลับญี่ปุ่น ตัวละครในเรื่องพูดญี่ปุ่นในไนท์คลับกับแขก แล้วก็สลับเป็นภาษาจีนกลาง เป็นซีรีส์ที่ถูกวางยาวไว้ 3 ซีซั่น รวมแล้ว 24 ตอนจบ มีทั้งหมดจำนวน 8 ตอนในซีซั่นแรกความยาวประมาณ 40-50 นาทีต่อตอน กำกับโดย เหลียน อี้-ชิ ที่มีผลงานฉายในไทยอย่าง
หักเหลี่ยมโหดตำรวจโคตรระห่ำ Peace Breakerเนื้อเรื่องเริ่มจากมีกลุ่มนักศึกษาไปพบศพถูกดินถล่มทับกลางป่า ก่อนที่ตำรวจจะสืบกลับมาว่าผู้ตายเป็นผู้หญิงในไนท์คลับญี่ปุ่น “แสงสกาว” เรื่องราวจะเล่าย้อนกลับไป 3 เดือนก่อนเกิดเหตุฆาตกรรม ที่มีจุดศูนย์กลางของเรื่องราวอยู่ที่มาม่าซัง 2 คน ซูกับโรส ที่ร่วมกันเปิดไนท์คลับแห่งนี้ขึ้นมา
และก็มีเรื่องราวเหตุร้ายต่างๆ เกิดขึ้นมากับทุกคนในไนท์คลับในช่วงเวลา 3 เดือน เหมือนต่างคนก็เป็นชนวนเหตุเกี่ยวข้องกับคดีนี้ทั้งสิ้นดัดแปลงมาจากนวนิยายของ หม่าป๋อยง เรื่อง “Luoyang – ลั่วหยาง” บอกเล่าเรื่องราวของคนชนชั้นต่างๆ ในยุคของพระนางบูเช็กเทียน เพื่อสืบคดีที่กำลังวุ่นวายในเมื่องลั่วหยาง รองแม่ทัพผู้ไม่ประสงค์ดีที่อยู่ด้านล่างของ ลั่วหยาง อย่าง “เกาปิ่งจู๋” (รับบทโดย หวงเซวียน) เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ และกลายเป็นผู้ต้องสงสัย เกาปิ่งจู๋จึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน
ซึ่งใครที่เกิดไม่ทันยุคซีรีส์จีนดราม่าสมัยก่อนก็อาจจะไม่ชอบหน้าตาของเรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้ว
แต่ในตัวซีรีส์เองไม่ได้ด้อยคุณภาพใดๆ เลย ถือว่าเป็นซีรีส์ที่มีงานสร้างปราณีตพอตัวเลย ทั้งเสื้อผ้า ทรงผม สถานที่ แถมยังต้องจำลองไนท์คลับญี่ปุ่น ใช้นักแสดงญี่ปุ่นมาร่วมด้วย นักแสดงไต้หวันเองก็ต้องพูดญี่ปุ่นสื่อสารในเรื่องผสมกับจีนให้เป็นธรรมชาติอีก
ถือว่าเป็นงานยากพอตัวเลยทีเดียว โดยใช้งบถึง 9 ล้านเหรียญสหรัฐในการสร้างเรื่องนี้ ซึ่งก็มากทีเดียวเมื่อเทียบกับซีรีส์เกรดทั่วๆ ไป ดังนั้นในเรื่องโปรดักชั่นก็เรียกได้ว่าผ่านเลยไม่มีอะไรต้องให้ติติงกันจุดเด่นของเรื่องนี้ก็ใช้การย้อนยุคเล่าเรื่องราวการสืบสวนที่แบ่งเป็นส่วนของ การเล่าชีวิตผู้หญิงในไนท์คลับกับส่วนของการสืบสวนตำรวจในปัจจุบันและอดีตที่ตำรวจกลุ่มนี้ไปเกี่ยวข้องด้วย
ซึ่งในส่วนชีวิตผู้หญิงในคลับก็มีตัวละครหลักคือ ซูกับโรส เป็นมาม่าซังที่ก่อตั้งแสงสกาวขึ้นมา เป็นเรื่องราวความรักสามเส้าของทั้งคู่ที่มีต่อผู้ชายคนเดียวกันที่มีอาชีพเป็นนักเขียนบทโทรทัศน์ ซึ่งเขามีนิสัยเจ้าชู้ในตัวที่ทั้งคู่ก็รู้ดี แต่ด้วยความรักก็ทำให้เกิดการหักหลังแย่งชิงกันขึ้น แต่ก็ยังเป็นในรูปแบบมิตรภาพระหว่างเพื่อนไปด้วยนอกจากนี้ในแสงสกาวก็มีทีมงานเป็นสาวๆ
ที่มีที่มานิสัยแตกต่างกันหมด เรื่องราวจะซอยย่อยออกเป็นคนๆตัดสลับไปมาระหว่างเรื่องราวของซูกับโรส ทั้งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของสองคนนี้โดยตรงอย่าง ไอโกะ สาวนักศึกษาที่แอบรักเพื่อนหนุ่มที่เรียนด้วยกัน แต่เขากลับมาหลงรักมาม่าซู จนกลายเป็นปมรักซ้อนกันหลายทอด ซึ่งตัวละครแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์โดดเด่นกับเรื่องราวที่น่าสนใจ แม้จะเป็นเรื่องชีวิตผู้หญิงๆ
ป็นซีรีส์สืบสวนสอบสวนที่ผสมกับยุคไทเป80 ที่น่าสนใจมาก ด้วยความที่ในยุคนั้นจะมีคนญี่ปุ่นอยู่เป็นจำนวนมากทำให้คนในไนท์คลับเองมีการพูดภาษาญี่ปุ่นปนกับภาษาจีนเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งซีรีส์มีทั้งหมด 3 ซีซั่น ซึ่งในทั้ง 3ซีซั่นนี้ก็จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการฆาตกรรมแต่เริ่มจากจุดสิ้นสุดไปยังจุดเริ่มต้น