รีวิวซีรี่ย์ LOCKE & KEY
ซีรีส์ที่จะเล่าคฤหาสน์หลังใหญ่แห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า Key House คฤหาสน์แห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นและยังเป็นที่อยู่อาศัยของตระกูลล็อคอีกด้วยมีพี่น้อง 3 คนได้ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้ ดูหนังฟรี เป็นบ้านเก่าของตระกูลหลังจากที่พ่อของพวกเขานั้นถูกฆาตกรรมลงจนเสียชีวิตก่อนหน้านี้ ดูหนังออนไลน์ พ่อของพวกเขานั้นไม่เคยพาใครกลับมายังเมืองเล็ก ๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์แห่งนี้มาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียวมันเป็นปริศนาที่ทำให้แม่ของพวกเขานั้นรู้สึกว่าใจเป็นอย่างมากไม่เพียง ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา
รีวิวซีรี่ย์ LOCKE & KEY ซีรีส์ฟอร์มยักษ์ผลงานจากลูกชายของนักเขียนชื่อดังอย่างสตีเฟนคิง สตีเฟน คิง
นั้นถือเป็นนักเขียนนวนิยายแนวสยองขวัญที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในระดับโลกผลงานของเขานั้นได้รับการยอมรับโดยทุกคนทั่วโลกว่าเป็นผลงานเขียนที่เต็มไปด้วยความสยองขวัญและประเด็นทางจิตวิทยามากมายมีการสอดแทรกปมเรื่องราวมากมายที่ลึกซึ้งและสามารถนำเอาไปตีความต่อได้อีกหลากหลายรูปแบบเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้ด้วยความที่นวนิยายของเขานั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมากมันจึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีเหล่าผู้สร้างภาพยนตร์และซีรีส์
ดึงเอานวนิยายเหล่านี้ไปสร้างเป็นเรื่องราวให้เราได้รับชมหลายต่อหลายครั้ง แต่ในครั้งนี้จะแตกต่างออกไปเพราะนวนิยายที่ถูกหยิบเอามาดัดแปลงให้กลายเป็นซีรีส์ที่เราจะมาแนะนำในวันนี้เป็นผลงานของลูกชายของสตีเฟนคิงอย่างโจฮิลล์ที่สามารถทำยอดขายได้อย่างถล่มทลายและประสบความสำเร็จไม่แพ้กับผู้เป็นพ่อเลยทีเดียวซีรีส์เรื่องนั้นก็คือ Locke & Key ซีรีส์แนวสยองขวัญฟอร์มยักษ์ที่ได้รับความนิยมจนติดอันดับบน Netflix
ถ้าพูดถึงความสยองขวัญแล้วก็บอกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้สามารถทำออกมาได้ดีไม่แพ้กับนวนิยายของคนพ่ออย่างสเช่นคิงเลยแม้แต่น้อยดูเหมือนว่าลูกชายคนนี้จะเป็นลูกไม้ตกไม่ไกลต้นเพราะเขาสามารถพิสูจน์ฝีมือได้แล้วว่าผลงานของเขานั้นดีจริงโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีชื่อพ่อมาช่วยกันให้เป็นจุดขาย แต่อย่างใดไม่เพียงเท่านั้นเขายังได้มาเป็นคนที่คุมงานการสร้างส์เรื่องนี้ด้วยตนเองอีกด้วยดังนั้นเราจึงสามารถมั่นใจได้เลยว่าเรื่องราวที่เล่าในซีรีส์เรื่องนี้ตรงตามต้นฉบับในหนังสือนวนิยายอย่างแน่นอนเนื่องจากผู้เขียนมาคุมงานเอง
Locke & Key หรือชื่อไทย บันทึกลับตระกูลล็อค ซีรีส์แนวแฟนตาซีสยองขวัญ 18+
ที่ทางเน็ตฟลิกซ์ได้ปล่อยออกฉายในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และที่สำคัญมาพร้อมพากษ์ไทยด้วย เป็นซีรีส์ 10 ตอนจบ หลังจากที่เราห่างหายจากซีรีส์แนว Stranger Things มาพักใหญ่ ใครที่ชอบซีรีส์แนวนี้บอกเลยว่าไม่ผิดหวังกับ Lock & Key อย่างแน่นอน เพราะเหมือนเป็นการยำระหว่าง Stranger Things และภาพยนต์เรื่อง The Chronicels of Narnia มีทั้งเรื่องเวทมนต์ สิ่งเล้นลับ ความสยองขวัญ และการสืบสวน
หลังจากการเสียชีวิตของ “แรนด้อน ล็อค” หัวหน้าครอบครัว จากการถูกฆาตกรรมโดย “แซม” นักเรียนของแรนด้อนและยังเป็นเพื่อนสนิทกับ “ไทเลอร์” ลูกชายของแรนด้อนอีกด้วย นีน่า (Darby Stanchfield) ภรรยาม่ายของแรนด้อน จำเป็นที่ต้องย้ายตัวเองและลูกๆ ทั้ง 3 คน ไทเลอร์ (Connor Jessup) ลูกชายคนโต , คินซีย์ (Emilia Jones) ลูกสาวคนรอง และ โบดี้ (Jackson Robert Scott) ลูกชายคนเล็ก จากซีแอตเทิล มายังคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ชื่อ Keys House ในเมืองแมทเทอสัน และบ้านหลังนี้คือบ้านของตระกูล “ล็อค” ที่อยู่กันมานานหลายรุ่นเป็นร้อยปี
หลังจากที่ครอบครัวย้ายเข้ามาอยู่ใน Keys House ก็แทบไม่จำเป็นต้องแนะนำตัวกับใครเลย เพราะใครๆ ก็รู้ถึงโศกนาฏกรรมที่เคยเกิดขึ้นกับครอบครัวนี้ “ดันแคน” น้องชายของแรนด้อนมายืนรอต้อนรับพี่สะใภ้และหลานๆ ดันแคนไม่เข้าใจว่าทำไมพี่สะใภ้ของเขา ถึงเลือกที่จะมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหลังนี้ ทั้งที่ตัวแรนด้อนพี่ชายของเค้าเองไม่เคยคิดที่จะกลับมาเหยียบที่บ้านหลังนี้หลังจากผ่านไปเกือบ 25 ปี โดย นีน่า ได้ให้เหตุผลว่า ลูกๆ ของเธอต้องการบ้านและไม่ต้องการอาศัยอยู่ในบ้านที่พ่อถูกฆาตกรรม ดันแคน ให้สัญญาว่าเค้าจะกลับมาเยี่ยมพี่สะใภ้และหลานๆ ทุกอาทิตย์ เพราะตัวเค้าเองอาศัยอยู่ในบอสตัน และก็ไม่ชอบบ้านหลังนี้แบบไม่มีเหตุผล
ในขณะที่คนอื่นๆ ไปโรงเรียน “โบดี้” ลูกชายคนเล็กจอมซนก็ได้สนิทกับ “รูฟัส”
พี่ชายข้างบ้านตัวผอมสูง รูฟัสเป็นลูกของ “เอลี่” อดีตเพื่อนกลุ่มเดียวกันของแรนด้อนผู้เป็นพ่อ และเอลี่ก็เป็นครูสอนพละที่โรงเรียนที่ไทเลอร์และคินซีย์เรียนอยู่ด้วย โบร์ดี้ได้ยินเสียงเรียกมาจากบ่อน้ำข้างๆ คฤหาสน์ และที่นั่น โบดี้ ได้พบหญิงสาวปริศนาในบ่อน้ำ เป็นหญิงสาวสวย ผมดำยาว โดยเธอแนะนำว่าเธอชื่อดอร์จยินดีจะเป็นเพื่อนกับโบดี้ และเธอยังเล่าให้โบร์ดีฟังว่า ในคฤหาสน์มีกุญแจวิเศษมากมายซ่อนอยู่ เพียงแต่โบร์ดี้ต้องหามันให้เจอ ครั้งแรกที่โบร์ดี้บอกกับทุกคนว่าเห็นผู้หญิงในบ่อน้ำทุกคนในบ้านไม่มีใครเชื่อ จนโบดี้ได้ยินเสียงกระซิบจากกุญแจดอกแรก ในที่สุดโบดี้ก็ได้กุญแจดอกแรกมา
โดยกุญแจดอกแรกมันอยู่ในกำไลข้อมือของ “คินซีย์” พี่สาวโบดี้ มันคือกุญแจที่จะไขไปไหนก็ได้ โบดี้ได้ทดสอบโดยไขไปโผล่ร้านไอติมที่แวะกินก่อนเข้ามายังคฤหาสน์ โบดี้ตื่นเต้นมากในขณะที่ คินซีย์ โกรธและเสียใจที่น้องชายมาทำกำไลที่พ่อให้ไว้เป็นที่ระลึกพัง โบดี้ได้นำเรื่องไปบอกดอร์จหญิงสาวในบ่อน้ำว่า เค้าเจอกุญแจดอกแรกแล้ว แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับพี่สาวของเขา ดอร์จได้อธิบายว่าการจะใช้กุญแจไปไหนก็ได้ เราต้องรู้จักหรือเคยเห็นสถานที่นั้นมาก่อน พูดเสร็จดอร์จจึงขอดูกุญแจจากโบดี้ โบดี้จึงส่งให้ด้วยความไร้เดียงสา หลังจากดอร์จได้กุญแจดอกแรกจากโบดี้ จึงแสดงตัวเป็นปีศาจ แล้วบังคับให้โบดี้หากุญแจที่เหลือที่ซ่อนอยู่ในบ้าน ไทเลอร์และคินซีย์รู้เรื่องของดอร์จ และ กุญแจดอกอื่นๆ ในบ้าน ผ่านเสียงกระซิบของกุญแจแต่ละดอก ซึ่งไทเลอร์และคินซีย์ก็ได้ยินเสียงกระซิบของกุญแจเหมือนกัน แต่ละดอกมีความสามารถไม่เหมือนกัน และใช้งานต่างกัน
ความพยายามครั้งนี้มีความเสี่ยง เพราะแรงกดดันจากความคาดหวังจากแฟนกราฟิกโนเวลก็ส่วนหนึ่ง อีกส่วนคือ Locke & Key เคยมีความพยายามดัดแปลงขึ้นจอมาแล้วทั้งจอเงินและจอแก้วแต่ก็ไม่เคยสำเร็จเลย ถ้านับไปอย่างน้อยก็ 3 ครั้งแล้วตั้งแต่ปี 2010 โดยค่ายฟ็อกซ์ และต่อมาก็เป็นโพรเจกต์หนังของยูนิเวอร์แซล ก่อนที่สุดท้ายจะมีการทำตัวไพลอตซีรีส์ไปเสนอที่สตรีมมิงเจ้าดังอย่าง ฮูลู และถูกปฏิเสธมา จนมาเข้ามือคู่แข่งอย่างเน็ตฟลิกซ์ที่อนุมัติให้สร้างนี่เอง เรียกว่าตัวซีรีส์แอบมีความยากในการดัดแปลงจนค่ายใหญ่ถอยมาแล้วหลายครั้ง อย่างน้อยเราก็เห็นว่าตัวเนื้อหาน่าจะมีรายละเอียดมากจนเหมาะกับการเป็นซีรีส์มากกว่าหนัง และนี่น่าจะมาถูกทางอยู่พอประมาณ
ปัญหาของซีรีส์ขนาดยาวโดยเฉพาะซีรีส์ในเน็ตฟลิกซ์คือ รีวิวซีรี่ย์ LOCKE & KEY
มักมีประเด็นน่าสนใจในหน้าหนังแต่ก็มักจะเข้าประเด็นสำคัญหรือทำให้รู้สึกสนุกได้ช้า ผู้ชมต้องอาศัยความอดทนในช่วงหลายตอนแรกอยู่พักใหญ่กว่าจะเริ่มลุ้นกับพลอตจริง ๆ ของซีรีส์นั้น และสำหรับ Locke & Key เองก็เช่นกัน แม้ในตอนแรกซีรีส์จะเปิดตัวอย่างน่าสนใจทั้งประเด็นดาร์ก ๆ ว่าแม่และลูกในครอบครัวล็อคต้องย้ายมาบ้านของตระกูลฝั่งพ่อ หลังจากที่สูญเสียหัวหน้าครอบครัวที่มีอาชีพครูต้องจากไปในเหตุโศกนาฏกรรมที่เด็กนักเรียนเพี้ยนตามมายิงที่บ้าน ซึ่งจั่วหัวมาก็ถือว่าดาร์กพอควรกลับหนังแนวแฟนตาซีที่เด็กดำเนินเรื่อง โดยใน 3 พี่น้องล็อคที่เป็นตัวนำ ตัวน้องชายคนเล็กที่ได้ยินเสียงกระซิบของกุญแจวิเศษคนแรกอย่าง โบดี้ (แสดงโดย แจ็กสัน โรเบิร์ต สก็อตต์ หรือ จอร์จี้ จากหนัง IT) ก็อายุเพียง 6 ขวบเองด้วย
นอกจากนี้ตัวขับเคลื่อนเรื่องสำคัญอย่างพลังของกุญแจวิเศษแต่ละดอกก็ไม่ได้แฟนซีหวานแหววเลย เช่นดอกแรกที่เป็นกุญแจกระจกที่จะหลอกล่อคนเข้าไปติดห้องวงกตในมิติกระจกจนตาย หรือดอกที่เป็นพระเอกอย่างกุญแจหัวที่จะไขเข้าไปสู่โลกในสมองของคนที่มีเงื่อนไขการนำเข้า-การเอาออกสิ่งของในโลกนั้นแล้วกระทบกับสมองของตัวคนได้ อย่างที่พี่สาวคนรองอย่าง คินซี่ (เอมิเลีย โจนส์ จากหนัง High-Rise) เลือกจะเอาความกลัวของตนเองออกมาจากหัวจนทำให้เธอเปลี่ยนจากเด็กที่เจ้าระเบียบและขี้กังวลกลายเป็นคนกล้าและขาดการยั้งคิดไป
ก็ดูจะไฮคอนเซ็ปต์พอสมควร มองในแง่นี้ซีรีส์จึงไม่ได้ประนีประนอมกับคนดูและมุ่งไปที่กลุ่มผู้ชมเด็กโตจนถึงวัยหนุ่มสาวขึ้นไปเสียมากกว่า โดยยังไม่ต้องพูดถึงประเด็นการสู้รบกับปีศาจในร่างมนุษย์เช่นเด็กเพี้ยนนาม แซม ที่ปัญหาครอบครัวนำมาสู่การถูกปั่นหัวง่ายและกลายเป็นฆาตกรในที่สุด หรือกระทั่งปีศาจตัวจริงอย่าง ดอดจ์ (เลย์สลา ดี โอลิเวียรา จาก In the Tall Grass) หญิงในบ่อน้ำที่โบดี้ไปเจอ ผู้ที่ใช้ทั้งพลังรอบรู้ในเรื่องกุญแจ ความเจ้าเล่ห์และความเหี้ยมอำมหิตฆ่าคน (แม้แต่เด็กเล็ก) เป็นว่าเล่น ก็เสริมภาพรวมของซีรีส์ให้เป็นแนวดาร์กน้อง ๆ Stranger Things อยู่พอสมควร (แต่ก็ยังห่างไกลความโหดด้านภาพจากหนัง IT ในประเภทหนังเดียวกัน)
ซีรีส์ใช้เวลาปูพื้นความสัมพันธ์ของแต่ละตัวละครในเมืองกับครอบครัวล็อคอยู่พอควร
โดยระหว่างนั้นก็พัฒนาพลอตเรื่องของการตามหากุญแจวิเศษเพื่อต่อกรปีศาจร้ายไปด้วย และจะเริ่มดึงคนดูหนัก ๆ จริง ๆ ก็ปาไปตอนที่ 7 ไปแล้ว ตั้งแต่ว่าตัวร้ายอย่าง แซม และ ดอดจ์ ได้กลับมาแท็กทีมกันสมบูรณ์นั่นเอง ตรงนี้ก็ตอกย้ำอีกครั้งว่าซีรีส์ไม่สามารถเอาอยู่ด้วยการขับดันด้วยซับพลอตเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละคร เช่น ปัญหารักสามเส้าของคินซีย์
หรือปัญหาการอยากเป็นที่ยอมรับในสังคมโรงเรียนใหม่ของ ไทเลอร์ พี่ชายคนโต แม่ที่ต้องสู้กับอาการติดสุราและความอยากปกป้องลูก ๆ โดยไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะผู้ใหญ่จะจดจำเรื่องเวทมนตร์ไม่ได้ และโบดี้น้องคนเล็กที่ต้องเผชิญปีศาจใกล้ชิดที่สุด ก็อาการหนักจากช่วงกลางของซีรีส์ที่บทของเขาหายไปพักใหญ่ ๆ เลย
แต่เรื่องการตายของสามี แต่ยังรวมไปถึงความลับหลายอย่างที่สามีนั้นปิดบังเธอเอาไว้อีกด้วย แต่การที่เธอพาลูกทั้งสามคนย้ายกลับมายังคฤหาสน์ของตระกูลแห่งนี้มันก็ทำให้ลูกของเธอทั้งสามคนได้ค้นพบบางใหญ่ที่เป็นความลับถูกซุกซ่อนอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศเก่าแก่และความน่ากลัวมันคือกุญแจวิเศษมากมายแต่ละดอกนั้นจะมีพลังแตกต่างกันออกไปผู้ใหญ่จะไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของมัน แต่เด็กจะได้ยินเสียงกระซิบจากพวกมันที่คอยเรียกหาและรอคอยให้พวกเขาไปพบเจอกุญแจแต่ละดอกนั้นจะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไปอย่างเช่น แต่ที่สามารถจุดไฟได้กุญแจสำหรับไปที่ไหนก็ได้
เหมือนกับประตูโดเรม่อนกุญแจที่จะทำหน้าที่เหมือนกับคุกขังทุกคนในมิติกระจกกุญแจที่จะทำให้เราสามารถขายเข้าไปในหัวของคนได้ทำให้เรารับรู้ว่าพวกเขานั้นมีความรู้สึกอารมณ์หรือความทรงจำอย่างไรเรื่องราวของเด็กทั้ง 3 คนจะเป็นอย่างไรต่อไปพวกเขาจะสามารถค้นหาความรักเกี่ยวกับคฤหาสน์ของตระกูลและการตายของพ่อได้สำเร็จหรือไม่ต้องติดตามรับชมกันในซีรีส์