รีวิวซีรี่ย์ Memories of Murder

รีวิวซีรี่ย์ Memories of Murder

Memories of Murder ฆาตกรรม ความตาย และสายฝน หนังอาชญากรรมระทึกขวัญจากเกาหลีที่เป็นเหมือนผลงานแจ้งเกิดของผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง บง จุน โฮ จาก Parasite ในปี 2020 ครับโดยตัวหนัง Memories of Murder ฆาตกรรม ความตาย และสายฝน นั้นได้หยิบเอาเรื่องจริงในช่วงปี 1986-1991 ของคดีฆ่าข่มขืนที่สะเทือนขวัญที่สุดของเกาหลีมาดัดแปลงให้เป็นภาพยนตร์ครับ โดยเหตุการณ์จริงในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตถึง 10 รายด้วยกัน ซึ่งยังไม่สามารถปิดคดีได้ถึง 33 ปี และส่าสุดในปี 2019 ก็เพึ่งจะจับคนร้ายตัวจริงได้ครับ ใครสนใจเรื่องจริงนี้อยากหาข้อมูลเพิ่ม ให้พิมพ์ไปว่า “คดีฆาตกรรมต่อเนื่องฮวาซอง” ครับ ดูหนัง 

รีวิวซีรี่ย์ Memories of Murder

สำหรับพ.ศ.นี้ชื่อ บงจุนโฮ มิได้เป็นเพียงผู้กำกับโนเนมจากเกาหลีใต้อีกต่อไป เพราะหลังจาก Parasite คว้าออสการ์ไปแบบมิชชันอิมพอสซิเบิลเมื่อต้นปี ความฮอตของนักทำหนังจากดินแดนโสมไแต่ย้อนกลับไป 17 ปีที่แล้วชื่อของบงจุนโฮได้ถูกแนะนำให้คอหนังทั่วโลกรู้จักครั้งแรกจากผลงานการกำกับเรื่องที่ 2 อย่าง Memories of Murder ที่เขาร่วมเขียนบทและกำกับโดยมีแรงบันดาลใจมาจากคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เมืองฮวาซอง (Hwaseong) ดูหนังออนไลน์

รีวิวซีรี่ย์ Memories of Murder

ซึ่งจับผู้ต้องหาไม่ได้แม้เวลาผ่านมาตั้งแต่ปี 1986 และละครเวทีเรื่อง Come See Me ของคิมกวางริมที่ได้แรงบันดาลใจจากคดีเดียวกันที่ช่วยให้เขาวางโครงเรื่องจากข้อมูลที่รีเสิร์ชมาได้แบบไม่ลืมบุญคุณเลยทีเดียวด้พิสูจน์ให้เห็นว่าศิลปะภาพยนตร์สามารถทำลายกำแพงกั้นทางภาษา 1 นิ้วที่มาในรูปของซับไตเติลลงได้อย่างราบคาบและบ่อยครั้งที่มันถูกยกมาอ้างอิงในการพูดถึงเรื่องชนชั้นกระทั่งเปรียบเปรยความเหลื่อมล้ำอันเป็นสากลไปทั่วโลก  ดูหนัง 4k 

รีวิวซีรี่ย์ Memories of Murder

เอาล่ะมาเข้าเรื่องของหนังในวันนี้กันอย่างแรกคือ บง จุน โฮ เป็นผู้กำกับและเขียนบทของหนังเรื่องนี้ ตามมาด้วยนักแสดงคู่บุญอย่าง ซงกังโฮ จับคู่กับ คิม ซังคยูง ทั้งคู่รับบทเป็นตำรวจสายสืบภายในหนังเรื่องนี้ที่คอยไขคดีครับ นอกจากนั้นยังมี คิม รอย ฮา , ซง แจ โฮ , บยอนฮีบง และ Seo-hie ko ร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ครับ หนังจะเล่าถึงเมืองเล็ก ๆ ในเกาหลีใต้ที่มีฆาตกรต่อเนื่องออกอาละวาดไล่ฆ่าข่มขืนรัดคอหญิงสาวแล้วเอากางเกงในของเหยื่อคลุมหน้าก่อนจะนำของใช้ยัดใส่ช่องคลอดจนกลายเป็นคดีสุดสะเทือนขวัญไปทั่วประเทศ แต่ตำรวจในท้องที่อย่าง นักสืบปาร์คโดมัน (ซงกังโฮ)และนักสืบโชยังกู (โร-ฮาคิม) กลับเลือกใช้วิธีสุ่มจับผู้ต้องหามาหวังจะปิดคดีโดยเร็ว แต่แล้วทางกรมตำรวจกลางก็ได้ส่ง นักสืบซอแตยุน (คิมซังคยูง) นักสืบหนุ่มไฟแรงจากเมืองโซลมาร่วมสืบหาคนร้ายก่อนจะมีผู้เคราะห์ร้ายรายต่อไป ดูหนังออนไลน์ 4k

ยอมรับว่านี่คือประสบการณ์การชม Memories of Murder คร้้งแรกของผมและการได้ชมในโรงภาพยนตร์ก็ทำให้นี่เป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมนอกเหนือจากบทภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องได้อย่างมีชั้นเชิงแล้ว มันยังทำให้ผมไม่แปลกใจเลยที่เขากล้าบอกให้ผู้ชมจากโลกตะวันตกเปิดใจให้หนังของเขาและเพื่อน ๆ จากเอเซียเพราะแม้จะหยิบคดีฆาตกรรมในบ้านเกิดตัวเองมาทำหนังทว่าวิธีการเล่าและลีลามีความเป็นสากลแต่ไม่ทิ้งอัตลักษณ์ของความเป็นหนังเกาหลีเลยแม้แต่น้อย รีวิวซีรี่ย์ 

ประการแรกที่ผมกล้ากล่าวได้ว่าไม่ว่าคนชาติใดดูหนังเรื่องนี้ก็ได้รับความบันเทิงเห็นจะเป็นน้ำเสียงที่ บงจุงโฮ เลือกจะเอาอารมณ์ขันมาเคลือบแฝงเนื้อหาที่ว่าด้วยการจับแพะอันเป็นหนึ่งในเรื่องราวสุดอื้อฉาวของคดีจริง และการเลือก ซงกันโฮ กับ โร-ฮาคิม มาจับคู่ก็ถือเป็นมวยถูกคู่มากในขณะที่ฝ่ายแรกมามุกตลกแดกนิ่ง ๆ แต่ฝ่ายหลังเล่นมุกสังขารสุดกักขฬะโดยเฉพาะอุปนิสัยของนักสืบโชยังกูที่ชอบซ้อมผู้ต้องหาเพื่อให้สารภาพตามที่คู่หูอย่างนักสืบปาร์คโดมันได้วางแผนไว้

ซึ่งการเอาอารมณ์ขันตลกร้ายมาเล่าเรื่องราวสุดมืดหม่นก็ทำให้การเล่าเรื่องติดตรึงและเร้าอารมณ์คนดูตลอดเวลาแม้ภาพบนจอจะไม่ได้มีฉากระเบิดภูเขาเผากระท่อมหรือกระทั่งมีตัวละครหนุ่มสาวหน้าตาดีเดินผ่านไปมาแต่มันก็ทำให้เราละสายตาจากพวกเขาไม่ได้ด้วยจังหวะการแสดงที่เข้าขาและแม่นยำซึ่งก็ไม่แปลกใจอีกเหมือนกันว่าในผลงานเรื่องต่อมาทำไมบงจุนโฮถึงเลือกซงกังโฮเป็นดาราคู่บุญ

เมื่อพบศพมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาเริ่มสังเกตได้ว่าคนร้ายลงมือก่อเหตุทุกครั้งในคืนที่ฝนตก และเหยื่อทุกคนใส่เสื้อผ้าสีแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง ควอนกวีอ๊ก ยังพบว่าทุกคืนที่เกิดเหตุ รายการวิทยุในพื้นที่ได้เปิดเพลง “จดหมายอันเศร้าโศก” (우울한 편지) ของนักร้องชื่อดังในตำนาน ยูแจฮา เพราะมีคนเขียนจดหมายไปขอเพลงนี้ พัคดูมัน โจยงกู และซอแทยุนย้อนกลับไปที่สถานที่เกิดเหตุล่าสุด โดยพวกเขาได้เจอกับ โจบย็องซุน ยืนสำเร็จความใคร่ใส่ชุดชั้นในของหญิงสาวอยู่ แต่หลังสอบสวนไปมา ทั้งพยายามหว่านล้อมและทำร้ายร่างกาย โจบย็องซุนก็บอกว่าเขาไม่ได้รู้เห็นอะไรเกี่ยวกับการฆาตกรรม เขาเป็นเพียงผู้บริสุทธิ์ที่หมกมุ่นในกาม

ซอแทยุนพบบ้านหลังหนึ่งบนเนินเขา โดยจากที่ถามมาพบว่าเจ้าของบ้านเป็นหญิงสาวผู้หนึ่ง เธอมักร้องไห้อยู่เสมอ และข้างนอกบ้านของเธอก็ตากผ้าที่มีเสื้อผ้าสีแดงด้วยเช่นเดียวกัน ซอแทยุนให้ตำรวจหญิงควอนกวีอ๊กมาพูดคุยกับเจ้าของบ้าน ก็พบว่าเธอถูกคนร้ายซึ่งน่าจะเป็นคนเดียวกันข่มขืนตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ถูกมัดด้วยวิธีการเดียวกันกับศพอื่น ๆ โดยเธอเป็นเหยื่อรายแรกและรายเดียวที่รอดชีวิตมาได้ แม้จะไม่เห็นใบหน้าของคนร้าย แต่เธอก็ให้ข้อมูลที่สำคัญกับตำรวจว่าคนร้ายเป็นคนที่มีฝ่ามือนุ่ม ประจวบเหมาะกับที่ทางตำรวจได้ชื่อและที่อยู่ของบุคคลที่ส่งจดหมายไปที่สถานีวิทยุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตามไปหา พัคแฮอิล ที่ทำงานและนำตัวมาสอบสวน เขามาทำงานที่เมืองนี้ตั้งแต่กันยายนปีที่แล้ว อีกทั้งยังมีมือที่นุ่มตามที่เหยื่อบอก

แต่เนื่องจากเกาหลีใต้ในขณะนั้นยังไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาก ซอแทยุนจึงต้องส่งน้ำกามที่พบบนตัวเหยื่อกับดีเอ็นเอของพัคแฮอิล ไปให้สถาบันที่สหรัฐอเมริกาตรวจสอบ และในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะคอยจับตาดูพัคแฮอิลเอาไว้ คืนหนึ่งฝนตกโปรยปราย ซอแทยุนคลาดกับพัคแฮอิลเลยตามไม่ทันว่าเขาเดินทางไปที่ไหน เช้าวันรุ่งขึ้นก็พบศพของเด็กนักเรียนหญิงที่ซอแทยุนเคยพูดคุยด้วย เป็นเหยื่อที่อายุน้อยที่สุดจากทั้งหมด ซอแทยุนตามไปหาพัคแฮอิลแล้วใช้กำลังเพื่อให้พัคแฮอิลยอมสารภาพว่าเป็นคนทำ แต่พัคดูมันตามมาห้ามเอาไว้พร้อมกับยื่นซองเอกสารจากสหรัฐอเมริกาให้ ผลออกมาว่าดีเอ็นเอของพัคแฮอิลไม่ตรงกับคนร้าย ซอแทยุนไม่ยอมเชื่อแล้วยกปืนขึ้นเพื่อจะยิง แต่พัคดูมันก็ห้ามเอาไว้อีกครั้ง แล้วปล่อยพัคแฮอิลไป

หลายสิบปีผ่านไป ในปีค.ศ. 2003 พัคดูมันลาออกจากการเป็นตำรวจนานแล้ว ตอนนี้เขามีลูกสองคนและขายเครื่องคั้นน้ำผลไม้ วันหนึ่งระหว่างที่นำสินค้าไปส่งแล้วขับผ่านจุดเกิดเหตุที่แรก เขาหยุดรถแล้วแวะลงไปเดินดูอีกครั้ง ในขณะที่เขากำลังก้มมองท่อน้ำที่เคยพบศพแรก ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่าเพิ่งมีคุณลุงคนหนึ่งมานั่งมองจุดเดียวกันกับพัคดูมัน เด็กผู้หญิงเล่าว่าเธอถามชายผู้นั้นว่าเขามานั่งทำอะไร ชายผู้นั้นตอบว่าเขากำลังนึกถึงสิ่งที่ตนเองเคยทำ ณ สถานที่ตรงนี้เมื่อนานมาแล้ว พัคดูมันจึงถามต่อว่าคน ๆ นั้นมีหน้าตาอย่างไร เด็กผู้หญิงตอบว่าเขาหน้าตาธรรมตาและพบได้ทั่วไป พัคดูมันได้ยินดังนั้นก็ตระหนักได้ว่าเด็กผู้หญิงได้พบเข้ากับฆาตกรที่ยังคงลอยนวลอยู่ พัคดูมันจึงมองตรงมาที่ผู้ชมราวกับกำลังตามหาฆาตกรที่แอบซ่อนตัวอยู่ หลังจากนั้นภาพยนตร์ก็จบลง

Memories of Murder ฆาตกรรม ความตาย และสายฝน บอกเลยว่าเป็นหนังอาชญากรรมที่ดูสนุกมากอีกหนึ่งเรื่อง ทั้งบรรยากาศของหนังที่พาย้อนไปเกาหลีในช่วงนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมกับการเล่าเรื่องที่โคตรน่าติดตาม มีชั้นเชิงในการเล่าบวกกับการผสมผสานระหว่างความระทึกขวัญของคดีฆาตกรรมเข้ากับความตลกร้ายได้อย่างลงตัวที่แบบ ไม่คิดว่าสองอย่างนี้จะเข้ากันได้กับหนังแนวอาชญากรรมแบบนี้ แต่หนังเรื่องนี้ก็ทำออกมาให้เห็นแล้วว่าสองอย่างที่ตรงข้ามกันดันเข้ากันได้ดีมากๆในหนังเรื่องนี้

ประการสุดท้ายและน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้คนดูอินที่สุดเห็นจะเป็นการวิพากษ์การเมืองในหนังซึ่งเหตุฆาตกรรมก็ดันไปซ้อนทับเหตุประท้วงของนักศึกษาเกาหลีใต้พอดีแบบเป็นประวัติศาสตร์คนละด้านทว่ากลับส่งผลกระทบให้กันไปมาอย่างคาดไม่ถึงโดยเฉพาะซีนที่นักสืบได้เบาะแสคนร้ายแต่ขาดกำลังคนและทางการก็เทกำลังทหารไปปราบจลาจลกันหมด หรือแม้กระทั่งความเหลื่อมล้ำในที่ทำงานที่เอาตำรวจหญิงเก่ง ๆ ไปชงกาแฟทั้งที่มีฝีมือ ซึ่งแม้เราจะไม่ใช่เพื่อนร่วมชาติก็อดสงสารและโกรธแค้นตามไม่ได้ที่ท้ายที่สุดความเหลื่อมล้ำก็เกิดขึ้นแม้แต่หน่วยงานที่เป็นที่พึ่งของประชาชนเอง

รีวิวหนัง Memories of Murder ฆาตกรรม ความตาย และสายฝน -  เปิดโปงคดีฆ่าที่ฉาวที่สุดในประเทศเกาหลี

และด้วยการโขกสับวัตถุดิบชั้นดีด้วยชั้นเชิงการเล่าเรื่องชั้นเซียนก็ทำให้ Memories of Murder กลายเป็นงานคลาสสิกเหนือกาลเวลาที่แม้แต่ข่าวล่าสุดที่ว่าสามารถจับผู้ร้ายตัวจริงนาม Lee Chun-jae ก็ไม่ได้ลบความดีของหนังได้เลยเพราะสุดท้ายเวลาเกิดเรื่องร้ายแรงคอขาดบาดตายความเหลื่อมล้ำและล่าช้าของระบบราชการก็ยังคงเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่เปลี่ยนแม้หนังจบและเรื่องจริงจะได้รับความกระจ่างแต่พอมามองสังคมเมืองไทยแววตาของนักสืบปาร์คโดมันก็ยังคงแทนใจประชาชนตาดำ ๆ ธรรมดาอย่างพวกเราได้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง

แต่ย้อนกลับไป 17 ปีที่แล้วชื่อของบงจุนโฮได้ถูกแนะนำให้คอหนังทั่วโลกรู้จักครั้งแรกจากผลงานการกำกับเรื่องที่ 2 อย่าง Memories of Murder ที่เขาร่วมเขียนบทและกำกับโดยมีแรงบันดาลใจมาจากคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เมืองฮวาซอง (Hwaseong) ซึ่งจับผู้ต้องหาไม่ได้แม้เวลาผ่านมาตั้งแต่ปี 1986 และละครเวทีเรื่อง Come See Me ของคิมกวางริมที่ได้แรงบันดาลใจจากคดีเดียวกันที่ช่วยให้เขาวางโครงเรื่องจากข้อมูลที่รีเสิร์ชมาได้แบบไม่ลืมบุญคุณเลยทีเดียวใครที่ดูภาพยนตร์หรือซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนของเกาหลีใต้บ่อย ๆ อาจเคยได้เห็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องหญิงสาวผ่านตากันมาบ้าง

คดีฆาตกรรมต่อเนื่องดังกล่าวเป็นคดีที่เกิดขึ้นจริงในประเทศเกาหลีใต้ ช่วงค.ศ. 1986-1991 หรือตามที่รู้จักกันภายใต้ชื่อ “คดีฆาตกรรมต่อเนื่องฮวาซอง” คดีนี้เคยเป็นหนึ่งในคดีเย็น (Cold case) หรือคดีที่ไม่สามารถปิดลงได้ รวมถึงเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องคดีแรก ๆ ที่เกิดขึ้นในเกาหลีใต้ (Jung, 2017; Jo, 2017) ก่อนคนร้ายจะยอมสารภาพในปีค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา (Seo & Hollingsworth, 2020) เรื่องราวเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องฮวาซองผ่านจอยักษ์แล้ว ภาพยนตร์เรื่อง Memories of Murder ยังสอดแทรกเนื้อหาและสะท้อนให้เห็นภาพของเกาหลีใต้ในช่วงทศวรรษ 1980 อย่างชัดเจนด้วยเช่นเดียวกัน

ไม่ว่าจะเป็นชีวิตอันไร้ซึ่งความมั่นคงและปลอดภัยภายใต้รัฐบาลเผด็จการอำนาจนิยม การปราบปรามประชาชนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย และการใช้ความรุนแรงโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจราวกับเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งยังทิ้งท้ายเอาไว้ว่า แม้ในค.ศ. 2003 คดีฆาตกรรมต่อเนื่องฮวาซองจะผ่านมาแล้วหลายสิบปี เช่นเดียวกับเกาหลีใต้ที่กลายมาเป็นประเทศประชาธิปไตย แต่ฆาตกรตัวจริงและอำนาจเผด็จการในอดีตก็อาจหลบซ่อนตัวอยู่โดยที่ไม่มีใครรู้