รีวิวซีรี่ย์ Memories of the Alhambra
เชื่อว่าเกือบทุกคนที่เห็นภาพโปรโมตซีรีส์เกาหลีจาก Netflix เรื่อง Memories of The Alhambra ครั้งแรก จะต้องคิดว่านี่ก็คงเป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกาหลีรักหวานแหววอีกแน่นอน ก็แหม ภาพพระเอกนางเอกยืนมองตากันหวานฉ่ำซะขนาดนั้น จะเป็นอื่นไปได้รึ แต่ทุกคนก็อาจจะเริ่มกังขา เมื่อเห็นตัวอย่างซีรีส์… นี่ใช่ซีรีส์รักหวานแหววแน่เหรอวะ ชักไม่มั่นใจแล้วถึงอย่างนั้น นั่นก็เป็นสัญญาณดีสำหรับเรา เพราะเรากำลังโหยหาซีรีส์ที่มีพล็อตล้ำๆ แปลกๆ ปมเยอะๆ ซึ่งดูเหมือนว่า Memories of The Alhambra จะตอบโจทย์ได้ดี
เพราะแค่เปิดดูตอนแรก เราก็รู้สึกว่าทุกฉากทุกตอนมันน่าติดตามไปหมด เนื้อเรื่องกระชับฉับไว พล็อตมีความแปลกใหม่ และที่สำคัญคือคอนเซ็ปต์ ซีจี กับฉากโลเคชั่นของหนังนั้นตระการตามากๆ ลองคิดภาพดูว่า…มันจะเจ๋งแค่ไหนถ้าเราสามารถเดินไปตามที่ต่างๆ เพื่อไล่ล่าศัตรู เก็บแต้ม คว้าอาวุธ เสมือนเราอยู่ในเกมทั้งที่จริงๆ ก็ยังอยู่ในชีวิตจริง ดูหนัง
นี่คือลูกเล่นหลักของซีรีส์เรื่อง Memories of The Alhambra ซีรีส์เกาหลีที่แหวกแนวด้วยการชูความล้ำของเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และความสนุกแบบการเล่นเกมเป็นพล็อตหลักของเรื่อง แทนที่จะเน้นความกุ๊กกิ๊กสวีทหวานของพระเอกนางเอกตามขนมธรรมเนียมทั่วไปของซีรีส์เกาหลี ดูหนังออนไลน์
เชื่อว่าหลายคนน่าจะมีความคาดหวังแตกต่างกันไปสำหรับซีรีส์เรื่องนี้ ก็นะ เน็ตฟลิกซ์โปรโมตซะเต็มที่ทุกช่องทาง แถมบางครั้งเราก็รู้สึกว่า เอ เหมือนจะเว่อร์วังไปนะ อาจทำให้คนคาดหวังแบบผิดๆ ได้ บล็อกนี้เลยขอสรุปเล่นๆ สักหน่อยว่าแต่ละความคาดหวังนั้น จะได้รับความสมหวังหรือไม่? แค่ไหน? ดูหนัง 4k
เรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อ จองเซจู (ชานยอล EXO) นักพัฒนาเกม AR ที่สามารถเล่นได้ในชีวิตจริง โทรศัพท์ติดต่อไปยังพระเอกอย่าง ยูจินอู (ฮยอนบิน) ประธานบริษัทเจวันโฮลดิ้ง บริษัทผลิตคอนแทคเลนส์สุดล้ำที่ต้องใช้เพื่อเล่นเกมนั้นๆ เซจูได้นัดจินอูให้มาเจอที่โฮสเทลโบนิตา ที่แคว้นกรานาดา ประเทศสเปน ดูหนังออนไลน์ 4k
ที่นั่นจินอูได้พบกับนางเอกอย่าง จองฮีจู (พัคชินฮเย) เจ้าของโฮสเทล ทั้งคู่มีปากเสียงกันเล็กน้อยเพราะโฮสเทลที่แสนจะผุพังนั้นไม่ถูกใจประธานหนุ่มเอาเสียเลย แต่ถึงอย่างนั้น ก็มีเหตุให้ทั้งคู่ต้องกลับมาเผชิญชะตากรรมเดียวกัน เมื่อเซจู น้องชายของฮีจูหายตัวไป จินอูจึงต้องไขปริศนาผ่านการเล่นเกม AR ดังกล่าว โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าอันตรายจากเกมกำลังรออยู่ และพร้อมที่จะพรากชีวิตจริงไปจากเขา รีวิวซีรี่ย์
ซีรีส์เรื่องนี้ต้องบอกว่าทำออกมาได้น่าสนใจมาก ตั้งแต่โปสเตอร์ซีรีส์ พล็อตเรื่อง สถานที่ถ่ายทำ การตัดต่อ เรียกได้ว่าน่าสนใจทุกอย่างจริง ๆ โดยผู้สร้างได้นำเทคโนโลยีที่เรียกว่า เกม AR หรือ Augment Reality เข้ามาเป็นตัวหลักในการดำเนินเรื่องทั้งหมด ทำให้ซีรีส์ไม่ได้เน้นไปที่ความรักระหว่างชายหญิงแต่เน้นไปที่การเล่นเกม AR
ถูกใจสายเกมเมอร์แน่นอน ภายในเกม AR จะเป็นเกมต่อสู้ย้อนยุค ณ เมืองกรานาดา ประเทศสเปน ในปี 1492 เป็นสงครามระหว่างนาสริดและอารากอน โดยในเกมพระเอกใช้ชื่อว่า Zinu ระหว่างที่พระเอกเล่นเกมอยู่นั้นมันมีปมลึกลับบางอย่างที่เกิดขึ้นภายในตัวเกม AR ซึ่งเป็นข้อบกพร่องที่พระเอกต้องเป็นคนแก้ไขมันด้วยตนเองและพระเอกจะสามารถแก้ไขได้ก็ต่อเมื่อเกมที่เล่นอยู่นั้นมีเลเวล 99 แล้ว ทำให้พระเอกสนใจแต่การเล่นเกมเพื่อเพิ่มเลเวลจนเกือบจะโดนปลดจากตำแหน่งประธานบริษัทเจวัน
กลางดึกคืนหนึ่ง ยูจินอู (ฮยอนบิน) ซีอีโอแห่ง เจวัน บริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ได้รับโทรศัพท์จาก จังเซจู (ปาร์ค ชาน ฮยอล)โปรแกรมเมอร์อัจฉริยะที่คิดเกม AR ที่อาจพลิกโลกของเกมเมอร์ไปตลอดกาล ด้วยหวังจะได้สิทธิในเกมดังกล่าว ยูจินอู ลงทุนบินจากบาเซโลนาไปที่ กรานาดา ประเทศสเปน
เพื่อตามหา จังเซจู จนได้พบกับ จังฮีจู (ปาร์ค ชิน ฮเย) พี่สาวของเซจูและเจ้าของโบนิตาโฮสเทลสุดซอมซ่อ และถือโอกาสทดลองเกม AR ที่เขาพยายามแย่งชิงกับ ชายองซอก (ปาร์ค ฮุน) เจ้าของบริษัทคู่แข่งและอดีตศัตรูหัวใจจนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น งานนี้ยูจินอูจะเจอตัว จังเซจูและได้ครองสิทธิในเกม AR หรือไม่
โดยตอนนี้เรื่องราวดำเนินมา 6 ตอน สิ่งที่พอสังเกตได้อย่างชัดเจนคือบทของซีรีส์เรื่องนี้ทำการบ้านเรื่องเกมมาดีมากทั้งกติกาของเกมต่างๆ การเก็บเลเวลไปจนถึงรายละเอียดอย่างการค้นหาอาวุธจากสถานที่ต่างๆแบบไม่มีโป๊ะแตกเลย แต่สิ่งที่ ซง แจจุง พาเรื่องราวไปไกลกว่านั้นคือการที่เขานำกติกาของเกมมาเป็นโลกคู่ขนานกับชีวิตของ
ยูจินอู ได้อย่างชาญฉลาดโดยเฉพาะตอนแรกที่ซีอีโอสุดรวยต้องมาเริ่มเกมแบบนักรบกระจอกๆ ได้เพียงดาบขึ้นสนิมและต้องต่อสู้เพื่ออัพเกรดอาวุธก็ทำให้เราค่อยๆสัมผัสจุดอ่อนของตัวละคร และเมื่อเรื่องราวดำเนินไป ยูจินอู ก็เริ่มได้พบคู่แข่งอย่าง ชายองซอก ที่ทั้งเป็นศัตรูในเกม AR โลกธุรกิจและชีวิตรักในอดีต จนเราอดเอาใจช่วยพรเอกของเราไม่ได้ แม้ซีรีส์จะบอกเราอยู่แล้วว่านี่คือเหตุการณ์ในเกมเท่านั้นก็ตาม
รีวิวซีรี่ย์ Memories of the Alhambra
แต่อ่านย่อหน้าที่แล้ว สายหวานอย่าเพิ่งหนีไปไหนนะครับ บทโรแมนติกของซีรีส์เรื่องนี้ก็ฟินใช่ย่อย ไม่เพียงหนุ่มฮยอนบินจะมาหล่อกระชากใจสาวในบทซีอีโอหนุ่มตามล่าโปรแกรมเมอร์เท่านั้น การปรากฎกายแต่ละครั้งของ ปาร์คชินฮเย ในบทนางเองของซีรีส์แต่ละที บอกเลยว่าหนุ่มๆมีละลายแน่นอน
จะเป็นบทโก๊ะๆ สไตล์เจ้าของโฮสเทลนอนน้อย แต่สำเนียงสเปนเป๊ะ (เพราะ ชินฮเย ลงทุนเรียนภาษาสเปนก่อนถ่าย) หรือจะบทสมมติอย่าง เอมม่า สาวนักเล่นกีตาร์คลาสสิกสวยสะพรึง (และแน่นอนว่า ชินฮเย เรียนเล่นกีตาร์คลาสสิกเพื่อซีรีส์เรื่องนี้โดยเฉพาะ) ที่น้องชายตัวแสบแอบใส่เธอในเกมจนพระเอกของเราตกหลุมรักนางเอกเข้าอย่างจัง
คือจะช็อตไหน ปาร์คชินฮเย และ ฮยอนบิน ก็สามารถทำให้คนดูเคลิ้มได้ โดยมีเรื่องราวสุดระทึกที่ค่อยๆมาเกี่ยวพันกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้ชวนลุ้นแบบแทบรอตอนต่อไปไม่ไหวเลยทีเดียว
คิดถูกแล้วที่เปิดดูซีรีส์นี้ เพราะตัวเกม AR นี้เรียกได้ว่าเป็นจุดขายของซีรีส์เลย คอนเซ็ปต์ของเกมคือการต่อสู้ในยุคอดีต ที่ซึ่งผู้เล่นเมื่อสวมคอนแทคเลนส์เพื่อเข้าเกมแล้วก็จะเจอศัตรูมากหน้าหลายตาในชุดโบราณๆ ปรากฏตัว ณ สถานที่ที่ผู้เล่นสถิตอยู่นั่นแหละ ประมาณว่าถ้าเราสวมคอนแทคเลนส์แล้วเข้าระบบเกมขณะอยู่ในพารากอน
เราก็จะเห็นทหารในชุดโบราณเดินไปเดินมาในห้าง พร้อมจะสังหารเราทุกเมื่อ อะไรประมาณนั้น ซึ่งโดยส่วนตัวเราว่ามันเจ๋งดี และแอบคิดว่าในอนาคตอันใกล้นี้เทคโนโลยีแบบนี้อาจเป็นจริงก็ได้ ตอนที่ตัวละครเข้าระบบเล่นเกมเลยรู้สึกอินตามไปด้วย ยิ่งตอนใช้มุมกล้องแบบบุคคลที่ 1 (มุมมองของตัวละครที่เล่นเกม) ยิ่งอินตาม ความตลกมันก็จะอยู่ตรงที่ผู้เล่นจะกลายเป็นตัวตลกเหวี่ยงแขนเหวี่ยงขาไปมาในสายตาของคนรอบข้างที่ไม่ได้อยู่ในเกม แต่ผู้เล่นไม่สนหรอก อินกับเกมอยู่นี่
ผู้เล่นจะต้องกำจัดศัตรูเพื่ออัปเลเวลตัวเอง ซึ่งก็หมายถึงฉากบู๊ฉากต่อสู้ที่มาตลอดทุกครั้งที่เปิดเกมเล่น ฉากต่อสู้ทำได้ค่อนข้างเข้มข้นเลย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นอาวุธดั้งเดิมมากกว่านะ เช่น ดาบ ธนู ล้ำสุดคือปืน อะไรแบบนี้ ไม่ได้มีอาวุธไฮเทลนอกโลกมาอวดกัน ยิ่งช่วงแรกๆ นี่พระเอกเรายังเวลไม่สูง เลยใช้อาวุธได้จำกัด การต่อสู้ก็จะเป็นแบบประชิดตัวซะส่วนใหญ่ แต่พอพระเอกมีปืนแล้ว ก็จะเริ่มง่ายละ ยิงเอาๆ ไม่ตะลุมบอนเหมือนช่วงแรกๆ
ไม่ต้องห่วง เราเองก็ไม่ใช่สายนี้ ก็ดูรู้เรื่องนะ ในซีรีส์จะไม่ได้ใช้ศัพท์แสลงอะไรที่เฉพาะเจาะลงมาก มีโผล่มาบ้างนิดหน่อยซึ่งก็ไม่ได้ยากเกินความเข้าใจ อีกทั้งตัวซีรีส์ก็พยายามอธิบายแล้วว่ามันคืออะไร จึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหา ทางด้านพล็อต ก็ไม่มีอะไรซับซ้อน เนื้อหาหลักไม่ได้ข้องเกี่ยวกับปมทางเทคโนโลยี
ตัวเกมจริงๆ ค่อนข้างเรียบง่าย ฆ่าศัตรู เพิ่มเลเวลไปเรื่อยๆ สิ่งที่ทำให้เกมดูมีอะไรมากขึ้นคือการนำเกมไปเชื่อมโยงกับการหายตัวไปของเซจู และ ข้อผิดพลาดต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเกม ทำใหเรายิ่งรู้สึกอยากรู้อยากไขปริศนามากขึ้นไปอีกว่าสรุปเกมนี้มันมีลับลมคมในอะไรกันแน่
ไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะพัคชินฮเยยังคงสวยเป๊ะทุกมุมทุกลุค ที่ต้องบอกว่าทุกลุคเพราะเรื่องนี้เธอมี 2 ลุค คือลุคสาวธรรมดาโก๊ะๆ กับสาวสวยพริ้งในเกม ซึ่งทั้ง 2 แบบคืองานดีทั้งคู่ ทางด้านบทบาท ฝั่งนางเอกอย่างพัคชินฮเยก็เจอโจทย์ยากเหมือนกัน เพราะในเรื่องเธอต้องรับบทเป็นหญิงสาวที่ใช้ชีวิตอยู่ในสเปนตั้งแต่เด็ก
ฉะนั้นการพูดภาษาสเปนจะต้องคล่องแคล่ว สำเนียงต้องเป๊ะ เราไม่รู้หรอกว่าเธอพูดดีมั้ย แต่ในฐานะคนที่ไม่รู้ภาษาสเปน ก็รู้สึกว่าคล่องแคล่วเหมือนคนที่พูดเป็นมากๆ นอกจากนี้ยังมีฉากที่เธอต้องเล่นกีตาร์คลาสสิกด้วย ซึ่งพัคชินฮเยบอกว่า 2 สกิลนี้น่ะลงทุนไปเรียนเองเลย นับถือความทุ่มเทนี้จริงๆ
เห็นได้จากการที่เน็ตฟลิกซ์ดึงชานยอลมาเป็นจุดขายในการโปรโมต เลยอยากเตือนก่อนว่าอาจผิดหวังได้สำหรับใครที่คาดหวัง เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้นคือชานยอลรับบทเซจู ซึ่งเป็นบุคคลที่หายตัวไปเกือบทั้งเรื่อง ฉะนั้นเขาจึงไม่ค่อยโผล่หน้าค่าตามาให้เราเห็นเท่าไร บทที่มีก็ไม่เยอะมาก
ระหว่างทางมีภาพย้อนอดีตโผล่มาให้เห็นเป็นระยะๆ เป็นตัวละครเสริมโดยแท้จริง แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นตัวเสริมที่มีความสำคัญในเรื่องมากๆ เพราะแม้ตัวจะไม่อยู่ แต่ปมที่ทิ้งไว้ก็ทำให้ตัวละครหลักอื่นๆ วิ่งวุ่นตามหาร่องรอย ทำให้เรื่องราวดำเนินไปได้เรื่อยๆ เรียกได้ว่าตัวไม่อยู่ แต่ชื่ออยู่ทุกตอน