รีวิวซีรี่ย์ Memorist
หากพูดถึงซีรี่ส์เกาหลีแนวสืบสวน ลุ้นระทึกที่มาแรงในตอนนี้ต้องยกให้ Memorist เรื่องนี้เลยค่ะ ซึ่งเป็นซีรี่ส์ที่ดัดแปลงมาจากเว็บตูนในชื่อเดียวกัน เป็นซีรี่ส์ของทางช่อง Tvn ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี ช่วงเวลา 22.50 น. (ตามเวลาเกาหลีใต้) ดูหนัง
กำหนดการออกอากาศคือ 11 มีนาคมถึง 30 เมษายน 2020 และมีให้ดูแบบซับไทยทาง VIU ออกซับไทยให้ในเย็นวันศุกร์และสาร์ค่ะ ซึ่งเนื้อเรื่องซีรี่ส์ตอนนี้ก็เลยครึ่งเรื่องมาแล้ว กำลังเข้มข้น ลุ้นหาตัวคนร้าย และเรื่องราวปมต่าง ๆ ของตัวละครหลักก็เริ่มเฉลยมาทีละนิด ๆ ผ่านการสืบสวนของตัวละครหลัก ดูหนังออนไลน์
ความน่าสนใจของเรื่องนี้ เริ่มต้นกันที่นักแสดงหลัก ยูซึงโฮ รับบทเป็น ดงแบค ตำรวจนักสืบที่มีพลังพิเศษในการที่สัมผัสใครก็ตามก็จะสามารถอ่านความทรงจำของคน ๆ นั้นได้ตามใจชอบและ อีเซยอง รับบทเป็น ฮันซอนมี นักวิเคราะห์โปรไฟล์อาชญากรอัจฉริยะ เธอเป็นผู้กำกับการกรมตำรวจนครบาล ดูหนัง 4k
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อดงแบคบังเอิญมาพัวพันกับคดีฆาตรกรรมต่อเนื่อง เขาเป็นคนที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะจับคนร้าย และช่วยเหลือเหยื่อให้ได้ ด้วยความที่เขาใช้วิธีสแกนความจำจากเหยื่อ คนร้าย และคนที่เกี่ยวข้อง ทำให้เขารับรู้ความรู้สึก และความเจ็บปวดมาด้วย เขามักจะควบคุมอารมณ์ตัวเองที่จะเข้าไปต่อยแก้แค้นคนร้ายคืนแทนเหยื่อ ดูหนังออนไลน์ 4k
ทำให้ภาพลักษณ์เขาดูเป็นคนหัวร้อน ไม่เป็นมือเอาซะเลย ผิดกับฮันซอนมี เธอมีวุฒิภาวะ และควบคุมอารมณ์ได้ดี ใช้เหตุและผลในการสืบสวนคดี ซึ่งต่างจาก ดงแบคมาก นักสืบดงแบค และ ผู้กำกับฮันซอนมี ต้องมาร่วมมือกันในการสืบสวนคดีที่ไม่ธรรมดา เพราะต้องต่อกรกับคนร้ายที่มีพลังในการลบความทรงจำ และยังแกร่งกว่าดงแบคอีกด้วย รีวิวซีรี่ย์
รีวิวซีรี่ย์ Memorist
เรื่องราวในตอนแรกปูมาให้เห็นเลยว่า ดงแบค เป็นคนที่ดัง และทุกคนทราบกันดีในเรื่องพลังในการอ่านความทรงจำคนอื่นได้ ซึ่งนั่นทำให้เขาได้รับเงินจากการวิจัยการแพทย์ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจมาเป็นตำรวจ ซึ่งทำให้หลายคนไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาเลือก เพราะอาชีพตำรวจได้เงินน้อยกว่าการรับเงินจากการวิจัย
หรือไปเป็นคนในหน่วยข่าวกรอง แต่จากที่ดูมาเกือบครึ่งเรื่อง เราคิดว่าเป็นเพราะมีปมบางอย่างในอดีตที่เขาต้องการจะรู้ให้ได้เขาจึงได้มาเป็นตำรวจ แต่ด้วยความที่เขามักหัวร้อนเสมอกับการทำคดีแล้วไปชกต่อยคนร้าย ทำให้โดนฑัณฑ์บนพักงานเกือบทั้งเรื่อง แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะทำให้เขาหยุดสืบสวนได้เลยนะคะ วิ่งไปวิ่งมา
สืบหาตัวคนร้ายทั้งวันทั้งคืน เห็นแล้วเหนื่อยแทน ยังดีที่มีนางเอกเข้ามา ทำให้ช่วยกันสืบคดี แต่คนร้ายเรื่องนี้ก็เก่งซะจริง พอไล่ตามได้จุดหนึ่ง ก็เหมือนจะรู้ทันพระนางทุกอย่าง เราต้องลุ้นตลอดว่าสรุปใครป็นคนร้าย ปมพระนางในอดีตก็ยังไม่เฉลยเลย เหมือนจะรู้ตัวคนร้ายแล้วแต่ก็อาจจะโดนสับขาหลอกก็เป็นไปได้ ต้องไปติดตามดูกันต่อค่ะ
ดงแบค (รับบทโดย ยูซึงโฮ ผลงาน : I Am Not A Robot / Rememer / Ruler : Master Of The Mask) มีความสามารถพิเศษ เมื่อเขาสัมผัสตัวใคร เขาจะสามารถค้นเข้าไปในความทรงจำของคนๆนั้นได้ แม้เขาจะสามารถใช้ความสามารถนี้ ในการช่วยสืบสวนคดีในฐานะตำรวจ แต่กลับเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิเสรีภาพ เขาเป็นที่เกลียดชัง และเป็นที่รักของผู้คนในเวลาเดียวกัน
วันหนึ่งเขาเข้าไปช่วยเหลือการสืบคดีฆาตกรรมที่อยู่ในความรับผิดชอบของ โปรไฟล์เลอร์ (ผู้วิเคราะห์อุปนิสัยและลักษณะของคนร้ายจากหลักฐานต่างๆ เพื่อคาดเดาพฤติกรรม หรือเป็นข้อมูลในการสืบสวนและจับกุม) ฮันซอนมี (รับบทโดย อีเซยอง ผลงาน : Doctor John / The Crowned Clown) ด้วยความมุ่งมั่นและมุทะลุของดงแบค เขาได้ทำการเปิดโปง เจ้าลัทธิ ที่โด่งดังระดับประเทศ ว่าเป็นคนร้ายอยู่เบื้องหลังการฆาตกรรม หญิงสาวมากมายอย่างโหดเหี้ยม
แต่ด้วยข้อมูลที่ได้มาจากความทรงจำ ยังไม่เพียงพอที่จะจับกุมคนร้ายได้ สุดท้าย นอกจากจะต้องรับโทษจากความผิดที่ละเมิดความทรงจำโดยไม่ได้รับความยินยอม เขายังถูกกีดกันไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีด้วย แต่ระหว่างที่เขากำลัง หมดหวังกับชีวิต เขากลับได้รับการติดต่อ และได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ
ให้เข้าไปร่วมทำคดีการตายของเจ้าลัทธิคนนั้น แต่เรื่องกลับยุ่งยาก เพราะแม้จะมีพยาน อยู่ในเหตุการณ์มากมาย แต่กลับไม่มีใครจดจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เลย และเมื่อดงแบคสัมผัสทุกคน เขาเองก็ไม่พบความทรงจำในช่วงเวลาของการฆาตกรรมเช่นกัน ราวกับใครบางคนที่มีอำนาจเหนือธรรมชาติ ได้ปกปิดความทรงจำเฉพาะช่วงเวลานั้นไว้
เรื่องยิ่งซับซ้อน เมื่อดงแบคกลายเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะช่วงเวลาที่เขาจดจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ของตัวเขาเอง เป็นช่องโหว่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ การขู่อาฆาตและแรงจูงใจที่เขามี ทำให้เขากลายเป็นผู้ต้องสงสัย เขาจึงต้องออกตามหาความจริง นี่คือการเล่นตลกของพระเจ้า หรือกลไกการป้องกันตัวที่เขาสร้างขึ้นเอง ใครกันที่เป็นฆาตกรตัวจริง
หลังจากที่ความสามารถมองเห็นอนาคตอย่างความตายที่ยังมาไม่ถึง ของพระเอกใน The Game Towards Zero ช่วยตำรวจในการสืบคดีกันมาแล้ว ใน Memorist ความสามารถในการสืบค้นความทรงจำ ก็จะมาทำหน้าที่ในการเปิดเผยความจริงกันบ้าง โดยแค่เริ่มต้นเปิดมาก็น่าสนใจแล้ว เพราะสิ่งที่พระเอกมองเห็น
แม้บางครั้งจะชัดเจนพร้อมใช้ แต่บางเรื่องก็ต้องเอามาปะติดปะต่อ เชื่อมโยง สืบหา ถึงจะสามารถเอามายืนยัน ใช้เป็นประโยชน์ได้ ซึ่งด้วยความสามารถพิเศษของทั้งพระเอก และความฉลาดของนางเอก ก็ทำให้การสืบสวนค่อนข้างรวดเร็ว (แต่ดันมีกลุ่มผู้มีอำนาจคอยขัดแข้งขัดขา) มีทีมงานของพระเอก ช่วยลดความเครียดนิดๆหน่อยๆ ตามสไตล์ซีรีส์งานทีม มีฉากแอคชั่น ที่เกิดเพราะความหัวร้อนของพระเอกบ้าง
แต่ความพีคไม่หยุดก็คือ นี่แค่จุดเริ่มต้นค่ะ เพราะแค่การดูความทรงจำมันอาจธรรมดาไป ประเด็นเรื่องความทรงจำที่หายไป จึงถูกหยิบมาใช้ แถมความลึกลับที่เพิ่มขึ้้นนี้ ดันส่งผลให้พระเอกของเรากลายเป็นผู้ต้องสงสัยเสียเอง อารมณ์ของเรื่อง แม้ว่าบางช่วงจะกดดันด้วยเวลา มีความลุ้นระทึกในบางจุด มีช่วงพักอารมณ์บ้าง แต่ก็ถือว่าจริงจังกับพาร์ทสืบสวนมาก มีฉากแอคชั่นประปราย บวกกับความแฟนตาซีก็ทำให้เรื่องยิ่งน่าสนใจ เดินเรื่องรวดเร็ว ไม่มีจุดน่าเบื่อ
เรื่องนี้เป็นงานรีเมคเว็บตูนที่มีแนวเรื่องอยู่แล้ว น่าจะไม่เละเทะ และน่าจะมีโครงเรื่องที่แข็งแรง จึงถูกเลือกมาสร้างซีรีส์ คิดว่าไม่น่าต้องห่วง(มั้ง5555) ซึ่งผู้กำกับที่มากำกับเรื่องนี้ ก็ถือว่ามีความคุ้นเคยกับการทำงานดัดแปลงผลงานที่มีอยู่เดิม เพราะเคยกำกับภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายมาก่อนแล้ว (The Tooth and The Nail(2017) / The Chosen: Forbidden Cave (2015))
ในส่วนของนักแสดงก็ได้นักแสดงหนุ่ม-สาวที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันมาตั้งแต่ยังเด็กอย่าง ยูซึงโฮ และ อีเซยอง แน่นอนว่านอกจากความสวย – หล่อ เรื่องความสามารถก็ไม่ต้องเป็นห่วง สมทบด้วยนักแสดงมากฝีมือที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอย่างคุณโชซองฮา (ผลงาน : Arthdal Chronicles / 100 Days My Prince / Save Me)
มารับบทเป็นหัวหน้าระดับสูงของกรมตำรวจ ที่มองว่า หน้าที่ของตำรจคือการสร้างสมดุลระหว่างความดีความชั่ว หากสังคมสมดุล ความชั่วที่เกิดขึ้นแล้วก็ปล่อยให้มันเป็นอดีตไป ซึ่งด้วยแนวคิดแบบนี้ ตัวละครตัวนี้จึงพยายามปกปิดความจริง และคอยขัดขวางการทำงาน ล่าตัวคนร้ายมารับโทษของพระ-นางของเราตั้งแต่เปิดเรื่อง
Memorist เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่สร้างจากเว็บตูนชื่อเดียวกันผ่านเว็บไซต์ Daum Webtoon ในปี 2016 ผลงานของนักเขียนที่ใช้นามปากกาว่า แจฮู ซึ่งได้รับความนิยมด้วยเรตติ้ง 9.9 (อ้างอิงจากเรตติ้ง Daum Webtoon ณ วันที่ 11 มีนาคม 2020) และนับเป็นซีรีส์ที่ทำให้สองนักแสดงนำอย่างอีเซยองและยูซึงโฮโคจรมาร่วมงานกันอีกครั้ง หลังจากที่พวกเขาเคยร่วมงานกันในซีรีส์ I Miss You เมื่อปี 2010
อีเซยองกล่าวถึงคาแรกเตอร์ฮันซอนมีและการร่วมงานกับยูซึงโฮว่า “บทฮันซอนมีของฉันค่อนข้างเป็นคนที่มีความสามารถระดับอัจฉริยะ เพราะเธอได้รับตำแหน่งระดับสูงตั้งแต่อายุ 30 ปี แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ค่อนข้างเยือกเย็นและหลงใหลในการจับอาชญากรมาก นอกจากนี้เธอยังมีความคิดที่ยากจะคาดเดา ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครค่ะ
“ในขณะที่การร่วมงานกับยูซึงโฮนั้น ทีมเวิร์กของพวกเรายอดเยี่ยมมาก ยูซึงโฮทุ่มเทกับการแสดงเป็นอย่างมาก ทำให้ฉันได้เรียนรู้มากมายเลยค่ะ ซึ่งฉันรู้สึกว่าพวกเราไม่ได้แยกจากกันนานถึง 8 ปีเลย เพราะเราสามารถแสดงด้วยกันได้เป็นอย่างดี และเราจะกำลังแสดงให้ผู้ชมเห็นถึงเคมีที่เข้ากันของพวกเราในซีรีส์ Memorist ค่ะ”
เช่นเดียวกับยูซึงโฮซึ่งกล่าวถึงการเตรียมตัวสำหรับซีรีส์ Memorist และการกลับมาร่วมงานกับอีเซยองว่า “ซีรีส์เรื่องนี้มีฉากแอ็กชันค่อนข้างเยอะ และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมต้องแสดงฉากแอ็กชันครับ จึงทำให้ผมฝึกฝนมาตลอด 2 เดือนเพื่อที่จะแสดงให้ผู้ชมได้เห็นถึงความกระฉับกระเฉงในการแสดงฉากแอ็กชันของผมครับ
“และการกลับมาร่วมงานกับอีเซยองนั้น ค่อนข้างนานเหมือนกันนะครับที่ผมร่วมงานกับอีเซยอง แต่ต้องขอบคุณมากๆ เช่นกันครับ เธอเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยม และการถ่ายทำกับเธอนั้นสนุกมากจริงๆ และเหมือนกับที่อีเซยองพูดครับว่าพวกเราเข้ากันได้ดีมาก อาจจะเป็นเพราะว่าเราเห็นกันและกันมาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้แสดงร่วมกันมากมายนัก แต่ผมก็เชื่อใจเธอครับ”