รีวิวซีรี่ย์ MISAENG หนุ่มออฟฟิศพิชิตฝัน
สร้างมาจากเว็บตูนชื่อดังในชื่อเรื่องเดียวกันเป็นละครที่เล่าถึงเรื่องราวของชายหนุ่มที่ชอบการเล่นหมากล้อมตั้งแต่เด็กจน หมากล้อมกลายเป็น เหมือนทุกอย่างในชีวิต แต่เขากลับล้มเหลวในการที่จะการเป็นนักเล่นหมากล้อมมืออาชีพ ดูหนังออนไลน์ เขากลับต้องมาเผชิญความจริงอันโหดร้ายหลังจากล้มเหลวในการ ดูหนังฟรี เข้าเป็นสมาชิกมือโปร ซึ่งจะเล่าถึงความมุ่งมั่นกับการทำงานของเหล่าพนักงานธรรมดาออกมาอย่างสมจริง ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา
แค่ได้ตามติดชีวิตอปป้าสุดหล่ออย่าง รีวิวซีรี่ย์ MISAENG หนุ่มออฟฟิศพิชิตฝัน
ชาง คือแร นักเล่นหมากล้อมดาวรุ่งที่ตกอับจนต้องมาทำงานในบริษัทสุดป่วน อย่าง “วัน อินเตอร์เนชั่นแนล” ในฐานะเด็กฝึกงาน และได้พบกับ โอ ซังซิก หัวหน้าฝ่ายขาย, จาง เพ็คกี เพื่อนร่วมงานจอมเนิร์ด แต่แอบร้ายลึก ชาง คือแร ต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมของการแข่งขัน โดยเอาแนวทางของหมากล้อมมาใช้ในการดำเนินชีวิต แค่ฟังตรงนี้ก็อินแล้ว มิแชง (Misaeng) ดัดแปลงมาจากเว็บตูนที่มียอดผู้อ่านเยอะมากถล่มทลายบนเว็บพอร์ทัล ทาอึม (Daum) แถมพอเริ่มฉายก็เป็นซีรีส์เกาหลีที่ได้รับเรตติ้งสูงสุดเป็นอันดับสองของละครเกาหลีทั้งหมดที่ออกอากาศทางช่องเคเบิ้ลทีวี
ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตคนทำงานล้วน ๆ ไม่มีเรื่องราวความรัก ความโรแมนติกมาเป็นตัวชูโรงแต่อย่างใด เรื่องราวสะท้อนให้เห็นว่าหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน มีอิทธิพลต่อการทำงานทั้งสิ้น แล้วยังสอนให้รู้จักการทำงานเป็นทีม การได้รับโอกาสจากเพื่อนร่วมงาน การเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่าง ๆ การไว้ใจ เชื่อใจ และเรื่องของการไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวร โดยเฉพาะฉากที่พระเอกโดนปล่อยให้คัดปลาหมึกอยู่ในโรงงานคนเดียว คนอื่นแอบกลับไปกันหมด
จริง ๆ แล้วญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องซีรีส์แนวค่อนข้างจะจริงจังอยู่แล้ว เพราะสามารถถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ของคนญี่ปุ่นที่จริงจังออกมาได้อย่างถึงแก่น ซีรีส์เรื่องนี้เล่าผ่านตัวละคร นายธนาคารหนุ่มที่เป็น Japan Salaryman ใส่สูท ผูกไทเป๊ะ ๆ ที่ถูกผู้จัดการสาขาบังคับให้ปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทเหล็ก ทั้ง ๆ ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หลังจากนั้นไม่นาน บริษัทนั้นก็ล้มละลาย Hanzawa Naoki จึงต้องแบกรับผิดชอบหนี้สินถึง 500 ล้านเยน!
ถึงแม้พล็อตเรื่องจะค่อนข้างดูเครียด
แต่ซีรีส์เรื่องนี้กลับได้รับเรตติ้งติดอันดับ Top10 ตลอดกาลของญี่ปุ่นเลยนะ เพราะหนังเป็นแนวอาชีพ ผสมกับการสืบสวนเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้น่าติดตาม หลายฉากหลายตอนคล้ายกับการทำงานในปัจจุบันของเหล่ามนุษย์เงินเดือนแบบเรา ๆ จนอดคิดไม่ได้ว่า “นี่เอาชีวิตเราไปเขียนพล็อตเรื่องหรือเปล่าเนี่ย” ไม่ว่าจะเป็นการประชุมที่ดุเดือด ฟาดฟันกันตลอดเวลา หรือเรื่องอำนาจของคนที่มีตำแหน่งสูงกว่ากับชั้นผู้น้อย และเรื่องของความยุติธรรมในองค์กร เนื้อเรื่องแฝงแง่คิดไว้ตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง
ผกก.คิมวอนซุก เคยดังกับซีรีย์น้ำเน่ามาก่อน แต่ระยะหลัง ๆ ไม่ค่อยทำซีรีย์แนวน้ำเน่าประเภทพระเอกนางเอกพ่อแง่แม่งอนเน้นเลิฟซีน แต่มาทำซีรีย์เกี่ยวกับชีวิตคนในด้านชีวิตการงาน Misaeng เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับมนุษย์เงินเดือนในเกาหลีที่สมจริงมาก นำเรื่องมาจากการ์ตูนดัง เป็นเรื่องของเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์ในการเล่นหมากล้อม แต่เล่นมาเป็นสิบปีเทอร์นโปรไม่ได้ได้สักที เลยตัดสินใจมาเป็นมนุษย์เงินเดือนดีกว่า โดยได้เข้าไปทำงานในฐานะเด็กเส้นของผู้บริหารที่ชอบเล่นหมากล้อม
เป็นเด็กเส้น เหมือนจะดี แต่ไม่ใช่ บริษัทนี้คุณต้องผ่านการทดลองงานอย่างเข้มข้น แล้วคนที่มาทดลองงานแต่ละคนไม่ธรรมดา จบมหาวิทยาลัยชั้นนำพูดได้หลายภาษากันทั้งนั้น มีเพียงเขาคนเดียวที่จบแค่ม.ปลาย กศน. แล้วก็พูดภาษาต่างชาติไม่ได้เลย มาฝึกงานเป็นสิบ แต่รับแค่ไม่กี่คนที่ต้องผ่านการนำเสนองานผ่านผู้จัดการทั้งบริษัท งานเข้าสิทีนี้
ด้วยความเป็นเด็กเส้น คุณสมบัติต่ำ
ทำให้ถูกเหยียดหยามกลั่นแกล้งจากเพื่อนร่วมรุ่นตลอด แต่จากการที่ถูกเคี่ยวกรำจากการเล่นหมากล้อมมายาวนานทำให้เขานำสิ่งที่ได้จากหมากล้อมมาปรับตัวให้เข้ากับการต่อสู้ในออฟฟิซ ความสนุกมันเริ่มจากตรงนี้ บทจางกือแร พระเอกของเราชวนให้นึกถึงบทของพระเอกเรื่อง Reply 1988 ที่เป็นนักเล่นหมากล้อมเช่นกัน บุคลิคคล้ายกันมาก ฉลาดแต่เอาแต่เล่นหมากล้อมเลยทำอย่างอื่นไม่ค่อยเป็นเลย Reply 1988 น่าจะได้แรงบันดาลใจบทจางกือแร ไปสร้างตัวละคร ชเว แท็ก
แต่ในกลุ่มเด็กฝึกงาน ไม่ได้มีน่าสนใจแค่จางกือแร ยังมีหญิงสาวผู้มากความสามารถเข้ามาฝึกงานด้วย เธอเก่งกาจโดดเด่นเหนือทุกคนในรุ่นอย่างชัดเจน ฉากเปิดตัวเธอในซีรีย์เป็นฉากที่น่าประทับใจมากเพราะแสดงความสามารถในการทำงานของเธอได้ทั้งหมด ไม่ว่าเป็นการนำเสนอสินค้า ความสามารถในการพูดได้หลายภาษา ความเป็นผู้นำ ซึ่งผู้แสดงอย่างคังโซรา ทำได้อย่างยอดเยี่ยมไม่มีที่ติ
ทีนี้มาถึงลุงของเราบ้าง เจ้านายของจางกือแร เป็นเจ้านายผู้เถรตรง ฝีมือดี แต่เลียไม่เก่งเล่นการเมืองไม่เป็นตำแหน่งเลยไปไม่ถึงไหน (ลุงของผกก.ท่านนี้เป็นแบบนี้ทุกลุง) ตอนแรกเขาก็อคติกับจางกือแรเพราะเห็นว่าเป็นเด็กเส้น มาวันแรกก็ทำงานไม่เป็น แต่ด้วยความตั้งใจและพัฒนาการอย่างรวดเร็ว ทำให้เขาสนับสนุนหลานจางกือแรอย่างเต็มที่ ลีซุงมิน เล่นบทนี้ได้ยอดเยี่ยมมากจนกวาดรางวัลการแสดงจากบทนี้ไปมากมายในปีนั้น ถึงไม่ใช่พระเอก แต่ลุงก็เด่นไม่แพ้หลานเลย
ดัดแปลงมาจากเว็บตูนชื่อ “Misaeng” รีวิวซีรี่ย์ MISAENG หนุ่มออฟฟิศพิชิตฝัน
เป็นผลงานสร้างสรรค์ของนักเขียนการ์ตูน “ยูน แทโฮ” ซึ่งถูกนำมาเผยแพร่บนเว็บพอร์ทัล “ทาอึม (Daum)” ในช่วงปี ค.ศ. 2012-2013 และมียอด ‘Hits’ ทะลุพันล้าน นอกจากเผยแพร่บนเว็บตูนแล้วยังมีการตีพิมพ์เป็นหนังสือการ์ตูนปกอ่อนเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2012 ซึ่งได้รับความนิยมไม่แพ้กัน โดยทำยอดขายได้สูงถึง 9 แสนก็อปปี้ (มีทั้งหมด 9 เล่ม) ครั้นพอถูกนำมาสร้างเป็นละครก็กวาดเรตติ้งถล่มทลาย โดยทำเรตติ้งได้สูงสุดเป็นอันดับสองของละครเกาหลีทั้งหมดที่ออกอากาศทางช่องเคเบิ้ลทีวี ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตคนทำงานล้วนๆ โดยไม่มีเรื่องราวความรัก ความโรแมนติกมาเป็นตัวชูโรงแต่อย่างใด
“หนุ่มออฟฟิศพิชิตฝัน (Misaeng)” นำเสนอเรื่องราวของ “ชาง คือแร” ซึ่งอุทิศชีวิตให้กับการฝึกฝนและแข่งขันเกม “พาตุก (baduk)” (ซึ่งก็คือ “หมากล้อม” หรือ “โกะ”) มาตั้งแต่เด็กๆ โดยฝันว่าสักวันจะเป็นนักเล่นเกมพาตุกมืออาชีพ แต่หลังจากความฝันพังทลายเขาก็ต้องกลับมาสู่โลกแห่งความจริงอันโหดร้าย และต้องเข้าสู่สังคมคนทำงานด้วยวุฒิการศึกษาเทียบเท่าระดับชั้นมัธยมปลาย โชคดีที่มีผู้ใหญ่ช่วยฝากฝังงานให้ เขาจึงได้ทำงานที่บริษัทเทรดดิ้งขนาดใหญ่ “วัน อินเตอร์เนชั่นแนล” ในฐานะพนักงานขายฝึกหัด
* ชื่อเรื่อง “Misaeng (มีเซ็ง)” หมายถึง ชีวิตที่ไม่สมบูรณ์ แต่ถ้าแปลตรงๆ ตามตัวอักษรจะหมายความว่า “ยังไม่เกิด” หรือยังไม่เป็นตัว
และนั่นก็ทำให้เขาได้พบกับ “โอ ซังชิก” หัวหน้าฝ่ายขายทีม 3 ที่เป็นคนบ้างาน, “อัน ยองอี” พนักงานฝึกหัดสาวเพียงหนึ่งเดียวและเป็นขวัญใจของหนุ่มๆ ในออฟฟิศ เพราะเธอมีประวัติการศึกษาที่โดดเด่น แถมยังรู้ลึกรู้จริงในงานแทบทุกด้าน และ “จาง เพ็คกี” เพื่อนร่วมงานที่ภายนอกดูเหมือนเด็กเนิร์ดผู้เงียบขรึมและว่าง่าย แต่ความจริงร้ายลึกและเป็นคนทะเยอทะยาน ด้วยความที่อยู่กับตัวเองมาโดยตลอดและไม่เคยเข้าสังคม คือแรจึงรู้จักเพียงการต่อสู้ชิงไหวชิงพริบบนกระดานพาตุก เมื่อต้องเข้าสู่สังคมที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งแข่งขัน เขาจึงต้องเรียนรู้ที่จะก้าวไปข้างหน้าและพยายามปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กร โดยนำเกมพาตุกมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต
คือแรกำลังออกตามหาใครบางคนที่ประเทศจอร์แดน
และพบว่าคนที่เขากำลังตามหาไม่ได้เข้าพักที่โรงแรมหรูตามที่คาดการณ์ไว้ แต่มาเข้าพักที่โรงแรมชื่อ “ไคโร” สุดซอมซ่อ โชคดีที่เขามาถึงก่อนที่ “ของ” จะถูกขายไป คือแรและเพื่อนร่วมงานอีกคนหนึ่ง (ซึ่งประจำอยู่ที่สาขาจอร์แดน) เดินเข้าไปทางด้านในโรงแรม แต่พอไปถึงห้องพักของคนที่เขากำลังตามหา กลับพบว่าภายในห้องว่างเปล่าและมีชายคนหนึ่งกำลังเก็บกวาดห้องอยู่ คือแรจึงถามหาชายที่ชื่อ “มิสเตอร์ซอ” พนักงานทำความสะอาดไม่ตอบ สายตาของเขาจับจ้องไปทางด้านหลังของคือแร เมื่อคือแรหันไปดูก็พบชายที่ตนกำลังตามหายืนอยู่ทางด้านหลัง พอรู้ว่าคือแรเป็นใครชายคนดังกล่าวก็วิ่งหนี คือแรและชายอีกคนจึงรีบวิ่งตามไป
คือแรวิ่งไล่ตามชายเกาหลีที่ชื่อซอไปตามท้องถนนซึ่งมีทั้งรถและคนพลุกพล่าน ทั้งคู่วิ่งตัดหน้ารถกันแบบไม่คิดชีวิต ในที่สุดคือแรก็ถูกรถคันหนึ่งชนเข้าอย่างจัง โชคดีที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก พอตั้งสติได้คือแรก็ลุกขึ้นแบบมึนๆ และยังคงไล่ตามชายคนดังกล่าวชนิดกัดไม่ปล่อย เมื่อชายคนดังกล่าวกระโดดลงจากดาดฟ้าเพื่อข้ามไปยังอีกตึกหนึ่ง คือแรก็กระโดดตามไปอย่างไม่ลังเล
ฤดูใบไม้ผลปี 2012… หลังออกจากกรมมาได้หลายปี คือแรยังคงหางานประจำทำไม่ได้เลยต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการทำงานพาร์ทไทม์ ขณะทำความสะอาดห้องน้ำที่โรงอาบน้ำอย่างขยันขันแข็ง เขาก็ได้รับแจ้งข่าวร้ายว่าพนักงานที่หยุดพักรักษาตัวชั่วคราวจะกลับมาทำงานแล้ว พอรู้ว่าตนเองถูกเลิกจ้างคือแรก็พยายามฝืนยิ้มและทำเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หลังรับค่าจ้างรายวันงวดสุดท้ายเขาก็รีบตรงดิ่งไปทำงานรับจ้างขับรถ (ให้เจ้าของรถที่ไปดื่มเหล้า – เมาไม่ขับ) ต่อในตอนกลางคืน แม้จะถูกเจ้าของรถซึ่งเป็นพนักงานออฟฟิศพูดจาดูถูกเหยียดหยามและโยนเศษเงินให้เพียงน้อยนิด แต่คือแรก็ทำได้เพียงอดทน
แม่คือแรทนรอไม่ไหวจึงโทรฯ หาลูกชายกลางดึกเพื่อบอกว่าเขาได้งานประจำทำแล้วและต้องเริ่มต้นทำงานในวันรุ่งขึ้น คือแรจึงสวมสูทตัวเก่งของพ่อไปทำงาน แม่บอกคือแรว่าตนไม่ได้ติดสินบนใครเพื่อให้เขาได้งาน ดังนั้น เขาควรเชื่อมั่นในความฉลาดและความสามารถของตนเอง เพราะถ้าหากไม่ดีจริงเขาคงไม่ได้งาน