รีวิวซีรี่ย์ Money Heist Korea

รีวิวซีรี่ย์ Money Heist Korea ปฏิบัติการโจรกรรมสุดยิ่งใหญ่ได้อุบัติขึ้นอีกครั้งใน ทรชนคนปล้นโลก: เกาหลีเดือด (Money Heist: Korea – Joint Economic Area) ซีรีส์แอ็กชั่นอาชญากรรมเรื่องล่าสุดส่งตรงจาก Netflix รีเมกจากเวอร์ชั่นสเปนอันโด่งดัง เมื่อภารกิจปล้นระทึกโลกเกิดขึ้นบนเขตเศรษฐกิจร่วมระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะเป็นอย่างไร หากไม่เคยดูต้นฉบับมาก่อนจะเข้าใจเนื้อเรื่องหรือไม่ จะสนุกและน่าติดตามขนาดไหน ชวนไปหาคำตอบพร้อมกันได้ ณ บัดนี้ เว็บดูหนัง 

‘Money Heist’ ที่เป็นต้นฉบับคือซีรีส์จากสเปนที่กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกผ่านการเผยแพร่ของเน็ตฟลิกซ์ ด้วยเวลาที่ออกอากาศยาวนับตั้งแต่ปี 2017 จนถึงตอนสุดท้ายในปี 2021 ด้วยจำนวน 5 ซีซัน 48 ตอน มีจุดเด่นเรื่องของบทที่มีความเหนือชั้น หักเหลี่ยม ซ้อนแผน การสร้างตัวละครที่มีมิติลุ่มลึกและมีเสน่ห์น่าติดตาม สามารถเฉลี่ยพื้นที่ให้แต่ละตัวละครเฉิดฉายและน่าจดจำได้อย่างดี รวมถึงโปรดักชันที่สมกับเป็นซีรีส์ระดับขายทั่วโลกราวกับจะให้เป็นความภูมิใจของสเปนเลยทีเดียว

ในปี 2020 เกาหลีก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวที่จะทำฉบับรีเมก และได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีว่าจะผลิตให้เน็ตฟลิกซ์จำนวน 12 ตอน โดยผู้กำกับ คิมฮงซอน (Kim Hong-sun) จากซีซันแรกของซีรีส์ ‘Voice’ (2017) และมือเขียนบทหน้าใหม่จากซีรีส์ ‘Psychopath Diary’ (2019-2020) อย่าง รยูยองแจ (Ryu Yong-Jae) ซึ่งดูเป็นการจับคู่ที่น่าสนใจสำหรับการรีเมกซีรีส์ดราม่าอาชญากรรมแอ็กชันธริลเลอร์ และหลังจากนั้นก็เริ่มประกาศรายชื่อนักแสดงที่จะมารับบทบาทโดยอิงจากชื่อตัวละครเดิมอย่างครบครัน โดยตัวเด่นหลัก ๆ ล้วนทำให้ผู้ชมต่างตื่นเต้นไม่เบา เว็บดูหนังฟรี 

เปิดฉากขึ้นด้วยการกล่าวถึงแผนปฏิรูปการรวมชาติระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในปี 2025 เริ่มจากการจัดตั้ง เขตเศรษฐกิจร่วมเจอีเอ (Joint Economic Area) ชุมชนทดลองที่ประชากรทั้งสองฝั่งสามารถสัญจรไปมาได้อย่างอิสระ รวมไปถึงการผลิตเงินตราสกุลเดียวกันเพื่อจับจ่ายใช้สอย แน่นอนว่านโยบายดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้คนจากพยองยางหลั่งไหลเข้าสู่ฝังใต้จำนวนมหาศาล บริษัทจัดหางานและที่อยู่อาศัยสำหรับผู้อพยพกลายเป็นธุรกิจที่นายหน้าหัวใสใช้ตักตวงเม็ดเงินจนร่ำรวย ในทางกลับกันมันได้กลายเป็นแหล่งต้มตุ๋นชั้นดีที่ทำให้ชะตาชีวิตของชาวเกาหลีเหนือต้องตกต่ำจนถึงขีดสุด หนึ่งในนั้นคือ รีฮงดัน (รับบทโดย จอนจงซอ) เด็กสาวที่เพิ่งปลดประจำการจากกองทัพและตั้งใจมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ยังคาบสมุทรแห่งนี้

รีวิวซีรี่ย์ Money Heist Korea

หลังจากถูกนายหน้าหลอกขายฝันเข้าอย่างจัง รีฮงดันจึงออกปล้นเงินจากธุรกิจสีเทาเหล่านี้เพื่อแก้แค้นและประทังชีวิตให้อยู่รอดต่อไป ทว่าทำไปได้ไม่นานเธอกลับถูกรัฐบาลประกาศจับจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน รีฮงดันที่สิ้นไร้ไม่ตอกตัดสินใจปลิดชีวิตเพื่อหนีปัญหา หากแต่ระหว่างที่เธอกำลังเหนี่ยวไกเป่าสมองตัวเองได้มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าต่อตา เขาคือ ศาสตราจารย์ (รับบทโดย ยูจีแท) ผู้ที่ชักชวนเธอเข้าสู่ภารกิจโจรกรรมโรงกษาปณ์เพื่อเงินจำนวนสี่ล้านล้าน ร่วมกับสมาชิกคนอื่นที่ล้วนใช้นามแฝงเป็นชื่อเมือง ฮงรีดันเลือกฉายาของตัวเองว่า โตเกียว ก่อนที่ปฏิบัติการครั้งสำคัญที่เดิมพันด้วยชีวิตจะเริ่มต้นขึ้น พวกเขาถูกรู้จักในนามโจรผู้สวมยูนิฟอร์มสีแดงพร้อมกับหน้ากากฮาฮเว หนังฟรี 

ทั้ง โตเกียว ที่ได้ จอนจงซอ (Jeon Jong-seo) นักแสดงสาวฝีมือดีน่าจับตาที่แจ้งเกิดจากหนังรางวัลเรื่อง ‘Burning’ (2018) และฉายแววร้ายได้เลือดเย็นใน ‘The Call’ (2020) รูปหน้าที่โฉบเฉี่ยวทั้งน่ามองและยากคาดเดาจิตใจเธอนับเป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียว, ศาสตราจารย์ รับบทโดย ยูจีแท (Yoo Ji-Tae) สายฝีมือที่หลายคนจดจำเขาได้จากบทจอมวางแผนแสนเลือดเย็นใน ‘Oldboy’ (2003) ทำให้เขาดูเป็นตัวเลือกที่ดูเข้าไม่น้อย และ เบอร์ลิน รับบทโดย พัคแฮซู (Park Hae-soo) ที่โด่งดังกับซีรีส์แห่งปีอย่าง ‘Squid Game’ (2021) จากบทบาทล่าสุดนี้ที่เขาแสดงถึงด้านมืดและพลังกดดันจากตัวละครได้ดี ก็ทำให้เขามีเค้าความเป็นเบอร์ลินที่น่าสนใจ

ตั้งต้นด้วยที่มาที่ไปของแผนการปล้นครั้งสำคัญ ชูโรงพื้นที่สมมติอย่าง Joint Economic Area ตั้งแต่ชื่อเรื่อง โยนระเบิดด้วยเหตุการณ์ที่ทำให้คนกลุ่มหนึ่งต้องรวมตัวกันกลายเป็นแก๊งโจรกระทำการอุกอาจท้าทายอำนาจรัฐ เขตเศรษฐกิจร่วมที่ดูเหมือนจะเป็นแผนการรวมชาติอันงดงามกลับขยายช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนให้เพิ่มมากขึ้น

พวกเขาเหล่านี้ล้วนเป็นเหยื่อของระบบทุนนิยมซึ่งบีบบังคับให้ต้องวิ่งเร่หาเงินเพื่อเอาตัวรอดในโลกอันโหดร้าย เมื่อถึงคราวจนตรอกจึงต้องเข้าสู่เส้นทางการก่ออาชญากรรม บ้างกลายเป็นนักโทษ บ้างกลายเป็นคนไร้อนาคต บาดแผลและความเจ็บปวดเหล่านี้เป็นจุดร่วมที่ชักนำพวกเขาสู่การโจรกรรมครั้งประวัติศาสตร์ การเปิดด้วยประเด็นเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้จึงสามารถตีหัวเข้าบ้านได้โดยไม่ต้องออกแรงมากนัก หนังใหม่ 

ต้องบอกว่าส่วนตัวเป็นแฟนของซีรีส์ต้นฉบับ และรู้สึกว่าเป็นโจทย์ยากที่ทีมงานไม่ว่าใครจะมารีเมกเรื่องนี้ในช่วงเวลาที่ห่างจากต้นฉบับเพิ่งจบลงหลักเศษปี (และหากนับจากซีซันแรกซึ่งเป็นเรื่องราวที่นำมารีเมกก็ห่างราว 5 ปี) ที่ผู้ชมส่วนใหญ่ยังจำเรื่องราวและรายละเอียดต่าง ๆ ได้ดีพอสมควร และเมื่อดูก็พบว่าฉบับเกาหลีนั้นเคารพต้นฉบับจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันเพียงลองปรับเชปของการเล่าเรื่องนิดหน่อย แก้ไขฉากหลังและภูมิหลังของเรื่อง บางจุดรวบรัดให้กระชับ บางจุดก็ข้าม ๆ ไปบ้าง แต่การเดินเรื่องก็นับได้ว่าคือ ‘Money Heist’ เดิม ๆ นั่นเลย

รีวิวซีรี่ย์ Money Heist Korea

หนำซ้ำเสน่ห์หรือความน่าติดตามก็กลับพบว่ายิ่งด้อยลงเสียอีก ด้วยความรวบรัดและไวมากในช่วงแรก ประกอบกับลีลาภาพและซีจีที่ดูเหมือนการ์ตูนในบางจุดจนเราไม่ค่อยรู้สึกว่านี่จะเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นจริงได้หากเกาหลี 2 ประเทศจะมารวมกันจริง ๆ ทั้งที่โทนของซีรีส์นี้เดิมวางพื้นให้รู้สึกว่าสมจริงและน่าจะเกิดขึ้นได้จริงมากกว่าแฟนซีอย่างที่เกาหลีเปิดหัว ดูหนัง 

ความจริงแล้ว Money Heist: Korea วางแผนออกอากาศทั้งหมด 12 ตอน เราจะได้ดูพาร์ทแรกกันก่อนจำนวน 6 ตอน ส่วนที่เหลือจะปล่อยออกมาในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยจำนวนและความยาวของแต่ละตอนที่เทียบเท่ากับซีรีส์ทางโทรทัศน์จึงไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องดำเนินไปอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อได้ดูแล้วต้องยอมรับว่ากลวิธีเล่าเรื่องค่อนข้างน่าสนใจ เรียกว่าเริ่มแผนการโจรกรรมกันตั้งแต่ไม่กี่นาทีแรกเลยด้วยซ้ำ

อีกทั้งยังฉลาดในการจั่วหัวด้วยปูมหลังของตัวละคร ก่อนจะเชื่อมโยงเข้าสู่เนื้อหาสาระของแต่ละตอนได้อย่างแยบยล นั่นหมายความว่าคนดูจะได้รู้จักว่าใครเป็นใครตั้งแต่อีพีแรก แล้วจึงค่อย ๆ ทำความรู้จักพวกเขาให้มากขึ้นในอีพีต่อ ๆ ไป การนำเสนอด้วยรูปแบบดังกล่าวจึงเป็นแรงจูงใจที่ดีพอจะสามารถพาไปต่อจนถึงตอนจบได้

แม้การดำเนินเรื่องจะรวดเร็วและน่าสนใจขนาดไหน แต่สิ่งที่ค่อนข้างเป็นปัญหาคือไดนามิกไตล์ซีรีส์อาชญากรรมที่ไม่เข้มข้นพอ เข้าใจได้ว่าเป็นการเริ่มต้นซีซั่น เน้นปูพื้นฐานให้คนดูเข้าใจที่มาที่ไปของเรื่องราว รวมทั้งฉากหลังตลอด 6 ตอนที่วนเวียนอยู่ในโรงกษาปณ์เสียเป็นส่วนใหญ่ ช่วงกลางเรื่องที่เป็นการพูดถึงวิธีจัดการกับตัวประกันหรือการแตกคอของแก๊งโจรก็ตามที ดูหนังออนไลน์ 

รีวิวซีรี่ย์ Money Heist Korea

รีวิวซีรี่ย์ Money Heist Korea

ซีรีส์พยายามใส่กลิ่นอายดราม่าชีวิตสไตล์เกาหลี จิตวิทยาหมู่ การควบคุมฝูงชนแบบชาติมหาอำนาจ รวมทั้งเล่นกับความโลภและกิเลสตัณหาของมนุษย์ ทำให้คาดหวังว่าตัวละครจะระเบิดอารมณ์ใส่กันอย่างจัดจ้าน เสิร์ฟความรู้สึกประสาทเสียมาถึงผู้ชมด้วยการชิงไหวชิงพริบที่ต้องร้องว้าว แต่ด้วยความที่เครื่องยังไม่ร้อน ความสนุกจึงยังไม่ตะโกนออกมานอกจอส่งมา ยังไม่รวมบทสนทนาเรื่อยเจื้อยและการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผลของตัวละครในบางช่วง

ยังดีที่ซีรีส์พลิกกลับมาระเบิดความมันส์ได้ทันท่วงทีในช่วงหลัง ด้วยการปรับโหมดให้การปะทะระหว่างแก๊งโจรและหน่วยควบคุมสถานการณ์ฉุกเฉินของฝ่ายรัฐบาลเริ่มตึงเครียดมากขึ้น เราจึงได้ตื่นเต้นไปกับแผนการที่พลิกแพลงไปมาจนถึงวินาทีสุดท้าย อัดแน่นด้วยบรรยากาศสไตล์หนังสายลับ เติมกลิ่นแอ็กชั่นกราดยิงด้วยอาวุธปืนอย่างไม่ยั้งมือ พ่วงด้วยฉากไล่ล่าบนถนนที่เร้าใจมากทีเดียว รวมทั้งยังใส่ความสัมพันธ์ลับลวงพรางและเลิฟไลน์ระหว่างตัวละครเข้ามาเป็นสีสัน ก่อนจะตัดจบพาร์ทแรกไปอย่างค้างคา ทว่าสามารถประคับประคองความตื่นเต้นมาได้อย่างหวุดหวิด ดูหนังฟรี

อีกอย่างที่คิดว่าไม่ควรเป็นปัญหาแต่ก็กลายเป็นปัญหาคือ นักแสดงหลายคนทำให้การตีความตัวละครด้อยลง ในต้นฉบับเรารู้สึกถึงความอ่อนไหวเปราะบางภายใต้ความฉลาดของศาสตราจารย์ แต่ยูจีแทด้วยรูปลักษณ์ที่บึกบึนกว่า อัลวาโร มอร์เต (Álvaro Morte) เขาดูแข็งแกร่งเกินไป ยิ่งบทเปิดช่องให้เล่นความเปราะบางน้อยไปด้วยจนเแทบเห็นแต่ภาพด้านฉลาดเจ้าเล่ห์ ก็ยิ่งทำให้เราไม่ค่อยลุ้นเอาใจช่วยเขาเท่าใดนัก อันนี้คิดว่าพลาดที่การเตรียมตัวนักแสดงให้เข้าบทควรไปปรับรูปลักษณ์เขาให้เหมาะกว่านี้ หรืออาจมองว่าผู้กำกับเลือกวิธีการนำเสนอใหม่ที่แย่กว่าต้นฉบับมากไปหน่อย

ในส่วนของจอนจงซอ น่าจะเป็นส่วนที่คิดว่าบทกับผู้กำกับให้ทิศทางที่ไม่ชัดเจนนัก เธอกลายเป็นตัวละครโตเกียวแบบที่ธรรมดาลงไปมาก ไม่เห็นมิติที่น่าสนใจประสาทเสียหรือเปราะบางขนาดเกลียดหรือหลงรักเธอได้ลง เป็นความรู้สึกเฉย ๆ เสียมากกว่า

เหมือนว่าทั้ง 3 นักแสดงนำจะมีของดีให้ใช้ได้มากกว่านี้แต่ทีมสร้างเอามาใช้ผิดประเภทไปหน่อย ยังไม่นับตัวละครอย่างสารวัตรซอนอูจิน ที่แสดงโดย คิมยุนจิน (Kim Yunjin) ที่ขาดมิติบางอย่างหากเทียบกับต้นฉบับ เธอดูแสดงล้นในทางแข็งกร้าวจนขาดด้านอ่อนแอที่เป็นหัวใจของตัวละครนี้ ฉากการเจรจากับศาสตราจารย์ก็ดูเหมือนการพูดต่อปากต่อคำกันธรรมดาไม่ได้มีความลึกการตีความเท่าใดนัก ดูหนังออนไลน์ 

ด้วยความที่ตัวละครใน Money Heist: Korea มีจำนวนมาก การออกแบบบุคลิกและที่มาที่ไปให้ชัดเจนจึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนดูสามารถจดจำพวกเขาได้ตั้งแต่เริ่มเรื่อง เช่นเดียวกับการนำชื่อเมืองมาตั้งเป็นฉายาของแต่ละคนในเรื่องนี้ ภาพจำของตัวละครผ่านการแสดงไม่ใช่เรื่องน่าห่วงเพราะนำทัพด้วยนักแสดงแถวหน้าอย่าง ยูจีแท และ พัคแฮซู ร่วมด้วยนักแสดงรุ่นใหญ่และดาวรุ่งรุ่นเล็กอีกคับคั่ง เรียกว่าจัดหนักจัดเต็มเล่นถึงทั้งคิวบู๊และซีนอารมณ์ ทั้งที่นักแสดงทุกคนต่างทำหน้าที่ได้ดีแต่เคมีที่สร้างความผูกพันระหว่างคนดูกับพวกเขากลับจืดจางโดยไม่ทราบสาเหตุ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่เหมือนจะยังไม่เข้าที่เข้าทางมากนัก

ความรู้สึกคล้อยตามอย่างที่เคยสัมผัสในซีรีส์เกาหลีเรื่องอื่นจึงยังไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามอาจเป็นเพราะพาร์ทแรกนี้ซีรีส์ยังไม่ได้พาไปสัมผัสเบื้องลึกเบื้องหลังของตัวละครมากเท่าที่ควร จึงอาจเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าดีหรือไม่ดี เมื่อเนื้อเรื่องพาร์ทหลังปล่อยออกมาน่าจะจูนกันติดมากกว่านี้นั่นเอง

ยังไม่นับเรื่องที่ซีรีส์ยังเฉลี่ยบทให้สมาชิกในทีมได้ไม่ค่อยดี อย่างไนโรบีหรือกลุ่มออสโลว์และเฮลซิงกิก็ไม่ได้มีอะไรน่าจำ แต่ก็ยังพูดยากเพราะยังมีครึ่งหลังอีก 6 ตอน ดังนี้แล้วในแง่ตัวละครและการแสดงจึงยิ่งทำให้รู้สึกเลยว่านักแสดงและทิศทางการกำกับการแสดงฝั่งสเปนนั้นดูลึกกว่าจริง ๆ ทั้งที่เกาหลีก็พัฒนาเรื่องนี้มาเยอะแล้ว ค่อนข้างน่าผิดหวัง ดูหนัง 

ที่สำคัญคือบทของซีรีส์ขาดความเฉียบคมใหม่ ๆ ที่ทำให้รู้สึกมันฉลาด อาจมีความน่าสนใจในการใช้ความขัดแย้งแบบรัก-เกลียดปนเประหว่างเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ เพราะซีรีส์มีความพยายามใช้ความรู้สึกเหยียดระหว่างคนสองประเทศนี้มาใช้เป็นมุกขับเคลื่อนเรื่องราวอยู่ตลอดเพื่อให้ซีรีส์มีรสการตีความใหม่บ้างซึ่งทำได้ดี แต่ในด้านมุกหลักคือการปล้นและการต่อรองกลับรู้สึกไม่ได้พัฒนาให้ดีขึ้นเลยซ้ำยังแย่ลง ในขณะที่ฝั่งสเปนจะดึงสถานการณ์ให้หนักหน่วงทั้งฝั่งในโรงกษาปณ์และนอกโรงกษาปณ์จนบีบหัวใจ แต่เกาหลีเหมือนจะเน้นไปที่สถานการณ์บีบคั้นทีละฝั่ง แถมมุกก็ธรรมดาไม่ได้เหนือล้ำอะไรเลย