รีวิวซีรี่ย์ My Name บู๊ระห่ำจนวินาทีสุดท้าย
รีวิวซีรี่ย์ My Name บู๊ระห่ำจนวินาทีสุดท้าย
หากใครเคยดูหนังแอ็กชันฮ่องกงที่บรรดาแก๊งมาเฟียต่าง ๆ ต่อสู้กันด้วยหมัดและมีด ไล่ฟันไล่แทงกันฉึบฉับ เลือดสาด สะบักสะบอม คุณจะได้เห็นสิ่งนั้นบน My Name ซีรีส์แนวแอ็กชัน-นัวร์เรื่องนี้ เพราะตัวเอกที่สะบักสะบอมชนิดที่เจ็บเป็นแต่ฮึบไว้ ทนทายาดและกัดฟันสู้กับฝั่งตรงข้ามด้วยตัวคนเดียว ลุยเดี่ยวไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมเรื่องนี้ เป็นผู้หญิงร่างบางหน้าตาสะสวย ที่ชื่อว่า ‘ยุนจีอู’ ดูหนัง
My Name เป็นผลงานการพลิกบทบาทแบบสุดขั้วของ ‘ฮันโซฮี’ นักแสดงสาวดาวรุ่งที่กำลังเป็นที่จับตามองเป็นอย่างมากตั้งแต่แจ้งเกิดในบทบาท ยอดาคยอง จาก The World Of The Married (JTBC,2020) ที่ตีบทแตกกระจุยจน ถูกเสนอชื่อเข้าชิงสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม บนเวที Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 56 และได้รับกระแสตอบรับอย่างต่อเนื่องผ่านการแสดงล่าสุด ในบทบาท ยูนาบี จากเรื่อง Nevertheless (JTBC,2021) ที่ฮอตฮิตติดลมบนแบบฉุดไม่อยู่
ในวันเกิดอายุครบ 17 ปีของเธอ สายโทรศัพท์จากพ่อก็ดังขึ้น สิ่งที่เธอพูดกับพ่อเป็นอย่างแรก คือ การระเบิดความรู้สึกทั้งหมดที่เธอต้องแบกรับและเผชิญมัน เธอไม่อยากจะรอพ่ออีกต่อไปแล้ว ต่อจากนี้เธอจะคิดว่าพ่อของเธอได้ตายจากไปอย่างไม่มีวันกลับ หลังจากพูดจบพ่อของเธอที่ได้กลับไปย้อนอ่านข้อความเก่า ๆ ที่เธอส่งมาก็ตัดสินใจที่จะไปหาเธอทันที ดูหนังออนไลน์
My Name เป็นซีรีส์แนว revenge drama หรือแนว ‘ข้ามาเพื่อแก้แค้น’ ที่เล่าเรื่องเรียงไปแบบคลาสิคเรียงลำดับไปตั้งแต่ต้นจนจบ แต่มีเสน่ห์ที่การผสมองค์ประกอบของหลาย ๆ แนว อย่าง แอคชั่น ไขปริศนา ทริลเลอร์ที่มีเรื่องให้ลุ้นอยู่เรื่อย ๆ และโดดเด่นด้วยความองค์ประกอบของความเป็นฟิลม์นัวร์ ที่สะท้อนด้านมืดของจิตใจมนุษย์ผ่านทางงานภาพที่ใช้สีสันโทนค่อนข้างมืด เหมาะสมกับความดาร์คของเรื่อง เข้าคู่กันได้ดีกับเพลงประกอบที่มีจังหวะหนักหน่วง ซีรีส์เล่าเรื่องได้สนุก ดูหนัง 4k
แต่ไม่ทันไร พ่อของเธอก็ถูกบุคคลปริศนาจ่อยิงอยู่ที่หน้าประตูต่อหน้าเธอที่จ้องมองผ่านตาแมวเสียแล้ว การตายของพ่อจุดไฟแค้นในตัวของจีอูให้ลุกโชน เธอต้องรู้ให้ได้ว่าใครที่เป็นคนฆ่าพ่อของเธอไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม จีอูจึงตัดสินใจเข้าหา ชเวมูจิน (รับบทโดย พัคฮีซุน) หัวหน้าแก๊งดงชอน เพื่อนสนิทของพ่อคนที่น่าจะทำให้เธอเข้าใกล้กับฆาตกรที่ฆ่าพ่อได้มากกว่าเดิม ดูหนังออนไลน์ 4k
เรื่องนี้เป็นการพลิกบทบาทครั้งแรกของ ฮันโซฮี จากเมียน้อยใน A World of Married Couple จากนักศึกษาที่มีความรักบนความสัมพันธ์เป็นพิษใน Nevertheless กลายเป็นยุนจีอู หญิงสาวที่ใช้ความแค้นเป็นแรงขับเคลื่อนในการมีชีวิตอยู่ ซึ่งการล้างแค้นทำให้เธอต้องละทิ้งตัวตนที่แท้จริงเพื่อปลอมตัวเข้าไปเป็นสายลับของแก๊งค้ายา เปลี่ยนชื่อและสร้างตัวตนใหม่ในฐานะสายสืบโอฮเยจี ที่อึด ถึก ทนยิ่งกว่าชายอกสามศอก รีวิวซีรี่ย์
บอกเลยว่าเรื่องนี้ฮันโซฮีสลัดคราบนางเอกที่เราเคยเห็นในเรื่องอื่น ๆ ไปอย่างสิ้นเชิง เพราะงานนี้เธอมาในแบบสะบักสะบอม มีเมกอัปเป็นคราบเลือดและบาดแผลทั่วเรือนร่าง สวมบทบาทเป็นสาวที่มีความหวังอยู่ที่การแก้แค้นให้พ่อผู้จากไป มุ่งมั่นสุด ๆ และตั้งใจไปหยุดอยู่ที่การหาฆาตรกรให้เจอและฆ่ามันให้ได้ การที่ต้องสูญเสียพ่อไปตั้งแต่อายุยังน้อยทำให้การแก้แค้นเป็นเป้าหมายอย่างเดียวในชีวิต เรียกได้ว่าชีวิตนี้อยู่ได้ด้วยความแค้นเพียว ๆ ไม่มีมุมอื่นเข้ามาแหยม
ถ้าหากเป็นเรื่องแก้แค้นที่ผู้หญิงเป็นตัวนำก็มักจะเกี่ยวข้องกับ 2-3 ประเด็นใหญ่ ๆ คือสามีเลว โดนบุลลี่ เพราะไม่สวย โดนทำร้ายหรือครอบครัวโดนทำร้าย แต่รูปแบบการแก้แค้นมักจะไปในทิศทางเดียว คล้ายกับที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้คือการใช้เสน่ห์ของความเป็นหญิง หรือ Femme Fatale ที่มาพร้อมฉากแปลงโฉมให้สวยแล้วทาปากแดงไปแก้แค้น อย่างเช่น Birth of Beauty ซีรีส์ปี 2014 ที่่นางเอกศัลยกรรมทั้งตัวไปแก้แค้นครอบครัวและสามีเก่า หรือ World of Married Couple ที่หมอจีหาทางเอาชนะแทโอทุกวิถีทาง แม้กระทั่งการแต่งตัวเซ็กซี่ไปยั่วเพื่อนสามี
ขนบเดิม ๆ เหล่านี้ทำให้ My Name เป็นซีรีส์ที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ แม้จะมีเส้นเรื่องที่คุ้นเคย เพราะถึงเรื่องจะอยู่ในกรอบของละครแนวแก้แค้น แต่พอเปลี่ยนตัวนำ เอาผู้หญิงมาเป็นตัวเดินเรื่อง และ ฉีกภาพเดิม ๆ อย่างการแก้แค้นแล้วต้องลดน้ำหนัก โดยให้ฮันโซฮีเพิ่มน้ำหนัก 10 กีโล เพื่อล้างลุคสาวสวยในเรื่องก่อน ๆ ทิ้ง แล้ววางให้ตัวละครจีอูเน้นต่อสู้ด้วยการใช้กำลัง My Name จึงเป็นการเหมือนประกาศว่าตัวละครหญิงสามารถนำหนังแอคชั่นได้ และเรื่องก็ออกมาสนุกไม่แพ้เรื่องที่ผู้ชายเป็นตัวนำ
ซีรีส์แนวล้างแค้นที่มีบ่อเกิดจากความแค้น
ถึงแม่ว่าบทในเรื่องนี้ดูเผิน ๆ ก็ไม่ได้แตกต่างจากหนังเจ้าพ่อที่ฟัดกัดไม่ปล่อย ตัวเอกตัวร้ายสู้กันชนิดที่ไม่รู้จักความเจ็บปวด ฟัน แทง ยิงไม่ยั้ง ไอ้ที่ตายก็คือตาย ไอ้ที่ไม่ตายก็ทนทายาด แบบว่า โอ้ยยยย อึดเกินไปแล้ว แต่ที่แตกต่างออกไปก็คือ ซูเปอร์อึดในเรื่องนี้คือ ‘นางเอก’ ที่พกชีวิตบัดซบไว้กับตัวตลอดเวลา เราจะไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่า อะไรวะก็พ่อเธอเป็นอาชญากรนี่นา การที่จะถูกเก็บมันก็ถูกแล้ว แต่ถ้าเราเข้าใจถึงสาเหตุเราก็จะเชื่อได้ไม่ยากและยิ่งดูต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะสงสารนางเอกจับหัวใจ เพราะชีวิตของเธอมันช่าง บัดซบยิ่งนัก
บ่อเกิดของความแค้นและเหตุผลในการล้างแค้นได้จุดประกายมาจากการที่ ยุนจีอูเห็นพ่อของเธอตายไปต่อหน้าต่อตาตั้งแต่เธออายุยังน้อย คือเด็กมากและเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจเหตุผลใด ๆ ไปหาตำรวจก็ไม่มีตำรวจคนไหนอยากจะช่วยเหลือตามหาคนร้ายให้ เพราะพ่อของเธอเป็นอาชญากร สุดท้ายที่พึ่งหนึ่งเดียวก็คือชเวมูจินเพื่อนของพ่อที่เป็นหัวหน้าแก๊งดงชอน ที่ปั้นเด็กมัธยมคนหนึ่งให้กลายเป็นสายลับที่เอื้อผลประโยชน์ให้กับตัวเองอย่างเลือดเย็น
แม้จะยังมีฉากที่เห็นความเสียเปรียบของการเป็นผู้หญิงอยู่บ้าง เช่นฉากการต่อสู้แรก ๆ หรือการที่จีอูโดนเพ่งเล็ง โดนดูถูกเพราะเป็นผู้หญิงคนเดียวในแก๊งอันธพาลใหญ่ ๆ แต่ว่าอีกไม่นานเกินรอจีอูก็ฟาดคำดูถูกและคู่ต่อสู้กระเด็นไปไกล ฉะนั้น My Name จึงห่างไกลกับการเป็นซีรีส์ที่ขยี้ประเด็นผู้หญิงถูกกระทำ ผู้หญิงเป็นเหยื่อ แต่ทำเกิดความเท่าเทียมอย่างแท้จริงในเรื่อง เพราะดูไปเรื่อย ๆ เราจะไม่เห็นว่าเพศเป็นเรื่องสำคัญ เราเห็นใจจีอูจากอดีตที่โหดร้าย ชะตากรรมที่น่าเศร้า และการต่อสู้แบบทุ่มเททุกอย่างหมดหน้าตักเพื่อเป้าหมาย และรู้แค่เรารักและเอาใจช่วยให้ตัวละครตัวนี้เอาชนะทุกอย่างให้ได้
แต่สำหรับความรู้สึกของมูจินที่มีให้จีอู ขอนิยามความรู้สึกนี้ว่า ความรู้สึกที่ไม่มีชื่อเรียกแต่มันคือความรักที่คือรักจริงๆ ละกันมูจินในตอนแรกที่ตัดสินใจช่วยจีอูยังไงก็คงไม่ใช่เหตุผลเก็บศัตรูไว้ใกล้ตัวอะไรเทือกนั้นแน่นอน มันดูออกว่าความรู้สึกที่มูจินเก็บจีอูมาเพราะเขายังรู้สึกรักเพื่อนของเขาอยู่ เหมือนมูจินอยากจะไถ่โทษดวงวิญญาณของเพื่อนแต่ก็ยังรู้สึกโกรธแค้นจนสุมอกกับสิ่งที่เพื่อนทำเลยไม่ได้เก็บจีอูมาเลี้ยงดูอย่างดี แต่กลับโยนจีอูเข้าดงเสือดงจระเข้ให้เธอเอาตัวรอดแทน เลี้ยงเธอให้มือเปื้อนเลือดแต่ก็ซัพพอร์ตหลังไม่ให้เธอล้มแรงอยู่เสมอ และในตอนที่มูจินเริ่มรู้สึกว่าทุกอย่างทุกอย่างเริ่มอยู่นอกเหนือการควบคุมของเขา เขายังใส่ใจจีอูถึงขนาดหาบ้านริมทะเลมาให้จีอูเลือกเลยด้วยซ้ำ ในตอนแรกๆแม้จะถูกฝึกมาหนักแค่ไหน หรือเจออะไรร้ายแรงมาจีอูไม่เคยฆ่าคนจริงๆเลยซักครั้งนะ จีอูมาเริ่มฆ่าในตอนที่เริ่มรู้แล้วว่าใครคือคนที่ฆ่าพ่อของเธอ เป็นการเริ่มฆ่าที่ปูให้เราเห็นถึงจุดจบว่าสุดท้ายเธอก็ต้องฆ่าคนที่เป็นหมอนั่นสำหรับเธอมาตลอดหลายปีอยู่ดี
บทง่าย ดำเนินเรื่องโดนใจ
ด้วยความที่เป็นซีรีส์ 8 ตอนจบ ก็ต้องบอกว่าเป็นการดำเนินเรื่องที่กระชับจนเราอยากตามติดให้จบให้ได้ในเวลาอันสั้น ผู้เขียนดูสองวันจบเลยค่ะงานอื่นไม่ต้องทำกันแล้ว นั่งดูฮันโซฮีนี่แหละ ด้วยความอยากรู้และที่แน่ ๆ ก็คือด้วยความมันในอารมณ์กับฉากแอ็กชันดุเดือดเลือดพล่าน เห็นสาวแกร่งเป็นไม่ได้ใจมันจี๊ด ผสมกับซาวด์ประกอบที่บอกความรู้สึกของแต่ละฉากได้แบบเข้าถึง สร้างเสน่ห์ให้กับเรื่องนี้ไปอีกขั้น และที่แน่ ๆ คือเพราะมาก ๆ จนต้องหามาฟังต่อนอกรอบ ไปหาฟังเอาเลยจ้ะเพราะทุกเพลงจริง ๆ
บทเขียนให้นางเอกเรื่องนี้ไม่ได้แกร่งเกินพิกัด แต่ความอึดนั้น ประหนึ่งว่ากินแรดเข้าไปสามตัวเลยทีเดียว ก็อึดป๊ายยย คิวบู๊ต่าง ๆ เอื้อให้นางเอกสามารถต่อกรกับผู้ชายทั้งหลายในเรื่องได้ด้วยความฉลาดสู้ จู่โจมเฉพาะจุดสำคัญและว่องไวจนรู้สึกว่าลีลาในการฟาดฟันพอเหมาะพอเจาะ ทำให้เส้นเรื่องสั้น ๆ ที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากการตามล้างแค้น ชีวิตบัดซบและการถูกหลอกใช้ มีไว้เพื่อให้นางเอกได้บรรเลงเพลงบู๊อย่างมีเหตุผลรองรับ เรียกว่าหาเรื่องขายคิวบู๊่ของนางเอก ว่างั้นเถอะ ก็ขอชมฮันโซฮีอีกแล้วว่าเล่นคิวบู๊ได้ละเอียด เนียนตาเอามาก ๆ ไม่เกิดความขัดหูขัดตา ไม่เกิดความรู้สึกว่าเวอร์วังเกินเบอร์ใด ๆ เลยทั้ง ๆ ที่เธอตัวนิดเดียวเมื่อเทียบกับผู้ชายร่างกำยำทั้งเรื่อง
ดราม่าในซีรีส์เรื่องนี้ก็จะเล่นกับความไว้ใจ การหักหลัง การหลอกใช้ ตัวละครมีความเจ็บปวดที่ยึดเอาเป็นเหตุผลในการทำสิ่งต่าง ๆ ที่มีช่องว่างของความกระชุ่มกระชวยเพียงเสี้ยวเดียวและตอนเดียวซะด้วยสิ เป็นช่วงเวลาวาบหวามที่ทำให้คนดูยิ้มแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ไปกับความสุขนั้นของนางเอก เอาใจช่วยว่าอย่านะ อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบที่คิดนะเว้ย แต่แล้วผู้กำกับก็กระชากหัวใจเราไปซะได้ บอกเลยว่าสายสุขนิยมหนีไปให้ไกลเลยจ้ะ เพราะเรื่องนี้ให้ความสุขเดียวคือตัวร้ายตายหยังเขียด แต่ตัวเอกนั้น…ไม่อยากจะพูดเลยค่ะ เป็นเศร้า