รีวิวซีรี่ย์ My sunshine ย้อนรอยรัก
รีวิวซีรี่ย์ My sunshine ย้อนรอยรัก จ้าวโม่เซิง นักศึกษาภาควิชาเคมี ตกหลุมรักและคอยตามติด เหออี่เชิน นักศึกษากฏหมาย ไปทั่วมหาวิทยาลัย จนในที่สุดทั้งคู่ก็กลายเป็นคู่รักกัน แต่เพราะเกิดเรื่องเข้าใจผิดทำให้เธอต้องจากไปโดยไม่ได้บอกลาใคร เจ็ดปีต่อมา โม่เซิงได้บังเอิญกลับมาเจออี่เชินอีกครั้ง ทั้งคู่ต่างยังคงฝังใจกับเรื่องราวในอดีต แต่ทั้งความรัก ความเข้าใจผิด และอุปสรรคต่างๆ กลับช่วยสลายปมในใจทำให้พวกเขาเข้าใจกันและกันมากขึ้น เว็บดูหนัง
ละคร “ย้อนรอยรัก (My Sunshine)” ดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่อง “何以笙箫默 (Silent Separation)” ของนักเขียนชื่อดังชาวจีน “กู้ม่าน” ผู้ประพันธ์และเขียนบทละคร เรื่อง “ขุนให้อ้วนแล้วชวนมารัก (Boss & Me)” กำกับโดยผู้กำกับชื่อดังชาวไต้หวัน “หลิวจวิ้นเจี๋ย” (ผู้กำกับละคร “ขุนให้อ้วนแล้วชวนมารัก”) เริ่มต้นถ่ายทำที่เซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2557 และปิดกล้องที่อ่าววิคตอเรียในฮ่องกงเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2557 โดยฉากความทรงจำช่วงที่คู่พระนางยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ได้สองนักแสดงหน้าใหม่ “หลัวอวิ๋นซี” และ “อู๋เชี่ยน” มารับบทนำ ครั้นพอมีภาพเบื้องหลังหลุดออกมาก็ถูกชาวเน็ตจวกยับเรื่องหน้าตา ผู้กำกับจึงตัดสินใจถ่ายทำอีกเวอร์ชั่นหนึ่งโดยให้ “จงฮั่นเหลียง” กับ “ถังเยียน” ย้อนวัยเป็นนักศึกษาเสียเอง แต่สุดท้ายทางผู้ผลิตก็เลือกนำเวอร์ชั่นแรกมาออกอากาศอยู่ดี ผู้กำกับจึงนำเวอร์ชั่นที่สองมาใช้ในละคร 4 ตอนพิเศษ (Director’s Cut) ที่เน้นกล่าวสรุปเรื่องราวความรักของคู่พระนาง
ขณะเป็นนักศึกษาภาควิชาเคมีที่มหาวิทยาลัยฉางหัว “จ้าวโม่เซิง” เกิดตกหลุมรักนักศึกษากฏหมาย “เหออี่เชิน” ตั้งแต่แรกพบ เธอจึงคอยตามติดอี่เชินไปทั่วมหาวิทยาลัย ครั้นพอถูกโม่เซิงตามตื๊อมากๆ เข้าอี่เชินก็เริ่มประทับใจในความสดใสร่าเริงและใสซื่อของเธอ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นคู่รักนักศึกษาในที่สุด เมื่อ “เหออี่เหมย” น้องสาวต่างสายเลือดของอี่เชินแสดงตัวว่าเป็นคนสนิทของอี่เชิงและประกาศตัวเป็นศัตรูหัวใจกับโม่เซิง โม่เซิงจึงรีบไปเคลียร์กับอี่เชินแต่เขากลับแสดงท่าทีเย็นชา ห่างเหิน และหมางเมินใส่เธอ โม่เซิงคิดว่าอี่เหมยกับอี่เชินคบหากันจริงๆ เลยยอมทำตามความต้องการของพ่อและย้ายไปเรียนต่อที่อเมริกาโดยไม่ทันได้บอกลาใคร เว็บดูหนังฟรี
เจ็ดปีต่อมา โม่เซิงซึ่งปัจจุบันกลายเป็นช่างภาพมืออาชีพตัดสินใจเดินทางกลับเมืองจีน และบังเอิญเจออี่เชินคนรักเก่าที่ยากจะตัดใจลืม แม้ทั้งคู่ต่างยังคงโหยหากันและกันแต่การรื้อฟื้นความสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะทั้งคู่ต่างยังคงฝังใจกับเรื่องราวในอดีต ที่สำคัญในช่วงเจ็ดปีที่ทั้งคู่ห่างเหินกัน น้องสาวต่างสายเลือดของอี่เชิน “เหออี่เหมย” ตลอดจนสามีในนามที่อเมริกาของโม่เซิง “อิ้งฮุย” ได้พยายามเข้ามาแทรกกลางระหว่างทั้งคู่ นอกจากนี้อี่เชินยังมีเรื่องโกรธแค้นพ่อของโม่เซิงอีกด้วย แม้สิ่งเหล่านี้จะเป็นอุปสรรคต่อการสานสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่ความเข้าใจผิด ความจริงที่ปรากฏ และบททดสอบที่เกิดขึ้น กลับช่วยสลายปมในใจทำให้ทั้งคู่เข้าใจกันและกันมากขึ้น
ละครเปิดฉากขึ้นที่สนามบินในสหรัฐอเมริกา “จ้าวโม่เซิง” ซึ่งเป็นช่างภาพมืออาชีพ กำลังจะเดินทางกลับเซี่ยงไฮ้หลังใช้ชีวิตที่อเมริกามานาน 7 ปี พอเช็คอินและโหลดกระเป๋าที่เคาน์เตอร์แล้วเธอก็เดินไปบอกลาชายปริศนาคนหนึ่ง (ละครเผยให้คนดูเห็นเพียงด้านหลังและใบหน้าเบลอๆ ของชายคนดังกล่าว) ชายผู้นั้นบอกเพียงว่า “ถ้าเธอไม่คิดกลับอเมริกา ก็อย่าติดต่อกันอีกเลย” โม่เซิงเห็นดีด้วยและเดินทางกลับเซี่ยงไฮ้ตามลำพังพลางนึกสงสัยว่าคนที่นั่นจะยังจำเธอได้หรือไม่ ครั้นไปถึงสนามบินเซี่ยงไฮ้แล้วเห็นว่าคนอื่นมีแฟนมารอรับ โม่เซิงก็อดนึกถึง ‘เขาคนนั้น’ ไม่ได้ และคิดว่าถ้าหากเขามารอรับเธอที่นี่ด้วยก็คงดี หนังฟรี
ปรากฏว่า ‘เขาคนนั้น’ อยู่ที่นั่นจริงๆ ซ้ำยังอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม… ในตอนนั้น “เหออี่เชิน” (ทนายและหนึ่งในผู้ก่อตั้งสำนักงานกฏหมาย “เยวี๋ยน เซี่ยง เหอ”) เพิ่งเดินทางกลับจากฮ่องกงและเดินสวนกับโม่เซิงที่สนามบิน แต่ต่างฝ่ายต่างมองไม่เห็นกันแม้จะหยุดยืนหันหลังใกล้ๆ กันก็ตาม ทันทีที่มาถึงเซี่ยงไฮ้อี่เชินและผู้ช่วย (ซึ่งมารอที่สนามบิน) ก็รีบตรงดิ่งไปประชุมเรื่องการควบรวมกิจการที่สำนักงานของลูกค้า โดยมีทนาย “เซี่ยงเหิง” (เพื่อนสนิทและหนึ่งในหุ้นส่วนของอี่เชิน) ไปรอที่นั่นอยู่ก่อนแล้ว ขณะที่โม่เซิงลากกระเป๋าเดินทางไปสัมภาษณ์งานที่นิตยสาร “Treasure” โดยบอกพนักงานที่หน้าเคาน์เตอร์ว่าเธอมีนัดสัมภาษณ์กับบ.ก.จาง
อี่เชินไปประชุมสาย 10 นาทีเพราะเครื่องบินดีเลย์ ทันทีที่ไปถึงเขาก็พบว่า “สวี่อิ่ง” (เพื่อนนักศึกษาที่เรียนกฏหมายรุ่นเดียวกัน ก่อนที่เธอจะไปเรียนต่อที่อ๊อกฟอร์ด) เป็นทนายของอีกฝ่าย เธอจับมือและทักทายเขาในฐานะเพื่อนรุ่นเดียวกัน “มิสเตอร์ปีเตอร์” ลูกค้าของเธอได้ยินดังนั้นก็เซอร์ไพรส์เพราะไม่คิดว่าทั้งคู่จะเคยเป็นเพื่อนกัน สวี่อิ่งจึงกล่าวกึ่งประชดว่าทนายเหอ (อี่เชิน) เป็นนักศึกษากฏหมายชื่อดัง ส่วนเธอเป็นแค่นักศึกษาธรรมดา เกรงว่าเขาคงจำเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ อี่เชินนั่งนิ่งไม่ออกความเห็น สวี่อิ่งเห็นว่าอี่เชินมาประชุมสายกว่าคนอื่นจึงถามว่าเขาต้องการเวลาในการเตรียมตัวไหม อี่เชินตอบว่าไม่จำเป็นและสามารถเริ่มประชุมได้ทุกเมื่อ สวี่อิ่งจึงขอพรีเซนต์เป็นคนแรกโดยเริ่มจากการกล่าวสรุปเนื้อหาการประชุมเมื่อ 14 วันก่อน เพราะเกรงว่าอาจมี ‘ใครบางคน’ จำรายละเอียดไม่ได้
หลังสวี่อิ่งพูดจบ อี่เชินก็ชี้ว่าพวกตนเจรจาเรื่องสัญญาการควบรวมกิจการมานานหนึ่งปีแล้ว ตนจึงจำทุกรายละเอียดได้เป็นอย่างดี เขาขอบคุณทนายสวี่ที่นำเสนอวิธีการพรีเซ็นต์อันยอดเยี่ยมให้ทุกคนดู ก่อนตำหนิที่เธอมัวใช้เวลาและงบประมาณอันมีค่าของลูกค้าไปกับการนำเสนอข้อมูลเก่าที่ผ่านการเห็นชอบแล้ว และหวังว่าในการประชุมครั้งหน้าพวกตนคงไม่สิ้นเปลืองเวลาไปกับเรื่องแบบนี้ เขาชี้ว่าประเด็นสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาในวันนี้คือสิทธิในการจัดจำหน่ายสินค้าหลังควบรวมกิจการ จากนั้นก็นำเสนอแผนบริหารจัดการสินค้ารูปแบบใหม่ต่อที่ประชุม
รีวิวซีรี่ย์ My sunshine ย้อนรอยรัก
ทนายเซี่ยงรู้สึกแปลกใจที่เห็นผู้ประกาศสาว “เหออี่เหมย” มารอรับอี่เชินถึงหน้าห้องประชุม อี่เหมยตัดพ้อทนายเซี่ยงที่ปล่อยให้อี่เชินทำงานหนักราวกับเขาแยกร่างได้ เธอกล่าวว่าอี่เชินเพิ่งกลับจากฮ่องกงแท้ๆ แต่กลับต้องรีบตรงดิ่งมาเข้าประชุม ความจริงแล้วเธอควรเป็นคนไปรับเขาที่สนามบิน แต่ในเมื่อเขาไม่อยู่ที่นั่นเธอเลยต้องตามมารับเขาถึงที่นี่ ทนายเซี่ยงแซวว่าผู้ประกาศของพวกตนมีเวลาว่างมากกว่าที่คิด อี่เหมยแย้งว่าความจริงแล้วเธองานยุ่งมาก แต่ถึงจะยุ่งแค่ไหนเธอก็ต้องมารับทนายคนเก่งไปทานข้าว ไม่อย่างนั้นเขาคงมัวแต่ทำงานจนลืมทานข้าวอีก หนังใหม่
สวี่อิ่งได้ฟังดังนั้นจึงคิดว่าอี่เหมยเป็นแฟนใหม่ของอี่เชิน เธอแนะนำตัวกับอี่เหมยโดยบอกว่าตนเป็นเพื่อนนักศึกษาของอี่เชิน อี่เหมยได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นจึงรีบบอกว่าเมื่อก่อนเธอเคยไปเที่ยวเล่นที่มหาวิทยาลัยฉางหัวบ่อยๆ สวี่อิ่งแย้งว่าตนไม่เคยพบอี่เหมยมาก่อน จากนั้นก็หันไปถามอี่เชินว่าทำไม “จ้าวโม่เซิง” แฟนของเขาถึงไม่มาที่นี่ (อี่เหมยได้ยินดังนั้นก็หน้าจ๋อยไปชั่วขณะ แต่พยายามยิ้มกลบเกลื่อน) เมื่อเห็นอี่เชินยืนนิ่งไม่ยอมตอบ สวี่อิ่งจึงเปรยว่าโม่เซิงคงกลายเป็นอดีตไปแล้วถึงได้มีสาวสวยมารอเขาอยู่ที่นี่ เธอขอโทษอี่เหมยที่พูดเรื่องเก่าๆ ก่อนเปรยว่าอี่เชินจะพูดเรื่องรักแรกต่อหน้าผู้หญิงคนอื่นได้อย่างไร อี่เชินเกรงว่าจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่จึงกล่าวว่าอี่เหมยเป็นน้องสาวของตน (อี่เหมยได้ยินแล้วถึงกับหน้าถอดสี) สวี่อิ่งอ้างว่าครั้งนี้อี่เชินเป็นฝ่ายชนะจึงควรเลี้ยงข้าวพวกตน อี่เชินบ่ายเบี่ยงโดยกล่าวว่าถ้าหุ้นส่วนอีกคนของตนกลับมาเมื่อไหร่ ตนจะเชิญ ‘ทุกคน’ ไปทานข้าวอย่างแน่นอน
บ.ก.จางเห็นเรซูเม่และประวัติการทำงานของโม่เซิงแล้วรู้สึกพึงพอใจ เธอบอกตามตรงว่าตนตัดสินใจรับโม่เซิงเข้าทำงานตั้งแต่ตอนที่โทรฯ คุยกันก่อนหน้านี้แล้ว แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมโม่เซิงถึงยอมทิ้งทุกสิ่งในอเมริกาแล้วกลับมาเริ่มต้นใหม่ที่เมืองจีน ทั้งๆ ที่อาชีพช่างภาพของโม่เซิงกำลังไปได้สวย โม่เซิงอึ้งไปชั่วขณะก่อนตอบเพียงว่าเธอเคยเรียนมหาวิทยาลัยที่นี่และชอบที่นี่มากเลยกลับมา
อี่เหมยเห็นว่าอี่เชินยังคงสนใจแต่เรื่องงานทั้งๆ ที่นั่งอยู่ในรถของตนจึงขอให้เขาลืมเรื่องงานแล้วหันมาคุยกับตนบ้าง เธอเดาออกว่าสวี่อิ่งมีใจให้อี่เชินตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย แถมสวี่อิงยังพูดถึง ‘คนนั้น’ แสดงว่ารู้จักอี่เชินดี อี่เหมยกล่าวว่าความจริงแล้วที่สวี่อิ่งพูดมาก็ไม่ผิด ตลอดหลายปีที่ผ่านมาอี่เชินไม่เคยคบหาใคร
แล้วทำไมถึงไม่ลองพิจารณาใครสักคน (เช่น เธอ เป็นต้น) อี่เชินตอบทันควันว่าไม่จำเป็น ทันใดนั้นโทรศัพท์ของอี่เชินก็สั่นเตือนว่ามีสายเข้า อี่เหมยได้ยินว่าอี่เชินจะเดินทางไปอเมริกาเดือนหน้าจึงสงสัยว่าเขาจะไปตามหาเธอคนนั้นหรือ พอรู้ว่าอี่เชินไปเรื่องงานเธอก็รู้สึกโล่งใจ เธอชวนอี่เชินไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตหลังทานข้าว จากนั้นค่อยไปดูหนังกันต่อ แต่อี่เชินปฏิเสธที่จะไปดูหนังโดยอ้างว่าตนมีธุระ และแนะให้อี่เหมยหาแฟนสักคน ดูหนังฟรี
อี่เหมยได้ยินแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจ เธอมัวแต่ครุ่นคิดถึงเรื่องดังกล่าวจนทำให้เกือบขับรถชน “ลู่เหยวี่ยนเฟิง” พอหายตกใจแล้วอี่เชินก็รีบลงไปขอโทษและสอบถามอาการเหยวี่ยนเฟิงที่รถมอเตอร์ไซค์ล้มจนข้อศอกเป็นแผล แต่เหยวี่ยนเฟิงกล่าวว่าตนไม่เป็นไรและไม่ระวังเอง อี่เชินแนะให้เขาไปตรวจเช็คอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาล
จากนั้นก็ยื่นนามบัตรให้โดยบอกว่าหากมีปัญหาอะไรให้โทรฯ หาตน เหยวี่ยนเฟิงเห็นอี่เหมยผลุบๆ โผล่ๆ หลังพวงมาลัยจึงถามอี่เชินว่าเธอเป็นอะไรหรือเปล่า เพราะดูท่าทางแล้วเธอคงตกใจกลัว อี่เชินส่งสัญญาณแกมบังคับให้อี่เหมยรีบลงจากรถ เธอจึงลงมาขอโทษเหยวี่ยนเฟิงแบบกล้าๆ กลัวๆ พอเห็นว่าคู่กรณีของตนคือเหออี่เหมย เหยวี่ยนเฟิงก็รู้สึกตื่นเต้นและเป็นปลื้ม เขาบอกว่าแม่ตนเป็นแฟนรายการของอี่เหมย จากนั้นก็ถือโอกาสขอลายเซ็น (เขาให้เธอเซ็นลงบนนามบัตรของอี่เชิน) และขอถ่ายรูปเซลฟี่กับเธอโดยสัญญาว่าจะไม่นำไปแชร์ให้คนอื่นดู อี่เชินเห็นดังนั้นก็รู้สึกผิดคาด
บ.ก.จางถามโม่เซิงว่าถ้าเริ่มต้นทำงานในวันพรุ่งนี้จะไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม โม่เซิงกล่าวว่าเรื่องงานไม่มีปัญหาแต่เธอต้องหาที่พักให้ได้ภายในวันนี้ บ.ก.จางเห็นเหยวี่ยนเฟิงเดินเข้ามาในออฟฟิศโดยมีผ้าพันแผลที่ข้อศอกจึงสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น เหยวี่ยนเฟิงกล่าวว่าเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยระหว่างทางมาออฟฟิศ ตนเลยเจ็บตัวนิดหน่อยแต่อีกไม่นานก็คงหาย เขาถามบ.ก.จางว่าโม่เซิงเป็นพนักงานใหม่หรือ บ.ก.จางจึงแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกัน หลังจากนั้น บ.ก.จางก็บ่นเหยวี่ยนเฟิงเป็นชุดที่ไม่ระวังจนทำให้แขนบาดเจ็บทั้งๆ ที่เขาต้องถ่ายแฟชั่นเซ็ทปกนิตยสารฉบับหน้า แถมนางแบบยังเป็น “เซียวเสี่ยว” ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเอาแต่ใจและเรื่องมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทีมงานที่เธอไม่คุ้นเคย เมื่อบ.ก.จางบ่นเรื่องที่เธอต้องหาช่างภาพคนใหม่มาทำงานแทน เหยวี่ยนเฟิงจึงเตือนว่าโม่เซิงเป็นช่างภาพคนใหม่ไม่ใช่หรือ บ.ก.จางจึงมอบหมายให้โม่เซิงทำหน้าที่แทนเหยวี่ยนเฟิง
หลังพาโม่เซิงมาที่โต๊ะทำงานและแนะนำให้เพื่อนร่วมงานรู้จัก เหยวี่ยนเฟิงก็ถามโม่เซิงว่าทำไมเธอถึงหิ้วกระเป๋าเดินทางมาด้วย พอรู้ว่าโม่เซิงเพิ่งเดินทางมาจากต่างประเทศและยังไม่มีที่พัก เหยวี่ยนเฟิงจึงพาโม่เซิงไปพักที่บ้านเพื่อนของตน (ซึ่งเพิ่งย้ายไปอยู่ต่างประเทศและปล่อยห้องให้เช่า) จากนั้นก็อาสาช่วยทำความสะอาด แต่โม่เซิงบอกว่าเธอจะจัดการเอง หลังเหยวี่ยนเฟิงออกจากห้องไปแล้ว โม่เซิงก็นึกถึงคำพูดของบ.ก.จางที่ถามเธอว่า ทำไมถึงยอมทิ้งทุกสิ่งในอเมริกาแล้วกลับมาเริ่มต้นใหม่ที่เมืองจีน หลังจากนั้นเธอก็ครุ่นคิดว่า “เมืองนี้ออกจะกว้างใหญ่ แล้วชั้นจะได้เจอเธออีกมั๊ยนะ ชั้นกลับมาแล้ว…อี่เชิน!”
โม่เซิงออกไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ขณะที่อี่เชินกับอี่เหมยก็กำลังเดินทางไปซื้ออาหารที่นั่นเช่นกัน อี่เชินบอกให้อี่เหมยตรงไปซื้ออาหารที่ชั้นสามเลยเพราะเขามีเวลาไม่มาก อีกไม่นานก็จะได้เวลาประชุมแบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับบริษัทที่ประเทศอังกฤษแล้ว ปรากฏว่าในตอนนั้นโม่เซิงก็กำลังเลือกซื้ออาหารที่ชั้นสามเช่นกัน หลังเดินสวนกันไปมาโดยไม่รู้ตัวหลายรอบ ในที่สุดโม่เซิงก็เห็นอี่เชินกำลังเลือกซื้อของกับอี่เหมย เธอคิดในใจว่า “เป็นไปได้ยังไง พอมาถึงก็เจออี่เชินเลย พวกเขาอยู่ด้วยกันจริงๆ ด้วย” ทันใดนั้นก็มีคนเข็นรถมาชนรถเข็นของโม่เซิงเข้าอย่างจัง โม่เซิงรีบวิ่งตามไปคว้ารถเข็นซึ่งกำลังพุ่งเข้าหากระป๋องเครื่องดื่ม (น้ำผลไม้อัดลม) ที่ตั้งเรียงรายอยู่บนพื้นแต่ก็สายเกินไป รถเข็นของเธอพุ่งชนกองกระป๋องเครื่องดื่มจนพลิกคว่ำทำให้เครื่องดื่มนับร้อยกระป๋องร่วงลงบนพื้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ดูหนังออนไลน์