รีวิวซีรี่ย์ One Dollar Lawyer
บอกเล่าเรื่องราวของ ชอนจีฮุน (รับบทโดย นัมกุงมิน) อดีตอัยการผู้ผันตัวมาเป็นทนายความจนได้ชื่อว่าเป็นกบฏแห่งวงการกฎหมาย เขามักปรากฏตัวในสูทลายสก็อตตัดเย็บอย่างดีพร้อมทรงผมดัดลอนมีสไตล์ ภาพลักษณ์ดูไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่แต่กลับมีใจอันเป็นกุศล ชอนจีฮุนใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือช่วยเหลือผู้คนที่กำลังตกทุกข์ได้ยากโดยคิดค่าจ้างเพียงหนึ่งพันวอน ฝีไม้ลายมือและไหวพริบอันเฉียบขาดทำให้ชื่อเสียงของเขาเป็นที่ลือลั่นในแวดวงตุลาการ แม้โลกจะถล่มฟ้าจะทลายแต่ชอนจีฮุนยังยืนหยัดอยู่ได้ในฐานะ ทนายพันวอน ผู้เป็นขวัญใจคนจน ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา
ซีรีส์ทนายมาอีกแล้ว หวังว่าคงยังไม่มีใครเบื่อไปซะก่อน รีวิวซีรี่ย์ One Dollar Lawyer
เพราะคราวนี้ SBS เขาจัดทีมเด็ดทีมฮาที่การันตีความบ้าบอคอแตกและเวอร์วังได้แน่ ๆ เมื่อเราเห็นหน้า “นัมกุงมิน” กับซีรีส์กฎหมายสายฮา ‘One Dollar Lawyer’ เมื่อเฮียมินนำทีมมันจะไปเหลืออะไร ด้วยการสลัดคราบสายโหดมาสวมบทนักบุญกวนประสาทที่คิดค่าทนายแค่ 1,000 วอน (ประมาณ 27 บาทไทย) โอ้ยยย อะไรจะถูกเหลือเชื่อแล้วเฮียจะกินอะไรคะ ดูหนังฟรี แต่คนใจดีอย่างเฮียมีหรือจะสน คดีใหญ่ขอให้บอกมาเถอะ จะคนแก่ คนจนหรือแม้แต่เด็กตัวเล็ก ๆ เฮียก็พร้อมจะว่าความให้หมดไม่มีเกี่ยงเลยนะจ๊ะงานนี้ เพราะคราวนี้เฮียมินของเรามาในมาดของ ‘ชอนจีฮุน’ (นัมกุงมิน) อดีตอัยการที่ผันตัวมาเป็นทนายความ ผู้มีชื่อเสียงร่ำลือในด้านของความยียวนกวนประสาท ปากแก่ง แต่ฝีมือของการทำคดีก็ยังเก่งยิ่งกว่าปากซะอีกแน่ะ ดูหนังออนไลน์
ไม่ใช่ทุกคนที่ยอมควักเงินจำนวนมากเป็นค่าใช้จ่ายในการสู้คดี หลายชีวิตต้องยอมจำนนเพราะไม่มีปัญญาจ้างทนายมาช่วยเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเอง การหยิบประเด็นพื้นฐานในวงการกฎหมายมาเล่าสู่กันฟังผ่านตัวละคร ทนายพันวอน จึงเป็นแนวคิดที่สร้างความว้าวได้อย่างชาญฉลาด การดีไซน์ให้เขาอยู่ในสถานะฮีโร่ของคนยากไร้ยิ่งสามารถซื้อใจคนดูได้ทุกเพศทุกวัย เชิญชวนให้เราใคร่รู้สงสัยต่อไปว่าชอนจีฮุนจะต้องพบกับคดีที่ยากขึ้นขนาดไหน จะใช้ไม้เด็ดอะไรมาต่อกรในชั้นศาล รวมทั้งจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาเกษียณอาชีพอัยการแล้วผันตัวมาเป็นทนายความสายบุญ ถือเป็นปมใหญ่ที่น่าสนใจพอจะตรึงเราไว้จนกว่าจะถึงเวลาแถลงไขอย่างชัดเจน
ชอนจีฮุน (รับบทโดย นัมกุงมิน) ฮีโร่นักกฎหมาย ทนายความขวัญใจของเหล่าคนยากคนจนและผู้ด้อยโอกาส เขาคิดค่าจ้างว่าความให้กับลูกความเพียง หนึ่งพันวอน เท่านั้น และรับเป็นเงินสด จนเป็นที่มาของฉายา ฮีโร่นักกฎหมาย ทนายพันวอน ที่มักจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่กำลังเดือดร้อน รวมทั้งคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกเอารัดเอาเปรียบ แต่ไร้เงินจ้างทนายแพงๆ ไปสู้คดี
ถึงแม้จะค่าตัวจะถูกก็ไม่แปลว่าฝีมือการว่าความแก้ต่างคดีจะต่ำเตี้ยไปด้วย
เพราะชอนจีฮุนทำหน้าที่เกินค่าจ้าง และจะสู้ยิบตาในศาล ช่วยลูกความอย่างดุเดือด ด้วยหลักฐานเด็ด และลีลาว่าความแบบคิดนอกกรอบ ชนิดที่ต้องอึ้งกันทั้งศาลเลยทีเดียว และคดีล่าสุดที่เขากับ ซามูจัง (รับบทโดย พัคจินอู) ผู้จัดการสำนักงานทนายความ เสนอตัวรับว่าความให้ อีมยองโฮ (รับบทโดย คิมชอลยุน) ลูกความคุณพ่อลูกหนึ่ง ที่ต้องการกลับตัวเป็นคนดีเพื่อเมียและลูกสาว ที่มีคดีล้วงกระเป๋าติดตัวถึงสี่คดี ซึ่งครั้งนี้มยองโฮยืนกรานกับชอนจีฮุนว่า เขาเข้าไปช่วยเพราะเห็นว่าชายคนนั้นเมาและกำลังจะล้มในห้องน้ำ
โดยอัยการที่ทำเรื่องยื่นในฟ้องคดีนี้คือ แบ็คมารี (รับบทโดย คิมจีอึน) จากสำนักอัยการกลาง กรุงโซล และเกลี้ยกล่อมจนอีมยองโฮยอมรับสารภาพในเบื้องต้นมาแล้ว แต่ด้วยลีลาว่าความสู้คดีอันเหนือชั้น และหลักฐานชวนให้อึ้ง ชอนจีฮุนชนะคดี ช่วยให้ อีมยองโฮ พ้นข้อหาไม่ต้องถูกจองจำจากความผิดที่ไม่ได้ก่อ ด้วยคำตัดสินจากคณะลูกขุนอย่างเป็นเอกฉันท์ แถมยังเรียกสินไหมทดแทนให้มยองโฮนำไปเป็นค่าผ่าตัดลูกสาวที่เป็นโรคหัวใจอีกด้วย ถึงแม้จะขัดใจไม่เห็นด้วย แต่มารีก็เปลี่ยนใจไม่ยื่นอุทธรณ์ เธอได้บทเรียนข้อคิดจากนักกฎหมายคู่ต่อสู้อย่างทนายพันวอนติดตัวไปด้วย
สำหรับคุณหนูไฮโซจากตระกูลนักกฎหมาย แบ็คมารี กำลังฝึกงานเป็นเจ้าหน้าที่ตุลาการฝึกหัด และได้รับมอบหมายให้เป็นอัยการในคดีนี้ก่อนจบการฝึก เป็นสาวมั่นและเย่อหยิ่ง คุณปู่ของเธอคือ แบ็คฮยอนมู ผู้ก่อตั้งสำนักกฎหมายชื่อดังอันดับต้นๆ ของประเทศ เรียกว่าชีวิตแสนดีไปหมดทุกสิ่งอย่าง แถมยังมี โอมินอา (รับบทโดย โจยอนฮี) ยอดคุณแม่ คอยเอาใจใส่ดูแล และหน้าที่การงานของเธอดูจะราบรื่นสดใสไปได้ด้วยดี
หลังผ่านการฝึกหัดเจ้าหน้าที่ตุลาการจากสำนักอัยการ มารีมุ่งมั่นและพร้อมที่จะไปเป็นผู้ช่วยทนายที่สำนักงานกฎหมายแบ็คอันใหญ่โตและโด่งดังของ ขณะที่เพื่อนๆ ที่เข้ามารายงานตัวพร้อมๆ กันต่างได้รับการบรรจุและมอบหมายงานตามความถนัดกับทีมทนายกันทุกคน เว้นแต่มารี ที่ได้รับเงื่อนไขจากคุณปู่ประธานแบ็ค ว่าจะได้เป็นผู้ช่วยทนายก็ต่อเมื่อ ไปทำงานเป็นผู้ช่วยของจีฮุนให้ผ่าน เป็นเวลาสองเดือน แบ็คฮยอนมู ยังยื่นคำขาดกับหลานสาวว่า หากทำไม่สำเร็จก็ไม่ต้องทำงานที่นี่
เหตุผลที่ประธานแบ็ค ส่งหลานสาวสุดที่รักไปฝึกงานกับ ชอนจีฮุน ก็เพราะที่สำนักงานทนายความอันยิ่งใหญ่ของท่านประธานไม่มีทนายอย่างชอนจีฮุน และท่านอยากได้ มารีจึงต้องบากหน้ากลับไปขอทำงานกับจีฮุนอีกครั้ง หลังจากเผ่นหนีกลับแทบไม่ทัน เมื่อรู้ว่าต้องมาฝึกงานกับทนายพันวอน คู่ปรับที่ทำให้คดีแรกในฐานะอัยการของเธอต้องพ่ายแพ้ยับเยิน และยังปากแจ๋วใส่ว่าจะไม่ขอฝึกงานเป็นลูกน้องของเขาเด็ดขาด มารีอาศัยลูกตื๊อ จนในที่สุดชอนจีฮุนตัดสินใจทดสอบฝีมือมารี ด้วยการให้เธอเป็นทนายความแก้ต่างให้เขา สู้คดีกับ ชอนยองแบ (รับบทโดย คิมมยองมุก) จอมเอาเปรียบและชอบเหยียดคนที่ไร้ทางสู้
ต้องทำงานในออฟฟิศซอมซ่อ
ไหนจะต้องทนกับความไร้ระเบียบของทนายความจอมสกปรกซกมก แถมติดค้างค่าเช่าห้อง ถูก คุณนายโจอึลรเย (รับบทโดย คิมจางยอง) เจ้าของตึก ทวงรายวัน จนถูกยื่นคำขาดให้ย้ายออก ชีวิตดี๊ดีอันแสนสดใสของคุณหนูมารี ไม่มีวันเหมือนเดิมเมื่อได้ก้าวเข้ามาในชีวิตทนายพันวอน ทุกอย่างที่เคยราบรื่น ก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือในบัดดล แล้วยังมีเรื่องหัวจะปวด จากหนุ่มหล่อโปรไฟล์เลิศ อัยการ ซอมินฮย็อก (รับบทโดย ชเวแดฮุน) ซึ่งผู้ใหญ่ โดยเฉพาะคุณแม่เห็นดีเห็นงาม เร่งให้แต่งงานเกี่ยวดองกัน แต่ใจเธอไม่ได้อยู่กับรุ่นพี่นี่สิ เรื่องมันเลยยุ่งเหยิงไปกันใหญ่
พบกับความฮาที่จัดมาเสิร์ฟจนแน่นศาลกับ ‘One Dollar Lawyer’ ซีรีส์กฎหมายสายฮาที่การันตีความฮาแบบเท่ ๆ และซ่อนดราม่าเอาไว้ให้เจ็บลึกกันได้เลย เมื่อนัมกุงมินนำแสดง เพราะโอปาคนนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวัง กลับมาคราวนี้สลัดคราบสายลับสายโหดมาสวมบทบาทเป็นทนายชั้นเซียนที่เพี้ยนขั้นสุด ด้วยการรับร้องทุกข์ทั่วราชอาณาจักรกับค่าจ้างแค่ 1,000 วอน คดีเล็ก คดีใหญ่ขอเพียงบอกว่าเดือดร้อนทนายคนนี้ก็พร้อมลุยทุกสถานการณ์
‘ชอนจีฮุน’ (นัมกุงมิน) อดีตอัยการที่ผันตัวมาเป็นทนายความ เขาเป็นที่ร่ำลือทั้งในด้านของความยียวนกวนประสาท แหกคอก และวาจาเราะรายอย่างร้ายกาจ ด้วยมาดที่ไม่มีใครเหมือนกับแฟชั่นส่วนตัวทั้งเสื้อผ้าหน้าผมกับแว่นกันแดดสุดเท่ ที่เขาภูมิใจนำเสนอลุคนี้ของตัวเองซะเหลือเกิน แต่ต่อให้ภายนอกเขาจะเป็นแบบไหนก็ตาม ภายในที่เอื้อเฟื้อต่างหากที่ทำให้ชื่อเสียงของเขาเป็นที่รู้จักในแวดวงตุลาการในฐานะทนายหัวกบฏ โดยเฉพาะการอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อนโดยรับค่าจ้างเพียง 1,000 วอนเท่านั้น
เรียกว่าเป็นทนายขวัญใจประชาชนโดยแท้ เห็นแบบนี้อย่าคิดว่าเขาร่ำรวยมาจากไหนเลยนะจ๊ะ เพราะแน่นอนว่าทนายคนจนก็จนไม่แพ้ใครเหมือนกันนั่นแหละ เพราะถึงจะหล่อ เนี๊ยบและเฟี้ยวฟ้าวขนาดไหน ว่าความในศาลจะเก่งกาจสักเท่าไหร่ ก็ยังแพ้คุณป้าเจ้าของห้องเช่าที่มาทวงค่าเช่ายิก ๆ อยู่ร่ำไป งานนี้ฟ้าดินก็จำต้องส่งนางฟ้าในชุดสีชมพูแสบสันมาช่วยพยุงสถานะกันสักหน่อย
ด้วยความบังเอิญที่ต้องไปว่าความในคดีเดียวกัน ทำให้เขาได้เจอกับ ‘แบคมารี’ (คิมจีอึน)
อัยการฝึกหัดหลานสาวคนเก่งของประธานบริหารสำนักงานกฎหมายแบค สองคนเจอกันในฐานะคู่ต่อสู้ในชั้นศาลและแน่นอนว่าแบคมารีแพ้ราบคาบ หนำซ้ำยังต้องแบกหน้ายับ ๆ ไปขอฝึกงานกับชอนจีฮุนซะอีกตามคำสั่งประกาศิตของคุณปู่ ไม่อยากไปก็ต้องไป ไม่อยากร่วมมือก็ต้องร่วมทำไงได้ และการร่วมงานของพวกเขาครั้งนี้ก็ทำให้ต้องพบเจอกับสารพันปัญหา ที่จะยุ่งเหยิงแค่ไหน ให้ความหมายอะไรกับชีวิตกันบ้าง ก็ต้องตามไปเกาะขอบจอรอเชียร์เฮียมินกันนะจ๊ะ แฟน ๆ ทั้งหลาย
แต่ไม่ว่าจะไปทางไหน มาดกวน ๆ ของเขาก็เป็นที่เตะตาชาวบ้านอยู่ร่ำไป ทรงผมที่ดัดเป็นลอนด้วยฝีมือของเขาเอง แฟชั่นส่วนตัวที่ไม่มีใครเหมือน และคงไม่อยากจะเหมือน นี่ก็ไม่รู้ว่าแกจะมาว่าความหรือมาเดินแบบกันแน่ยังสงสัยอยู่ แต่เราอย่าไปสนการแต่งกายภายนอกของแกเลยค่ะ เพราะจิตใจด้านในของทนายชอนจีฮุนนั้นช่างเป็นพ่อพระ ไม่ว่าใครก็ตามที่เดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือ จ่ายค่าจ้างมาราคาเดียวเน็ต ๆ แค่ 1,000 วอนเท่านั้น เป็นรู้เรื่อง
แล้วทนายแปลกประหลาดแบบนี้จะทำงานคนเดียวเหรอคะ ไม่ใช่แน่ ๆ เพราะฉะนั้นเฮียแกจึงมีผู้ช่วยอยู่กับเขาคนหนึ่งคือ ‘ซามูจาง’ (พัคจินอู) หรือผู้จัดการซา เถ้าแก่ร้านซักรีดที่พ่วงตำแหน่งผู้จัดการสำนักงานกฎหมายแบบไร้เงินเดือน เรียกว่าทำเอาบุญ ทดแทนที่ช่วยเหลือกันมาอย่างเต็มใจว่างั้นเถอะ และแน่นอนว่า สวรรค์จะต้องส่งสาวสวยมาช่วยเหลืออีกหนึ่งนาง ก็คนดีขนาดนี้จะปล่อยให้ว้าเหว่ได้ไง
จุดเด่นของ One Dollar Lawyer คือการเลือกใช้โทนคอมเมดี้เป็นตัวชูโรง รีวิวซีรี่ย์ One Dollar Lawyer
เปลี่ยนเรื่องเครียดให้เป็นเรื่องฮาชนิดที่เรียกว่าล้างตำราทุกกระบิ ทำให้เราได้เห็นว่าซีรีส์แนวกฎหมายไม่จำเป็นต้องฟาดฟันเชือดเฉือนเอาเป็นเอาตาย ลองบิดมาเล่าในมุมที่ไม่เหมือนใคร ใส่ความบ้าบอคอแตกเล่นใหญ่ของตัวละครลงไปก็ทำให้เกิดบรรยากาศรูปแบบใหม่ที่ไม่จำเจ สองตอนแรกที่ผ่านไปพอจะเห็นว่าคดีในเรื่องมักมาจากเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน อดีตนักโทษที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นโจรล้วงกระเป๋า รวมทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ถูกลูกบ้านข่มเหงรังแก ซีรีส์เล่าประเด็นเหล่านี้ไปอย่างเบาสบายแต่กลับกระตุ้นความสนใจของเราได้เป็นอย่างดี
แม้จะตั้งใจมาขายฮากันแบบโต้ง ๆ แต่ถึงกระนั้น ทนายพันวอน ยังมีมุมขึงขังจริงจังเมื่อถึงเวลาอันควร ไม่ต้องกลัวว่าความตลกเรื้อนจะมากลบความเข้มข้นในชั้นศาล ยังคงรักษามาตรฐานของซีรีส์แนวนี้ได้อย่างคงเส้นคงวา การตามหาเบาะแสอย่างชาญฉลาดของชอนจีฮุน ข้อโต้แย้งของทั้งสองฝ่ายต่อหน้าผู้พิพากษาที่ทั้งตื่นเต้นและลุ้นจนนั่งไม่ติด ไหนจะบรรดาหลักฐานที่งัดออกมาเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ รวมถึงความประทับใจหลังสิ้นสุดการพิจารณคดีที่ทำเอาน้ำตารื้นไหลไปตามกัน องค์ประกอบเหล่านี้ยังมีอยู่อย่างครบถ้วนโดยไม่รบกวนความสนุกในพาร์ทตลกโปกฮาเลยแม้แต่น้อย