รีวิวซีรี่ย์ Poong The Joseon Psychiatrist (2022)
เรื่องราวจะสะท้อนให้เห็นว่าศาสตร์การรักษาด้านจิตเวชไม่เพียงแต่จะปลอบโยนตัวผู้ป่วยเองเท่านั้น ดูหนังออนไลน์ แต่ยังรวมถึงคนรอบข้างผู้ป่วยซึ่งอยู่ท่ามกลางโลกที่กระตุ้นให้ทุกคนละทิ้งมโนธรรม ดูหนังฟรี โดยซีรีส์จะบอกเล่าเรื่องราวของ ยูเซพุง จิตแพทย์ผู้เกรียงไกรและเก่งกาจในยุคโชซอน ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา
เปิดฉากเล่าเรื่องผ่าน ยูเซยอบ (รับบทโดย คิมมินแจ)
บัณฑิตหนุ่มผู้มีทักษะความสามารถรอบด้านโดยเฉพาะ การแพทย์ เขาร่ำเรียนวิชารักษาผู้ป่วยจนกลายเป็นหัวหน้าหมอฝังเข็มคนดังแห่งโชซอน ทว่าอยู่ดีไม่ว่าดียูเซยอบกลับถูกสกัดดาวรุ่งด้วยการป้ายสีว่าเป็นต้นเหตุทำให้กษัตริย์สิ้นพระชนม์ หากแต่ผู้เป็นพ่อจับไต๋แผนการชั่วร้ายดังกล่าวได้จากมีดกรีดหนองเปื้อนยาพิษจึงสืบหาความจริงเพื่อปกป้องลูกชาย น่าเศร้าที่เขากลับถูกลอบฆ่าก่อนมีโอกาสได้เปิดโปงเบื้องหลังของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ยูเซยอบสูญเสียพ่อจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กลายเป็นคนกะเร่อกะร่าหมดอาลัยตายอยาก ซ้ำยังถูกเนรเทศให้ออกจากเมืองหลวงฮันยางต้องร่อนเร่พเนจรไปจนถึง หมู่บ้านโซรัก ณ ที่แห่งนั้นเขาได้ใช้ชีวิตใหม่ในชื่อ ยูเซพุง และได้พบกับ กเยจีฮัน (รับบทโดย คิมซังกยอง) แพทย์นอกรีตที่รักษาคนไข้ด้วยวิชาแผนโบราณ รวมทั้ง ซออึนอู (รับบทโดย คิมฮยางกี) บุตรสาวตระกูลขุนนางที่ต้องกลายเป็นม่ายและถูกกล่าวหาว่าเป็นคนฆ่าสามี พวกเขาทั้งสามได้ค้นพบวิธีรักษาผู้ป่วยทั้งทางกายและทางใจ ทำให้คนในชนบทได้พบกับการแพทย์ที่ก้าวหน้า พร้อมเผชิญหน้ากับเบาะแสสำคัญที่นำไปสู่การเปิดเผยเรื่องราวความสูญเสียในอดีตของยูเซพุง
พูดได้เต็มปากว่า รีวิวซีรี่ย์ Poong The Joseon Psychiatrist (2022)
เป็นซีรีส์เกาหลีย้อนยุคเพียงไม่กี่เรื่องที่นำเสนอเนื้อหาด้านการแพทย์อย่างเต็มรูปแบบ โฆษณาขายกันโต้ง ๆ ผ่านชื่อเรื่องไปเลยว่าเกี่ยวข้องกับ จิตแพทย์แห่งโชซอน สรรพคุณที่เอื้อนเอ่ยมานี้จึงทำให้หลายคนปักหมุดรอคอยกันมาตั้งแต่ประกาศสร้างเลยด้วยซ้ำ ครั้นเมื่อลงจอออนแอร์ตอนแรกผ่านไปก็ไม่ทำให้ผิดหวัง กลายเป็นความแปลกใหม่ที่เชิญชวนให้เราหลงใหลไปกับวิชาการรักษาคนป่วยอย่างหัวปักหัวปำ
ซีรีส์พาไปสัมผัสประสบการณ์การดูแลคนไข้ผ่าน วิธีฝังเข็ม เป็นหลัก เนื่องจากเป็นวิชาที่พระเอกของเรื่องมุ่งมั่นร่ำเรียนจนเชี่ยวชาญ มีคำศัพท์แปลกใหม่ไม่คุ้นหูเกี่ยวกับเส้นลมปราณบนร่างกายมาให้ตื่นเต้นตาวาวกันเป็นระยะ รวมไปถึงบรรดา สมุนไพร ที่นำมาใช้ปรุงยาและรักษาบาดแผล เชื่อว่าเราจะได้เห็นการนำเสนอแพทย์แผนเกาหลีพื้นบ้านขนานแท้หลากหลายรูปแบบตลอดทั้งเรื่อง บางฉากบางตอนชวนให้นึกถึงซีรีส์ คนดีที่โลกรอ หมอโฮจุน Legendary Doctor Hur Jun (2000) หากแต่เรื่องนี้พิเศษขึ้นด้วยการหยิบวิถีชาวบ้านมาผสมผสานเข้ากับวิชาการแพทย์ของวังหลวงได้อย่างน่าติดตาม
เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ประจำครอบครัวขุนนาง ที่หลังจากนั้นเติบโตไปเป็นจิตแพทย์ในยุคโชซอน นอกจากนั้นเขายังเป็นนักฝังเข็มที่ได้รับความนิยมสูงสุดและเป็นที่โปรดปรานของราชวงศ์ ซึ่งด้วยเหตุผลบางประการทำให้เขาต้องทนทุกข์กับบาดแผลในใจทุกครั้งที่หยิบเข็มขึ้นมา
แก่นสำคัญของ Poong, The Jeseon Psychiatrist ไม่ใช่การรักษาอาการป่วยทางกายเพียงอย่างเดียว
เมื่อตัวละครหลักเป็นหมอด้านจิตเวช เขาจึงต้องทำความเข้าใจบาดแผลของคนไข้มากกว่าที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ตอนแรกที่ออกอากาศผ่านไปได้นำเสนอเรื่องราวของนักแสดงปาหี่ที่พลัดตกจากการเดินบนเชือกจนขาขางหนึ่งได้รับบาดเจ็บ หลังจากยูเซพุงรักษาด้วยการประคบสมุนไพรก็ดูเหมือนว่าเขาจะเดินเหินได้ตามปกติ ทว่ายังไม่วายพลัดตกลงมาซ้ำสองเมื่อลองกลับไปเดินบนเชือกอีกครั้ง ทำให้เราได้เห็นว่าอาการป่วยที่แท้จริงมาจากจิตใจของชายผู้นั้นต่างหาก เขากลัวว่าจะทำผิดพลาดจนถูกหัวเราะเยาะ บาดแผลที่ติดอยู่ในใจจึงส่งผลให้ขาทั้งสองข้างไม่สามารถก้าวเดินได้อย่างมั่นคงนั่นเอง
ป่วยที่กายต้องแก้ที่ใจ จึงเป็นเส้นเรื่องสำคัญที่ซีรีส์พาเราไปสำรวจคนไข้แต่ละเคส ล้วงลึกไปถึงก้นบึ้งว่าคนผู้นั้นเผชิญเหตุการณ์หนักหนาสาหัสมาขนาดไหนจึงทำให้สภาพจิตใจของเขาไม่แข็งแรง ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวละครหลักทั้งสามที่หัวใจยังเต็มไปด้วยบาดแผลเหวอะหวะ โดยเฉพาะยูเซพุงที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยหลังสูญเสียพ่อและถูกใส่ร้ายจนทำให้เขาหวาดกลัวการรักษาคนป่วยไปโดยปริยาย ดังนั้นยาสมานรอยกรีดแทงที่ดีที่สุดอาจไม่ใช่สมุนไพรหายาก หากแต่เป็นการยอมรับความจริงแล้วมุ่งหน้าปลดแอกจากความดำมืดที่ยื้อยุดฉุดรั้งไม่ให้ชีวิตเดินหน้าไปไหนต่างหาก ประเด็นใหญ่อันเป็นกระดูกสันหลังของเรื่องนี้เป็นสาส์นชั้นดีที่ซีรีส์ส่งมาถึงผู้ชม
แน่นอนว่าละครประเภทชีวิตติดปมมักทำให้เราเสียน้ำตาโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะกับเรื่องราวที่เกี่ยวกับโรคซึมเศร้าหรืออดีตอันขมขื่นด้วยแล้ว ต้องยอมรับว่าไม่มีทางเลี่ยงบรรยากาศสไตล์ซีรีส์ดราม่าได้พ้น มาถึงตรงนี้ไม่อยากให้คิดว่า Poong, The Jeseon Psychiatrist จะมีแต่ความโศกเศร้าจนทำเอาดูต่อไม่ไหว เพราะการดำเนินเรื่องที่กระชับฉับไว ทิ้งปมใหญ่เอาไว้ให้ได้ติดตามกันต่อ แถมยังเติมมุกตลกขบขันและความรักโรแมนติกของพระนางมาช่วยชูรสชาติให้กลมกล่อมมากขึ้น ไม่ต้องกลัวว่าจะดำเนินเรื่องไปอย่างน่าเบื่อ ความสนุกรอแจกอย่างเหลือเฟืออยู่แล้ว
อีกหนึ่งสีสันที่ต้องพูดถึงคือ นักแสดง ที่ทำให้มู้ดแอนด์โทนของเรื่องมีชีวิตชีวามากขึ้น คิมมินแจ สลัดภาพเถ้าแก่คัมจาทังจาก Darli & The Cocky Prince (2021) มาเป็นหมอฝังเข็มบุคลิกคมในฝัก สุขุมนุ่มลึก เรียกว่าพลิกบทบาทจากเรื่องที่แล้วซึ่งขี้โวยวายกลายเป็นหนุ่มเงียบขรึมได้อย่างหมดจด ขณะที่ คิมฮยางกี ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าที่เคยเห็น ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่ที่ต้องคอยเอาใจช่วยเพราะตัวละครที่เธอได้รับมีชีวิตที่น่าสงสาร ต้องอาศัยการถ่ายทอดอารมณ์ชั้นสูงกันเลยทีเดียว แต่คนที่เฟี้ยวที่สุดต้องยกให้ คิมซังกยอง ผู้ที่จะมาเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของเรื่องราว บอกเลยว่าความเอะอะมะเทิ่งของเขาต้องทำเอาหลายคนหัวเราะออกมาดัง ๆ แก๊งนี้รวมตัวกันเมื่อไหร่มีแต่เรื่องให้ขำกันน่าดู
เห็นได้ว่า Poong, The Jeseon Psychiatrist เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่มีครบทุกรสชาติ
ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดตำราแพทย์แผนโบราณได้อย่างน่าประทับใจ ตื่นเต้นไปกับการดูแลผู้ป่วยแต่ละเคสที่ต้องลุ้นว่าจะหายดีหรือไม่ ไหนจะปมเบื้องหลังเชื่อมโยงไปสู่การเมืองในวังที่ซากึกเกาหลีจำเป็นต้องมี งานดราม่าชั้นดีที่พาเราไปทำความเข้าใจอาการป่วยทางจิตก่อนจะปิดท้ายด้วยความฟีลกู๊ดกระชากรอยยิ้ม เชื่อว่าความน่ารักของเรื่องนี้จะทำให้ผู้ชมอิ่มอกอิ่มใจกันอย่างแน่นอน
ซ้ำยังถูกเนรเทศให้ออกจากเมืองหลวงฮันยางต้องร่อนเร่พเนจรไปจนถึง หมู่บ้านโซรัก ณ ที่แห่งนั้นเขาได้ใช้ชีวิตใหม่ในชื่อ ยูเซพุง และได้พบกับ กเยจีฮัน (รับบทโดย คิมซังกยอง) แพทย์นอกรีตที่รักษาคนไข้ด้วยวิชาแผนโบราณ รวมทั้ง ซออึนอู (รับบทโดย คิมฮยางกี) บุตรสาวตระกูลขุนนางที่ต้องกลายเป็นม่ายและถูกกล่าวหาว่าเป็นคนฆ่าสามี
พวกเขาทั้งสามได้ค้นพบวิธีรักษาผู้ป่วยทั้งทางกายและทางใจ ทำให้คนในชนบทได้พบกับการแพทย์ที่ก้าวหน้า พร้อมเผชิญหน้ากับเบาะแสสำคัญที่นำไปสู่การเปิดเผยเรื่องราวความสูญเสียในอดีตของยูเซพุงพูดได้เต็มปากว่า Poong, The Jeseon Psychiatrist เป็นซีรีส์เกาหลีย้อนยุคเพียงไม่กี่เรื่องที่นำเสนอเนื้อหาด้านการแพทย์อย่างเต็มรูปแบบ โฆษณาขายกันโต้ง ๆ
ผ่านชื่อเรื่องไปเลยว่าเกี่ยวข้องกับ จิตแพทย์แห่งโชซอน สรรพคุณที่เอื้อนเอ่ยมานี้จึงทำให้หลายคนปักหมุดรอคอยกันมาตั้งแต่ประกาศสร้างเลยด้วยซ้ำ ครั้นเมื่อลงจอออนแอร์ตอนแรกผ่านไปก็ไม่ทำให้ผิดหวัง กลายเป็นความแปลกใหม่ที่เชิญชวนให้เราหลงใหลไปกับวิชาการรักษาคนป่วยอย่างหัวปักหัวปำซีรีส์พาไปสัมผัสประสบการณ์การดูแลคนไข้ผ่าน วิธีฝังเข็ม เป็นหลัก
เนื่องจากเป็นวิชาที่พระเอกของเรื่องมุ่งมั่นร่ำเรียนจนเชี่ยวชาญ มีคำศัพท์แปลกใหม่ไม่คุ้นหูเกี่ยวกับเส้นลมปราณบนร่างกายมาให้ตื่นเต้นตาวาวกันเป็นระยะ รวมไปถึงบรรดา สมุนไพร ที่นำมาใช้ปรุงยาและรักษาบาดแผล เชื่อว่าเราจะได้เห็นการนำเสนอแพทย์แผนเกาหลีพื้นบ้านขนานแท้หลากหลายรูปแบบตลอดทั้งเรื่อง บางฉากบางตอนชวนให้นึกถึงซีรีส์
คนดีที่โลกรอ หมอโฮจุน Legendary Doctor Hur Jun (2000) หากแต่เรื่องนี้พิเศษขึ้นด้วยการหยิบวิถีชาวบ้านมาผสมผสานเข้ากับวิชาการแพทย์ของวังหลวงได้อย่างน่าติดตามเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ประจำครอบครัวขุนนาง ที่หลังจากนั้นเติบโตไปเป็นจิตแพทย์ในยุคโชซอน นอกจากนั้นเขายังเป็นนักฝังเข็มที่ได้รับความนิยมสูงสุดและเป็นที่โปรดปรานของราชวงศ์ ซึ่งด้วยเหตุผลบางประการทำให้เขาต้องทนทุกข์กับบาดแผลในใจทุกครั้งที่หยิบเข็มขึ้นมา
อาการป่วยทางกายเพียงอย่างเดียว เมื่อตัวละครหลักเป็นหมอด้านจิตเวช เขาจึงต้องทำความเข้าใจบาดแผลของคนไข้มากกว่าที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ตอนแรกที่ออกอากาศผ่านไปได้นำเสนอเรื่องราวของนักแสดงปาหี่ที่พลัดตกจากการเดินบนเชือกจนขาขางหนึ่งได้รับบาดเจ็บ หลังจากยูเซพุงรักษาด้วยการประคบสมุนไพรก็ดูเหมือนว่าเขาจะเดินเหินได้ตามปกติ
ทว่ายังไม่วายพลัดตกลงมาซ้ำสองเมื่อลองกลับไปเดินบนเชือกอีกครั้ง ทำให้เราได้เห็นว่าอาการป่วยที่แท้จริงมาจากจิตใจของชายผู้นั้นต่างหาก เขากลัวว่าจะทำผิดพลาดจนถูกหัวเราะเยาะ บาดแผลที่ติดอยู่ในใจจึงส่งผลให้ขาทั้งสองข้างไม่สามารถก้าวเดินได้อย่างมั่นคงนั่นเองป่วยที่กายต้องแก้ที่ใจ จึงเป็นเส้นเรื่องสำคัญที่ซีรีส์พาเราไปสำรวจคนไข้แต่ละเคส
ล้วงลึกไปถึงก้นบึ้งว่าคนผู้นั้นเผชิญเหตุการณ์หนักหนาสาหัสมาขนาดไหนจึงทำให้สภาพจิตใจของเขาไม่แข็งแรง ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวละครหลักทั้งสามที่หัวใจยังเต็มไปด้วยบาดแผลเหวอะหวะ โดยเฉพาะยูเซพุงที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยหลังสูญเสียพ่อและถูกใส่ร้ายจนทำให้เขาหวาดกลัวการรักษาคนป่วยไปโดยปริยาย ดังนั้นยาสมานรอยกรีดแทงที่ดีที่สุดอาจไม่ใช่สมุนไพรหายาก
หากแต่เป็นการยอมรับความจริงแล้วมุ่งหน้าปลดแอกจากความดำมืดที่ยื้อยุดฉุดรั้งไม่ให้ชีวิตเดินหน้าไปไหนต่างหาก ประเด็นใหญ่อันเป็นกระดูกสันหลังของเรื่องนี้เป็นสาส์นชั้นดีที่ซีรีส์ส่งมาถึงผู้ชมแน่นอนว่าละครประเภทชีวิตติดปมมักทำให้เราเสียน้ำตาโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะกับเรื่องราวที่เกี่ยวกับโรคซึมเศร้าหรืออดีตอันขมขื่นด้วยแล้ว
ต้องยอมรับว่าไม่มีทางเลี่ยงบรรยากาศสไตล์ซีรีส์ดราม่าได้พ้น มาถึงตรงนี้ไม่อยากให้คิดว่า Poong, The Jeseon Psychiatrist จะมีแต่ความโศกเศร้าจนทำเอาดูต่อไม่ไหว เพราะการดำเนินเรื่องที่กระชับฉับไว ทิ้งปมใหญ่เอาไว้ให้ได้ติดตามกันต่อ แถมยังเติมมุกตลกขบขันและความรักโรแมนติกของพระนางมาช่วยชูรสชาติให้กลมกล่อมมากขึ้น ไม่ต้องกลัวว่าจะดำเนินเรื่องไปอย่างน่าเบื่อ ความสนุกรอแจกอย่างเหลือเฟืออยู่แล้ว
จึงเป็นเส้นเรื่องสำคัญที่ซีรีส์พาเราไปสำรวจคนไข้แต่ละเคส ล้วงลึกไปถึงก้นบึ้งว่าคนผู้นั้นเผชิญเหตุการณ์หนักหนาสาหัสมาขนาดไหนจึงทำให้สภาพจิตใจของเขาไม่แข็งแรง ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวละครหลักทั้งสามที่หัวใจยังเต็มไปด้วยบาดแผลเหวอะหวะ โดยเฉพาะยูเซพุงที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยหลังสูญเสียพ่อและถูกใส่ร้ายจนทำให้เขาหวาดกลัวการรักษาคนป่วยไปโดยปริยาย
ดังนั้นยาสมานรอยกรีดแทงที่ดีที่สุดอาจไม่ใช่สมุนไพรหายาก รีวิวซีรี่ย์ Poong The Joseon Psychiatrist (2022)
หากแต่เป็นการยอมรับความจริงแล้วมุ่งหน้าปลดแอกจากความดำมืดที่ยื้อยุดฉุดรั้งไม่ให้ชีวิตเดินหน้าไปไหนต่างหาก ประเด็นใหญ่อันเป็นกระดูกสันหลังของเรื่องนี้เป็นสาส์นชั้นดีที่ซีรีส์ส่งมาถึงผู้ชมแน่นอนว่าละครประเภทชีวิตติดปมมักทำให้เราเสียน้ำตาโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะกับเรื่องราวที่เกี่ยวกับโรคซึมเศร้าหรืออดีตอันขมขื่นด้วยแล้ว ต้องยอมรับว่าไม่มีทางเลี่ยงบรรยากาศสไตล์ซีรีส์ดราม่าได้พ้น มาถึงตรงนี้ไม่อยากให้คิดว่า Poong, The Jeseon Psychiatrist จะมีแต่ความโศกเศร้าจนทำเอาดูต่อไม่ไหว เพราะการดำเนินเรื่องที่กระชับฉับไว
ทิ้งปมใหญ่เอาไว้ให้ได้ติดตามกันต่อ แถมยังเติมมุกตลกขบขันและความรักโรแมนติกของพระนางมาช่วยชูรสชาติให้กลมกล่อมมากขึ้น ไม่ต้องกลัวว่าจะดำเนินเรื่องไปอย่างน่าเบื่อ ความสนุกรอแจกอย่างเหลือเฟืออยู่แล้วอีกหนึ่งสีสันที่ต้องพูดถึงคือ นักแสดง ที่ทำให้มู้ดแอนด์โทนของเรื่องมีชีวิตชีวามากขึ้น คิมมินแจ สลัดภาพเถ้าแก่คัมจาทังจาก Darli & The Cocky Prince (2021) มาเป็นหมอฝังเข็มบุคลิกคมในฝัก สุขุมนุ่มลึก เรียกว่าพลิกบทบาทจากเรื่องที่แล้วซึ่งขี้โวยวายกลายเป็นหนุ่มเงียบขรึมได้อย่างหมดจด ขณะที่ คิมฮยางกี ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าที่เคยเห็น ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่ที่ต้องคอยเอาใจช่วยเพราะตัวละครที่เธอได้รับมีชีวิตที่น่าสงสาร
ต้องอาศัยการถ่ายทอดอารมณ์ชั้นสูงกันเลยทีเดียว แต่คนที่เฟี้ยวที่สุดต้องยกให้ คิมซังกยอง ผู้ที่จะมาเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของเรื่องราว บอกเลยว่าความเอะอะมะเทิ่งของเขาต้องทำเอาหลายคนหัวเราะออกมาดัง ๆ แก๊งนี้รวมตัวกันเมื่อไหร่มีแต่เรื่องให้ขำกันน่าดูเห็นได้ว่า Poong, The Jeseon Psychiatrist เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่มีครบทุกรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดตำราแพทย์แผนโบราณได้อย่างน่าประทับใจ ตื่นเต้นไปกับการดูแลผู้ป่วยแต่ละเคสที่ต้องลุ้นว่าจะหายดีหรือไม่ ไหนจะปมเบื้องหลังเชื่อมโยงไปสู่การเมืองในวังที่ซากึกเกาหลีจำเป็นต้องมี งานดราม่าชั้นดีที่พาเราไปทำความเข้าใจอาการป่วยทางจิตก่อนจะปิดท้ายด้วยความฟีลกู๊ดกระชากรอยยิ้ม
เชื่อว่าความน่ารักของเรื่องนี้จะทำให้ผู้ชมอิ่มอกอิ่มใจกันอย่างแน่นอนซ้ำยังถูกเนรเทศให้ออกจากเมืองหลวงฮันยางต้องร่อนเร่พเนจรไปจนถึง หมู่บ้านโซรัก ณ ที่แห่งนั้นเขาได้ใช้ชีวิตใหม่ในชื่อ ยูเซพุง และได้พบกับ กเยจีฮัน (รับบทโดย คิมซังกยอง) แพทย์นอกรีตที่รักษาคนไข้ด้วยวิชาแผนโบราณ รวมทั้ง ซออึนอู (รับบทโดย คิมฮยางกี) บุตรสาวตระกูลขุนนางที่ต้องกลายเป็นม่ายและถูกกล่าวหาว่าเป็นคนฆ่าสามีพวกเขาทั้งสามได้ค้นพบวิธีรักษาผู้ป่วยทั้งทางกายและทางใจ ทำให้คนในชนบทได้พบกับการแพทย์ที่ก้าวหน้า พร้อมเผชิญหน้ากับเบาะแสสำคัญที่นำไปสู่การเปิดเผยเรื่องราวความสูญเสียในอดีตของยูเซพุงพูดได้เต็มปากว่า Poong, The Jeseon Psychiatrist
เป็นซีรีส์เกาหลีย้อนยุคเพียงไม่กี่เรื่องที่นำเสนอเนื้อหาด้านการแพทย์อย่างเต็มรูปแบบ โฆษณาขายกันโต้ง ๆผ่านชื่อเรื่องไปเลยว่าเกี่ยวข้องกับ จิตแพทย์แห่งโชซอน สรรพคุณที่เอื้อนเอ่ยมานี้จึงทำให้หลายคนปักหมุดรอคอยกันมาตั้งแต่ประกาศสร้างเลยด้วยซ้ำ ครั้นเมื่อลงจอออนแอร์ตอนแรกผ่านไปก็ไม่ทำให้ผิดหวัง กลายเป็นความแปลกใหม่ที่เชิญชวนให้เราหลงใหลไปกับวิชาการรักษาคนป่วยอย่างหัวปักหัวปำซีรีส์พาไปสัมผัสประสบการณ์การดูแลคนไข้ผ่าน วิธีฝังเข็ม เป็นหลัก