รีวิวซีรี่ย์ Racket Boys
Racket Boys ซีรีส์เรื่องใหม่ทาง Netflix ซีรีส์แนว คอมเมดี้ กีฬา กับการไล่ตามฝันของวัยหนุ่มสาว ผลงานการเขียนบทของ จองโบฮุน จากเรื่อง Prison Playbook โดยซีรีส์เปิดตอนแรกมาได้สนุกเลย การดำเนินเรื่องไม่น่าเบื่อ มีมุขตลกร้ายแบบในเรื่อง Prison Playbook ให้เห็น ดูไปก็นั่งหัวเราะไป ดูหนัง
โดยในตอนที่ 1 ซีรีส์จะเล่าเรื่องราวของการมายังเมืองแฮนัมของแฮกัง อดีตสมาชิกทีมเบสบอลที่มีฝีมือ เขาต้องย้ายจากโซลมายังแฮนัมโดยไม่เต็มใจ เพราะต้องตามพ่อของเขาที่ต้องย้ายมาเป็นโค้ชให้กับทีมแบดมินตันโรงเรียนมัธยมต้นแฮนัม ซึ่งเป็นทีมที่กำลังถูกยุบ โดยตอนเริ่มต้นทีมแบดมินตันมีสมาชิกเพียง 3 คน เท่านั้น ได้แก่ พังยุนดัม นาอูชาน และอียงแท แต่ยังขาดสมาชิกอีก 1 คน ถึงจะสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ ดูหนังออนไลน์
Racket Boys เป็นซีรี่ย์แนวกีฬาที่มีความยาวตอนละ 90 นาทีต่อตอน จัดเต็มครบทุกรสชาติ มาครบไม่ขาดตอน รวมเอาไว้ซึ่งครบทุกอย่างจริงๆ กับเรื่องราวการวิ่งตามความฝันเด็กๆชนบทในหมู่บ้านที่ห่างไกล ซีรี่ย์จะพูดถึงเรื่องราวของ ยุนฮยองจง โค้ชแบดมินตันที่ไปค้ำประกันให้เพื่อนจนตัวเองต้องหาเงินมาคืนสายตัวแทบขาด แต่เนื่องจากเขาต้องแบกรับภาระมากมาย ดูหนัง 4k
ไม่ว่าจะค่ารักษาพยาบาลลูกสาวคนเล็ก ค่ากินค่าเช่าบ้าน และค่าเล่นเบสบอลของลูกชายคนโตอย่าง ยุนแฮกัง (รับบทโดย ทังจุนซัง) ทำให้สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจย้ายครอบครัวไปยังชนบทเพื่อไปเป็นโค้ชให้กับทีมแบดมินตันของโรงเรียนมัธยมต้นแฮนัม โรงเรียนที่เคยเป็นอันดับ 1 ทางด้านแบดมินตัน แต่ในระยะหลังกลับถดถอยลงและไม่เคยเป็นแชมป์ได้อีกจนทำให้ถูกยุบหอพัก ไม่มีงบสนับสนุน และร้ายแรงที่สุดคือกำลังจะถูกยุบทีม! ดูหนังออนไลน์ 4k
แม้ว่าในตอนนี้การอยู่ในตำแหน่งโค้ชจะได้รับเงินเดือนแต่ไม่ใช่ว่าเขาจะได้รับเงินเดือนตลอดไป ชะตาชีวิตของโค้ชยุนและครอบครัวจึงถูกแขวนไว้บนเส้นด้าย เดิมพันด้วยการลงแข่งขันของทีมแบดมินตัน แต่ปัญหาก็ยังไม่จบเพียงเท่านี้เพราะในการแข่งขันจะต้องมีสมาชิกในทีมแบด 4 คนขึ้นไป แต่คนในทีมดันมีไม่ถึงซะนี่!! แถมยุนแฮกัง ลูกชายสุดหัวร้อนของโค้ชยุนที่เป็นถึงอดีตนักกีฬาแบดมินตันรุ่นเยาวชนที่กวาดรางวัลมาทุกสนาม รีวิวซีรี่ย์
ถึงจะเคยเก่งขนาดไหน แต่หากนักกีฬาขาดการฝึกฝนก็ไม่สามารถคงความสามารถที่มีทั้งหมดไว้ได้… ในการลงแข่งขันแมตซ์แรกยุนแฮกังแพ้ให้กับเด็กประถมไปอย่างหมดรูป นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่จุดไฟให้แฮกังอยากกลับมาเล่นแบดมินตันอีกครั้ง ทำให้การเดินทางเข้าสู่ความฝันที่จำต้องละทิ้งไปในอดีตของแฮกังได้เริ่มต้นใหม่ และในครั้งนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปเพราะแฮกังจะมีเพื่อนร่วมทางที่เป็นเสมือนครอบครัวคอยเดินเคียงข้างเขาไปด้วย
ซีรีส์แนวดราม่ากีฬาแบดมินตัน ที่เล่าเรื่องในช่วงวัยรุ่นของเด็กในชนบทที่มีฝันถึงการแข่งระดับชาติ โดยมีจุดเด่นของเรื่องอยู่ที่นักแสดงเด็กที่พึ่งเล่นเป็นตัวเอกในเรื่อง Move to Heaven มาเล่นเป็นตัวเอกหลักในเรื่องนี้ติดๆ กัน ซึ่งถ้าใครเป็นแฟนของ Tang Joon-Sang ก็ติดตามดูได้เลย
สำหรับคนที่อยากดูแนวกีฬาเข้มๆ อันนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แบบนั้น ตัวเรื่องเป็นแนวดราม่าการเข้าร่วมทีมของ ยุนแฮกัง นักกีฬาเบสบอลพรสรรค์ที่ต้องมาติดอยู่ในโรงเรียนชนบทที่ไม่ได้เน้นเบสบอล และที่นี่เองพ่อของแฮกังก็ได้มาเป็นโค้ชปลุกปั้นทีมที่ใกล้ถูกยุบ แต่เพราะโรงเรียนนี้ในอดีตมีชื่อเสียงเรื่องแบดมินตัน นี่จึงเป็นความหวังเฮือกสุดท้ายที่ต้องทำให้ได้
แต่ปัญหาคือแฮกังเองเป็นพวกปากร้าย ขี้โมโห พูดไม่ตรงกับใจ แล้วก็ยังอยากกลับไปเล่นเบสบอลอยู่ ก็เลยเป็นดราม่าการทะเลาะเบาะแว้งกับคนรอบข้างต่างๆ โดยมีปมในอดีตท่ีเกี่ยวเนื่องกับฮกะแบดมินตันของแฮกัง เมื่อพ่อแม่ก็เป็นโค้ชแบดมินตันทั้งคู่ แต่ทำไมเขาไม่คิดจะเล่นแบดมินตันและหันไปเล่นเบสบอลจนรุ่ง แต่ดันโดนย้ายโรงเรียนซะก่อนจะประสบความสำเร็จ
ตัวละครหลักนอกจากแฮกังก็คือพ่อของเขาที่เป็นโค้ชให้ทีม (รับบทโดย Kim Sang-Kyung) แต่เขากลับเป็นคนที่ไม่ได้เก่งหรือมีความทุ่มเทให้กับงานมาก ซึ่งตัวเรื่องพ่อกับแฮกังคือสองตัวละครที่ฟัดกันด้วยวาจาตลอด มีความไม่ลงรอยกัน แต่ก็ไม่ได้เกลียดกัน ซึ่งพ่อเองจากที่มาคุมทีมนี้เพื่อหาเงินล้วนๆ แต่ก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองไปด้วย เมื่อเห็นเด็กๆ ในทีมมีความทุ่มเทให้กับแบดมินตันมากกว่าเขาซะอีก และยังมีหัวหน้าโค้ชที่คอยผลักดันเขาให้ทำทีมให้สำเร็จอีกทาง
มาถึงตรงนี้แล้ว ต้องขอคารวะคนเขียนบทเลยจริง ๆ จาก Prison Playbook มา Racket Boys เป็นการพลิกธีมเรื่องจากการตีแผ่ความขมขื่นของชีวิตที่เคล้าไปด้วยเสียงหัวเราะ รอยยิ้มและคราบน้ำตาของเหล่านักโทษในคุกที่สอนให้เห็นถึงความเป็นชีวิตที่ไม่แน่นอน ทุกคนล้วนมีสีเทาในตัวของตัวเอง มาเป็นซีรีส์แนววิ่งตามความฝันของเด็กวัยมัธยมต้นผู้มีไฟแรงกล้า ล้อมรอบไปด้วยบรรยากาศการใช้ชีวิตและความคิดของผู้คนในชนบทอันแสนห่างไกล
ในแต่ละตอนก็สอดแทรกข้อคิดไว้เยอะมาก ๆ อย่างในตอนที่ 2 เราจะได้เรียนรู้ว่าการใจดีกับคนอื่นบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแย่ เพราะบางครั้งน้ำใจที่เรียบง่ายก็สามารถช่วยชีวิตคน ๆ นึงได้แล้ว ในตอนที่ 7 จะเห็นถึงความเป็นจริงของนักกีฬาที่หนีไม่พ้นระบบอุปถัมภ์ที่ต้องอาศัยเส้นสายและคะแนนพิศวาส หรือในตอนที่ 10 ที่จะพาเราไปเห็นว่า ‘คำพูด’ ก็สามารถกลายมาเป็นอาวุธที่ทำร้ายใจคนอื่นได้อย่างโหดร้ายที่สุดได้เช่นกัน
รีวิวซีรี่ย์ Racket Boys
แม้ธีมเรื่องจะต่างกันมากแต่ลายเซ็นของคนเขียนบทยังคงชัดเจน ทั้งการเล่าเรื่องตลกร้ายให้กลายเป็นฟีลกู๊ด การเล่นมุกแบบโบ๊ะบ๊ะที่จู่ ๆ ก็โผล่มาแต่กลับฮาจนน้ำตาไหล การวางคาแรคเตอร์ตัวละครที่เมื่ออยู่รวมกันยิ่งจะส่งเสริมกันอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเวลาแก๊งเด็กแบดที่อยู่ด้วยกันที่ไรคือมันเต็มไปด้วยความน่ารัก น่าเอ็นดู รู้สึกถึงความเป็นทีม มันคือมิตรภาพคือกลุ่มคนที่จะร่วมฝ่าฟันและก้าวผ่านอุปสรรคข้างหน้าไปด้วยกัน ซึ่งการันตีได้เลยว่ามันดีมาก!
ฮันเซยุน ออกเดินทางไปแข่งขันแบดมินตันระดับนานาชาติ แต่เธอต้องแบกรับความคาดหวังจากคนรอบข้าง ที่มีต่อเธอว่าเธอจะต้องชนะ เธอจึงรู้สึกกดดันตัวเอง กลัวตัวเองจะไม่ได้เป็นในแบบที่คนอื่นคาดหวัง เธอได้ดูคลิปกำลังใจจากเพื่อน ๆ ที่อัดคลิปมาให้เธอ เธอดูไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข จนถึงข้อความจากแฮกัง เขาขอโทษเธอในเรื่องที่ผ่านมา และเขาบอกกับเธอว่า “แพก็ไม่เป็นไรนะ” นี่คงเป็นคำพูดที่เธออยากได้ยินที่สุดจากใครสักคนในช่วงเวลานั้น
นอกจากทีมชายแล้วตัวเรื่องก็มีทีมหญิงมาเป็นตัวละครสำคัญด้วยก็คือแม่ของแฮกัง (รับบทโดย Oh Na-Ra) ที่คุมทีมหญิงในเมืองเล็กๆ นี้เช่นกัน ซึ่งแม่เองก็มีปมกับแฮกังอยู่ลึกๆ เพราะชีวิตที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กจนมีน้องสาวอีกคน แม่กลับทุ่มเทให้กับแบดมินตันมากกว่าเขาหรือครอบครัวซะอีก ซึ่งแม่ของแฮกังมีนักกีฬาดาวรุ่งอยู่คนหนึ่งคือ เซยุน (รับบทโดย Lee Jae-In) ที่ฝีมือระดับที่ 1 ของประเทศ
และเซยุนก็เป็นนางเอกของเรื่องนี้คู่กับแฮกัง โดยทั้งคู่แม้ตอนแรกไม่ถูกชะตากัน แต่ลึกๆ แล้วกลับมีความสัมพันธ์ในอดีตซ่อนอยู่ ซึ่งบทของเซยุนกับแฮกังคือเลิฟไลน์แบบเบาๆ ตามประสาเด็ก ม.ต้น เรียกว่าเป็นรักแรกที่แอบรักโดยไม่กล้าเปิดเผย ซึ่งเรื่องทำออกมาได้น่าลุ้นน่ารักตามประสาเด็กวัยนี้ได้ดีเลย
นอกจากตัวละครหลักที่กล่าวมาแล้ว ตัวเรื่องก็มีบทสมทบหรือตัวเอกร่วมก็ว่าได้คือเพื่อนร่วมทีมของแฮกัง 3 คน (ตอนที่ 4 จะมีเพิ่มมาอีกคน) ซึ่งประกอบไปด้วย พัง ยุนดัม (รับบทโดย Son Sang-Yeon) เป็นมือหนึ่งของทีมคู่กัดแฮกัง นา อูซาน (รับบทโดย Choi Hyun-Wook) คนที่อ่อนสุดในทีมเพราะพึ่งมาเล่นแบดมินตันภายหลัง คนสุดท้ายคือ ลี ยงแท (รับบทโดย Kim Kang-Hoon) น้องเล็กสุดในทีม
การเลือกนักแสดงของเรื่องนี้ก็จับมัดรวมนักแสดงเด็กอนาคตไกลที่แต่ละคนอายุไม่ถึง 20 มาแสดงฝีไม้ลายมือได้อย่างหมดจด อย่าง ทังจุนซัง ที่เพิ่งฝากผลงานปัง ๆ ในบท ฮันกือรู ใน ‘Move to Heaven‘ เรื่องนี้ก็ได้กลับมารับบทหลักอีกครั้งในบทของ ยุนแฮกัง เด็กผู้ชายที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ทางด้านกีฬา อารมณ์ร้อน ปากแข็ง ขี้โวยวาย และรักในการแข่งขัน แต่อีกด้านเขากลับเป็นเด็กผู้ชายที่ละเอียดอ่อนที่เอาใจใส่คนรอบข้างอยู่เสมอ
น้อง คิมคังฮุน ที่พลิกบทบาทขั้นสุดจากเด็กที่มียีนส์ไซโคพาธใน ‘Mouse‘ มาเป็นน้อง อียองแท น้องเล็กของกลุ่มผู้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับแบดมินตันที่เขาไม่รู้ แถมยังพูดมากและคลั่งรักนักแบดอียองแดมาก ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นที่รักของพี่ ๆ ในทีม และสนิทกับอูชานมาก ๆ ก็คือเห็นอูชานที่ไหนก็ย่อมเห็นยงแทที่นั่นเลย
ชเวฮยอนอุค ที่พลิกจากบทเด็กตัวแสบในเรื่อง ‘Taxi driver‘ มาเป็น นาอูชาน ไนซ์กายประจำทีมที่รู้จักคนไปทั่ว คลั่งเพลงฮิปฮอป อบอุ่น และละเอียดอ่อน ลูกชายของครอบครัวทหารที่ดูเหมือนพ่อจะไม่สนับสนุนให้เขาเล่นกีฬาเท่าไหร่นัก ซนซังฮยอน ในบท บังยุนดัม กัปตันทีมที่มีความรับผิดชอบสูง ผลพวงจากการเป็นลูกคนโตของบ้านที่มีน้องมากถึง 5 คน โดยเขามีความใฝ่ฝันอันสูงสุดคือจะต้องมียอดฟอลโลเวอร์ในอินสตาแกรมให้ถึง 100,000 คนให้ได้!
นอกจากทีมนักกีฬาเด็กกับโค้ชแล้ว ยังมีเนื้อเรื่องเสริมเป็นผู้คนที่อยู่ในชนบทที่เข้ามาเกี่ยวกับทีมแบดมินตันอ้อมๆ อย่างตายายที่แฮกังเจอตอนแรก และกลายมาเป็นความสัมพันธ์อันดี จากที่ยายมีไวไฟให้ใช้ฟรีๆ หรือคู่สามีภรรยาที่หมดอาลัยในชีวิตมาอยู่บ้านนอก ก็ได้ผู้คนที่นี่เยียวยาใจจนกลายเป็นมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเรื่องถ่ายทอดความเป็นชนบทแท้ๆ สังคมเกษตรปลูกผัก หาเลี้ยงชีวิตแบบบ้านๆ แต่ก็มีรายได้พอเลี้ยงตัวสบายๆ