รีวิวซีรี่ย์ Reply 1988
รีวิวซีรี่ย์ Reply 1988 ซีรี่ส์บอกเล่าเรื่องราวในช่วงปี 1988 ของกลุ่มเพื่อนสนิท 5 คนที่รักและผูกพันกันมาก เพราะอาศัยอยู่ละแวกบ้านเดียวกันและเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ประกอบไปด้วย ด็อกซอน (รับบทโดย ฮเยริ) สาวคนเดียวในกลุ่มที่นิสัยร่าเริงสนุกสนานเฮฮาแก่นเซี้ยวตามวัย ครอบครัวอบอุ่นแต่ฐานะยากจนและอาศัยอยู่ชั้นใต้ดินของบ้าน จองฮวัน (รับบทโดย รยูจุนยอล) หนุ่มเงียบขรึมไม่ค่อยแสดงความรู้สึกแต่จิตใจดี
ชายหนุ่มที่สนุกสนานไปวัน ๆ ครอบครัวมีฐานะมั่นคงแต่พ่อแม่ทำงานเยอะจนไม่มีเวลาจึงทิ้งไว้ให้แต่เงิน ทั้ง 4 คนนี้ยังเป็นนักเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย และคนสุดท้าย แทค (รับบทโดย พัคโบกอม) หนุ่มเชื่องช้าพูดน้อยน่ารักจริงใจและเป็นนักเล่นหมากล้อมมืออาชีพที่มีความสามารถ ได้แชมป์มามากมายนับไม่ถ้วน จนถึงกับลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาเอาดีทางนี้ ครอบครัวนี้มีพ่อเป็นคนเลี้ยงลูกคนเดียวเช่นเดียวกันและเป็นเจ้าของร้านขายนาฬิกา ฐานะค่อนข้างดี
ความสนิทสนมกลมเกลียวกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่สู่รุ่นลูก ทำให้เกิดเรื่องราวมากมาย ทั้งตลกขบขัน ,สนุกสนานเฮฮา และซึ้งกินใจ ซีรี่ส์นี้จะทำให้เรื่องราวชีวิตของเหล่าคนธรรมดา ๆ เหล่านี้ กลายเป็นเรื่องราวที่ทำให้น่าจดจำและประทับใจไปอีกนานแสนนาน ดูหนังออนไลน์
ซีรี่ส์ตระกูล Reply ที่มีภาคนี้เป็นภาคที่ 3 ก่อนหน้ามี Reply 1997 ออกอากาศปี 2012 เป็นภาคแรก และ Reply 1994 ออกอากาศปี 2013 เป็นภาคถัดมา ทั้ง 3 ภาคเนื้อหาไม่เกี่ยวกัน (สำหรับใครที่ยังไม่เคยดูมาก่อน สามารถดูแยกกันได้) แต่มีความเหมือนกันบางอย่าง ของทั้ง 3 ภาคซึ่งทำให้ดูมีความเกี่ยวข้องกันกลายๆ ทีมผู้สร้างสามารถสร้างกิมมิกให้กับเรื่อง ซึ่งทำให้ซีรีส์ตระกูล Reply ให้ไม่เหมือนใคร และเป็นที่น่าจดจำ
การกลั่นกรองจากความประทับใจให้ออกมาเป็นตัวอักษรนั้นมันจะพิเศษ เพราะมันคือความประทับใจมิใช่แค่ความสนุก ซึ่งในความประทับใจในแนวทางของความสวยงามของเรื่องราว ผู้เขียนเองมี When The Camellia Blooms ที่เป็นหนึ่งของด้านมิติทางอารมณ์ ที่มีครบทุกประการกระทั่งความหมองหม่นและสืบสวน มี My Mister ที่เสนอความรันทดได้อย่างงดงามและมีแสงสว่าง มี Prison Playbook ที่มีความเป็นผู้เป็นคนในการมองโลก ด้วยความหวังหลังชีวิตเจอมรสุม สุดท้ายผู้เขียนได้ก็มาเจอกับความงดงามใสๆจนได้ ที่ว่าใสหาใช่ความว่างเปล่าไม่
แต่มันคือความใสสะอาดในความงดงามของมิติเชิงอารมณ์ ที่มองเห็นได้ถึงก้นบ่อว่านี่คือความสะอาด แม้เรื่องราวจะเสนอในความหลากหลาย หากแต่อิ่มใจได้ในทุกประเด็น มอบทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะและขอบตาร้อนชื้นด้วยความตื้นตันในทุกตอน กับอีกหนึ่งงานซีรี่ส์เกาหลีที่ผู้เขียนรัก ต้องมอบคำว่ายอดเยี่ยมให้อย่างเต็มใจ Reply 1988
ซังมุนดง ซอย 20-2 กรุงโซล ปี 1988 คือสถานที่ที่เรื่องราวความประทับใจนี้เกิดขึ้น เพื่อนซี้ห้าคนที่โตมาด้วยกัน แทบจะกินนอนด้วยกันประกอบด้วย ซองด็อกซอน (ฮเยริ)ซองซอนอู (โกคยองพโย)ชเวแท็ก (พัคโบกอม)คิมจองฮวาน (รยูจุนยอล) และ รยูดงรยง (อีดงฮวี) ที่ทั้งหมดอายุเท่ากัน เรียนอยู่ในระดับมัธยมปลายเหมือนกัน มีเพียง แท็ก ที่เป็นนักเล่นโกะ (หมากล้อม) มืออาชีพระดับเซียนหกดั้งเท่านั้น ทุกคนโตมาด้วยกันบ้านเรือนเคียงกัน เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันช่วยเหลือเกื้อกูลกันเสมอมาในทุกเรื่อง ด็อกซอน เป็นลูกสาวครอบครัวชนชั้นกลางที่กำลงย่ำแย่ ดูหนัง
เธอเป็นลูกคนกลางที่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ซอนอู คือครอบครัวชนชั้นล่าง ที่สูญเสียพ่อและอยู่ด้วยเงินบำนาญอย่างกระเบียดกระเสียน แต่มีความสุขกับน้องสาวอีกคน แท็ก คือคนที่อยู่กับพ่อเพียงสองคนที่ แม้จะมีเงินมากมายแต่ก็ใช้ชีวิตอย่างสมถะ จองฮวาน คือลูกคนเล็กของครอบครัวที่รวยที่สุดในซอยแต่ก็เปี่ยมล้นด้วยน้ำใจ ดงรยง คือลูกครูใหญ่ที่ทุกอย่างที่เป็นตัวเขา ขัดใจผู้เป็นพ่อทุกทางและมีแม่ที่ทำแต่งานจนละเลยครอบครัว
รีวิวซีรี่ย์ Reply 1988
ทั้งหมดคือการเล่าเรื่องราวของการใช้ชีวิตวัยรุ่นของเหล่าลูกๆของทุกครอบครัว ที่แม้จะต่างกันแต่ก็อยู่ร่วมกันได้ และเรื่องราวเดินทางไปผ่านการก้าวข้ามพ้นวัยของพวกเขาที่สนุกสาน เฮฮาตามประสาวัยรุ่น แต่ทั้งเรื่องราวที่ดูคล้ายกับไม่มีอะไร แต่กลับมีอะไรมากมายในทุกๆตอนด้วยมิติทางเรื่องราวที่หลากหลายให้เล่า ให้มุมมองการใช้ชีวิตในบริบทของสังคมเกาหลี ผ่านเหตุการณ์ต่างๆที่สำคัญๆไปเรื่อยๆ ด้วยความใสสะอาดดูเหมือนไม่มีอะไร แต่เล่าเรื่องตามวัยของพวกเขาไปเรื่อยๆนั้น แม้ไม่มีอะไรบีบคั้นแต่มันกลับน่าติดตามในทุกเรื่องราว ประเด็นย่อยๆระหว่างทางที่แสนธรรมดา และอาจเกิดขึ้นกับครอบครัวไหนก็ได้ แต่ทว่า มันลึกซึ้ง
ว่ากันตามตรงคือเส้นเรื่องไม่มีอะไรเลย เหมือนขีดเส้นตรงตามไม้บรรทัดไปตรงๆ คือการเล่าเรื่องของผองเพื่อนวัยเยาว์ ที่โตมาด้วยกันก้าวผ่านพ้นวัยมาด้วยกัน และจบลงที่ทุกคนแยกย้ายกันตามเส้นทางของตน ด้วยการนำเสนอที่เรียกได้ว่าใสสะอาดที่สุด ไม่มีเรื่องเชิงลบหรือหนักหน่วงทำร้านจิตใจในแกนเรื่องเลย แต่บทก็เยี่ยมมากที่จะทำเรื่องที่ใสๆ ตรงๆ ไม่มีตัวร้ายไม่มีนางอิจฉาเรื่องนี้ ให้มีมิติเชิงลึกได้ในทุกตอน การใส่ประเด็นรายทางมาให้ผู้ชมได้สัมผัสในแต่ละตอน มันจับต้องและสัมผัสได้และเข้าถึงอารมณ์ผู้ชมตรงกลางใจทุกประเด็นชนิดตัดขั้วหัวใจ ซึ่งถ้าบทไม่แข็งแรง มันจะกลายเป็นเรื่องราวที่แสนธรรมดาจนราบเรียบไร้สีสันไป จึงต้องชื่นชมความยอดยอดเยี่ยมของงานด้านบท
ความยอดเยี่ยมมันอยู่ที่ว่า เรื่องนี้เอาตรงๆคือเรื่องที่ตัวละครเยอะ การใส่ความมิติเชิงลึกให้ตัวละครทุกคนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ทำได้ ทำได้ดีด้วย และการเล่าเรื่องตลอดยี่สิบตอน คือการเล่าถึงการผ่านพ้นแต่ละเรื่องราวมาได้ ด้วยความรักและความเข้าใจ ความรักของแม่หรือพ่อที่มีต่อลูก ความรักของลูกๆที่มีต่อบุพการี ดูหนังฟรี
ความรักท่ามกลางความขัดแย้งของพี่น้องในอารมณ์ทั้งรักทั้งชัง ความรักและมิตรภาพระหว่างเพื่อนทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ มุมของของการใช้ชีวิตของคู่ชีวิตใกล้วัยทอง ที่ผ่านพ้นเรื่องราวทั้งดีทั้งร้ายมาด้วยกัน ความรักของคนหนุ่มสาวที่เป็นความโรแมนติก ความหวังในตัวลูกๆของพ่อแม่กับความต้องการที่แท้จริงของลูก สุดท้ายสิ่งที่จะหลอมรวมเรื่องเหล่านี้ให้เป็นความงดงามได้คือความเข้าใจซึ่งกันและกันเท่านั้น และแม้จะเล่าถึงประเด็นมากมายแต่บทกลับทำได้อย่างเข้าถึงง่ายและได้ใจ งดงามได้อย่างน่าทึ่ง เพราะค่อยๆเก็บเกี่ยวความรู้สึกร่วมจากหัวใจผู้ชมไปทีละน้อย จนเกาะกุมได้ทั้งหมดโดยไม่รู้ตัว
แต่ หากจะว่ากันที่เรื่องของอารมณ์ เรื่องนี้เมื่อมองเข้าไปอย่างพินิจ จะแยกออกเป็นสองอารมณ์ หนึ่งคืออารมณ์ทางมิติทางมิตรภาพ น้ำใสใจจริงที่อุ่นระอุ ความรักความเข้าในในครอบครัว การไล่ตามความฝันของแต่ละคน ที่บางคนก็มีความฝันของตัวเอง และบางคนก็แบกความฝันของคนอื่นไว้ เช่น จองฮวาน
ที่แบกความฝันของพี่ชาย หรือ ซอนอู ที่ยอมเรียนแพทย์ตามความหวังของแม่ การเรียนรู้และเข้าใจตัวเองของ ด็อกซอน ที่สุดท้ายแม้จะน้อยเนื้อต่ำใจในความเป็นลูกคนกลาง แต่นั่นหาใช่เพราะพ่อแม่ไม่รักเธอ แม้กระทั่งเรื่องราวของการเสียสละในเรื่องความรักของเพื่อน ที่รักคนคนเดียวกันและยอมที่จะไม่ครอบครอง เข้าใจในสิ่งที่เป็นและยอมรับว่าแท้จริงแล้ว ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่มันคือความผิดพลาด
จนกระทั่งเรื่องราวเข้าสู่ความโรแมนติกตอนท้าย ยังเข้าถึงอารมณ์สายฟินได้อีกด้วยเรื่องราวของรักสามเส้า การเสียสละ การรอคอย ความหวังและการก้าวข้ามผ่านกำแพงประเพณี ที่เป็นการปะทะกันระหว่างความคิดเก่ากับความคิดใหม่ เห็นได้อย่างแจ่มชัดแม้จะมีให้เห็นเรื่อยมาตลอด แต่มันมาชัดมากในตอนท้าย เว็บดูหนัง
ทั้งนี้ที่ผู้เขียนชอบมากลับเป็นประเด็นความรักความเข้าใจ ของครอบครัวที่มีต่อลูกเรื่องของการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เมื่อถึงที่สุดการเรียนมหาวิทยาลัยอาจไม่ใช่ทุกคำตอบของชีวิต ทั้งนี้รวมไปถึงการที่ลูกเข้าใจความหวังของพ่อแม่ และยอมเปลี่ยนตัวเอง เพื่อสานฝันให้พ่อกับแม่ได้มีความสุข กับเรื่องราวของการสลายช่องว่างระหว่างวัย ที่เริ่มห่างไปตามวัยของลูกๆที่ผู้เขียนเองอาจจะเข้าถึงง่ายกว่า เพราะทุกวันนี้ลูกๆของผู้เขียนก็เริ่มโตหมดแล้ว
อีกหนึ่งที่ความรู้สึกในหัวใจผู้เขียนสัมผัสได้ และเข้าถึงได้ง่ายกว่า คืออารมณ์ถวิลหาอดีต แม้มันจะไม่ชัดเจนตรงใจในความเป็นไทย อย่างการดูหนังเรื่อง แฟนฉัน ซึ่ง อาจจะมีความต่างเรื่องของพฤติกรรม บริบททางสังคมมากมาย แต่สำหรับคนที่โตมากับเครื่องมือเครื่องใช้ ที่ตัวเรื่องพยายามขับเน้น
สำหรับคนรุ่นผู้เขียนคงจะอินกับภาพที่เห็นได้มากว่า สำหรับคนที่โตมาในยุคอนาล็อก ยุคของอัสนี-วสันต์ เรนโบว์ คีรีบูน แกรนด์เอ๊กซ์ หรือลูกทุ่งปนสตริงค่ายนิธิทัศน์ อาจจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของดนตรี และซาวด์แห่งยุคสมัย เมื่อได้เห็นวิทยุเทป หรือกระทั่งวอล์คแมนที่มารดาผู้เขียนเรียกมันว่าซาวเบ๊า (ซาวด์ อะเบ๊าท์) ที่เป็นของที่ไฝ่ฝัน แต่ไม่เคยได้มาครอบครองมาจนวันนี้ที่เป็นหูฟังไร้สายในรุ่นลูก ของบางอย่างที่ไกลเกินฝันของเด็กชนบทอย่างตัวผู้เขียนเอง การได้เห็นการใช้เท้ากดปุ่มทีวี หรือทีวีแบบหมุน โอลิมปิค 1988 ที่เพิ่งได้ยินเพลง Hand In Hand เวอร์ชั่นเกาหลีในเรื่องนี้ การประท้วงของนักศึกษาเกาหลีไต้ที่เป็นข่าวดังไปทั่วโลก
หรือกระทั่ง Pop Culture ในยุคนั้น จากการเอ่ยถึง ดีเอโก้ มาราโดน่า ที่เจิดจรัสในฟุตบอลโลก 1986 การเอ่ยถึงหนังคลาสสิคที่เป็น Signature ของยุคสมัยอย่าง โหด เลว ดี 2,Predator,Top Gun,Dirty Dancing หรือ La Bamba ที่คนรุ่นผู้เขียนล้วนได้ผ่านตามาและแยู่ในความทรงจำการได้เห็นอิทธิพลของหนังฮ่องกง
ที่แผ่ขยายไปทั่วเอเชียจนมีการเอ่ยถึงดาราทองอย่าง โจวเหวินฟะ แม็กกี้ จาง (จางม่านอวี้) หรือ โจอี้ หวัง (หวังจู่เสียน) การฟังรายการวิทยุตอนกลางคืน เขียนจดหมายบรรยายความรู้สึกไปหาพี่ดีเจ ความดีใจที่จดหมายของเราได้ถูกหยิบมาอ่าน โดยดีเจที่ชื่นชอบ สิ่งเหล่านี้มันคืออารมณ์ถวิลหาอดีต เว็บดูหนังฟรี
สำหรับคนรุ่นผู้เขียนที่วัยไล่เลี่ยกันกับตัวละคร และเหมือนกับก้าวพ้นวัยมากับสิ่งเหล่านั้น ที่บางสิ่งบางอย่างอาจไกลเกินฝันสำหรับบางคน ซึ่งมองได้ว่าในเรื่องราวเหล่านี้ขนาดผู้เขียนเอง ที่ไม่ใช่คนเกาหลีเรายังรู้สึกดีที่ได้เห็นและสัมผัสได้ คงไม่ต้องไปถามหาคนเกาหลีที่เกิดทันและโตมากับมัน จะเข้าถึงใจได้ขนาดไหน เพราะได้ยินมาว่านี่คือซีรีส์ที่เป็นปรากฏการณ์ในบ้านเกิดอย่างหนัก และมันคงไม่ต่างจากเมื่อครั้งหนังแฟนฉัน ออกฉายในบ้านเราด้วยอารมณ์แบบเดียวกันกระมัง