รีวิวซีรี่ย์ Riverdale

รีวิวซีรี่ย์ Riverdale

การหายตัวไปของเจสัน บลอสซัม (เทรเวอร์ สไตนส์) ทำให้โฉมหน้าอันสวยหรูของริเวอร์เดลเปลี่ยนไป นอกจากความเศร้าโศกของ เชอรีล (แมตเดอเลน เพ็ตช์) ดูหนังฟรี น้องสาวตัวร้ายที่เป็นกัปตันทีมเชียร์ลีดเดอร์ริเวอร์วิกเซนแล้ว ยังมีเรื่องราวอันดำมืดรอการพิสูจน์จากกลุ่มเพื่อนรักชาวริเวอร์เดลไฮทั้ง เบตตี้ (ลิลี ไรน์ฮาร์ต) ดูหนังออนไลน์ สาวน้อยอ่อนต่อโลกผู้มีด้านมืดอันซุกซ่อนอยู่, อาร์ชี่ (เคเจ เอปา) หนุ่มนักกีฬาสุดหล่อผู้เป็นที่หมายปองของสาวๆ ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา

ที่ดันมีสัมพันธ์ลับกับครูสอนดนตรีในเช้าวันเกิดเหตุ,เวโรนิกา (คามิลา เมนเดส) บุตรสาวมาเฟียตระกูลลอดจ์ที่มาพร้อมความลับอันดำมืดของครอบครัวเธอที่นำภัยร้ายมาสู่ริเวอร์เดล และ จั๊กเฮด (โคล สเปราส์) เด็กหนุ่มจากแดนใต้ที่ถูกเหยียดหยามในชาติกำเนิด พวกเขาต้องร่วมกันไขปริศนาก่อนภัยร้ายจะมาถึงตัว

หลังจาก Netflix ปล่อยซีรีส์วัยรุ่นลึกลับสุดดังอย่าง Stranger Things ออกมา แล้วเห็นลู่ทางความสำเร็จก็ได้ร่วมมือกับ Warner Bros. Television ร่วมผลิต Riverdale ซีรีส์ลึกลับที่มีวัยรุ่นเป็นตัวดำเนินเรื่องโดยจะฉายคู่ขนานกับทางช่อง CW แบบอาทิตย์ต่ออาทิตย์ ซึ่งด้วยผลตอบรับที่ดีมากก็ทำให้ขณะนี้ Riverdale ได้ดำเนินเรื่องราวมาถึงซีซันที่ 3 แล้วซึ่งมีหลายอย่างที่เหนือความคาดหมายของผมมากไปพอสมควรดังจะกล่าวถึงเป็นข้อๆ มันสนุกมากจริง ๆ เพราะถ้าไม่สนุกเราเป็นคนหนึ่งที่เวลาดูหนัง ถ้าตอนแรกไม่ค่อยสนุกเราจะปิดทันที ฮ่า ๆ หลายคนคงแบบไม่มีโอกาสในตอนสองเลยหรอ มันมีค่ะ แล้วแต่เรื่อง แต่ส่วนใหญ่ถ้าไม่น่าสนใจ เราจะไม่ดูต่อเลย แงใจร้ายไปป่าวไม่รู้

งั้นเราจะเริ่มเล่าแบบคร่าว ๆ ว่าซีรีส์เรื่องนี้มันมันส์ยังไง สนุกยังไง รีวิวซีรี่ย์ Riverdale

เปิดเรื่องในซีซั่น 1 ที่เมืองเล็ก ๆ เมื่องหนึ่ง มีชื่อว่า Riverdale มีเด็กไฮสคูลคนหนึ่งมีชื่อว่า เจสัน บลอสซั่ม เป็นพี่ชายของ เชอรีล บลอสซั่ม น้องสาวตัวแสบที่เป็นกัปตันทีมเชียร์ลีดเดอร์ ซึ่งจู่ ๆ พี่ชายของเธอ เจสันได้หายตัวไปอย่างลึกลับ แต่กลับถูกพบเป็นศพ โดยการถูกฆ่าจากฆาตรกรที่เป็นคนรู้จัก แต่ไม่บอกว่าเป็นใคร ไม่งั้นจะไม่ได้ลุ้น แต่หลังจากที่ดูแล้วบอกเลยว่าพีค พีคแบบมาก ๆ ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นคนนี้ โหดเกิ๊นนน ซีซั่น 1 จะเป็นเรื่องราวของผู้ชายคนนี้ทั้งเรื่อง เพราะหนังกำลังตามหา สืบว่าใครเป็นคนฆ่า

พอซีซั่นหลัง ๆ เริ่มมีจิ๊กซอว์ตัวอื่นเพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ ทำให้หนังมันน่าลุ้นระทึกมากขึ้น เป็นหนังที่เวลาเราดูรู้สึกเหมือนต้องใช้สมองมาก ๆ เพราะแต่ละฉากจะมีเงื่อนงำเยอะแยะไปหมด เหมือนกับตัวเองดูหนังเชอล็อคโฮมอยู่ยังไงยังงั้นเลย แต่หนังเรื่องนี้จะแนวโหดกว่า

แต่จุดเด่นหนึ่งเลยของหนังเรื่องนี้เลยคือ จั๊กเฮดค่ะทุกคน แสดงโดย Cole Sprouse เป็นตัวละครหนึ่งที่มีเรื่องราวชีวิตโดยการถูกเหยียดหยามต่าง ๆ นา ๆ จากคนรอบตัว ขี้อาย ดูไม่ค่อยเป็นคนที่มีบทบาทมากเท่าไหร่ แต่หลังจากดูไปเรื่อย ๆ ตอนหลัง ๆ เขาจะมีบทบาทมากขึ้น และมีเสน่ห์มากอีกด้วย อุแง น่ารัก

ใครชอบหนังแนวลึกลับ สืบสวน ไฮสคูล แซ่บ ๆ เรื่องนี้ครบรสจริง ๆ ค่ะ ตอนนี้เขาผลิตออกมาถึง 5 ซีซั่นแล้ว กำลังใครหยุดยาว ๆ เปิด Netflix นอนดูอยู่บ้านกันสบาย ๆ ได้เลย แต่ละซีซั่น จะมีเนื้อหาที่แตกต่างกันออกไป แต่ตัวละครเยอะมากค่ะ เยอะมากจริง ๆ บางทีดูไปเรื่อย ๆ อาจจะมีเบื่อนิดหน่อย จากความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ แต่ถ้าพูดโดยรวมถือว่าสนุกค่ะ เป็นหนังวัยรุ่นยอดนิยมของอเมริกันอีกด้วย

ซีรีย์เรื่องนี้จะมีการหักมุมและมีอีกหลายเรื่องที่เข้ามาพัวพัน

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง การก่อความวุ่นวายในเมือง การเลือกตั้งประธานนักเรียน รวมไปถึงเรื่องความรักของวัยรุ่นอีกด้วย เรียกได้ว่าครบรสจริงๆค่ะ สิ่งที่ทำให้เราดูซีรีย์นี้ได้แบบไม่บ่นว่าเบื่อและตั้งหน้าตั้งตารอทุกตอนในNetflix เป็นเพราะว่า ตัวละคร4 ตัวหลักเปรียบเสมือนนักสืบ และทุกตัวฉลาดทั้งหมดค่ะ

มาถึงตอนนี้ทุกคนคงงงกันบ้างว่า ถ้าตัวละครฉลาดทุกตัวเรื่องคงจบง่ายและเร็ว แต่จะบอกว่าไม่เลยค่ะ ซีรีย์เรื่องนี้หักมุมจนเราคาดไม่ถึงเลยก็ว่าได้ และเรื่องทั้งหมดจะดำเนินไปพร้อมกับเรื่องราวของคนในครอบครัวของ4 ตัวละครหลักด้วย ซึ่งการดูหนังเรื่องนี้ค่อนข้างจะครบรสชาติเพราะไหนเราจะต้องหาว่าใครเป็นฆาตกร แล้วยังจะต้องตั้งคำถามอีกว่า คนในครอบครัวทำแบบนี้เพื่ออะไร ต้องการอะไร โดยในซีซั่น2และ3 ก็จะมีเรื่องให้ได้สืบกันอีกค่ะ แต่เนื้อเรื่องก็จะฉีกจากซีซั่นแรกไปเลย ใครที่ยังไม่ได้ดูซีซั่นแรกจะดูข้ามไม่ได้นะคะ เพราะเรื่องราวทั้งหมดจะต่อกัน

สำหรับซีรีย์เรื่อง Riverdale ถือว่าเป็นซีรีย์ที่สร้างชื่อให้กับทาง Netflix อีกหนึ่งเรื่อง

ที่มาพร้อมเนื้อหาสุดเข้มข้น และปริศนาอันดำมืด พร้อมรอเหล่าผู้ชมคนดูร่วมกันหาคำตอบไปกับซีรีย์เรื่องนี้นั่นเอง ถึงแม้ว่าหากมองผิวเผินซีรีย์เรื่อง Riverdale นั้นคล้าย ๆ กับว่า เป็นซีรีย์แนววัยรุ่นวุ่นรัก ไฮสคูล ต่าง ๆ แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะซีรีย์ Riverdale นั้นเป็นซีรีย์แนวลึกลับ ซ่อนปม พร้อมความดราม่า สะเทือนอารมณ์ ที่จะพาเหล่าผู้รับชมรู้สึกร่วมไปกับตัวละครได้ไม่ยากนั่นเอง

โดยเรื่องย่อของซีรีย์ Riverdale นั้น เป็นเรื่องราวของเมืองอันแสนสงบสุข ที่มองภายนอกเมือง ริเวอร์เดล นั้นเปรียบเสมือนเมืองในฝัน ที่มีแต่ความสงบสุขและเรียบง่าย แต่ความสุขสงบแสนเรียบง่ายของเมือง ริเวอร์เดล นี้ก็อยู่ได้เพียงไม่นาน เมื่อเกิดเหตุการณ์สุดหดหู่และสะเทือนใจคนทั้งเมืองอย่าง การหายตัวไปของเด็กชาย เจสัน ช่ายหนุ่มไฮสคูลที่หายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยการหายตัวไปของ เจสัน นี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดในการสืบเสาะ ค้นหาความจริงของการหายตัวไปอย่างลึกลับ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วการค้นหาคำตอบนั้น กลับกลายเป็นการเปิดเผยความจริงอันอัปยศภายในเมือง ริเวอร์เดล แห่งนี้นั่นเอง

ต้องบอกเลยว่าซีรีย์เรื่อง Riverdale ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีย์ที่มากไปด้วยคุณภาพ รีวิวซีรี่ย์ Riverdale

ในการจัดวางบทบาทของตัวละครได้อย่างละเอียดและมีความสมจริง ซึ่งถึงแม้ว่าตัวละครหลักภายในเรื่องจะมีอยู่มากเสียหน่อย แต่ทางผู้สร้างกลับสามารถแบ่งแยกคาแรคเตอร์ของเหล่าตัวละครให้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน และมีความลึกลับน่าค้นในทุก ๆ ตัวละครได้อย่างแท้จริง สำหรับใครที่ชื่นชอบซีรีย์แนวลึกลับ ดราม่า พร้อมฉากอาชญากรรมสุดโหดในคราบเด็กไฮสคูลแล้วล่ะก็ ไม่ควรพลาดซีรีย์เรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง

เอาจริงๆข้อนี้ก็ไม่ได้หนีหายไปไหนหรอก แต่ตอนแรกคิดว่าตัวเองจะจูนไม่ติดเพราะพอเห็นอาร์ตเวิร์กทั้งโปสเตอร์หรือแม้แต่โปรแกรมแนะนำใน Netflix เองเป็นรูปนักแสดงหน้าตาดีๆ ก็พาลไปนึกว่ามันจะซ้ำซากกับซีรีส์หรือหนังวัยรุ่น แต่เปล่าเลยเพราะแม้องค์ประกอบหลายอย่างจะไม่ได้ใหม่มากแต่สิ่งหนึ่งที่เพิ่มความสนุกได้อย่างไม่น่าเชื่อคืออะไรรู้มั้ยครับ “ความโง่” ของตัวละครไง ซึ่งอันนี้ต้องยกประโยชน์ให้จำเลยนะครับ เพราะทีมเขียนบทเอาความหุนหันพลันแล่น ฮอร์โมนที่พุ่งพล่านของวัยรุ่นมาก่อหายนะครั้งแล้วครั้งเล่า ให้เราได้ลุ้นกันแทบทุกตอน ซึ่งฝรั่งคงมองว่าใหม่มากแต่คนไทยเราน่าจะคุ้นเคยกับความโง่ของตัวละครมาจากละครหลังข่าวกันดีอยู่แล้ว

ซึ่งซีรีย์เรื่อง Riverdale นี้ ได้รับการขนานนามว่าเป็นซีรีย์ไฮสคูลที่มีเนื้อหารุนแรงที่สุด

และมีความสมจริง สมเหตุสมผล พร้อมพาผู้ชมอินตามไปกับเรื่องราวได้แบบไม่รู้ตัว (รู้ตัวอีกทีก็ติดซีรีย์เรื่องนี้แล้ว) ซึ่งซีรีย์เรื่องนี้เต็มเปี่ยมไปด้วย ความรุนแรงเข้าขั้นสุด ที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวอาชญากรรมต่าง ๆ หรือเรื่องเซ็กซ์ และฉากความโหด ดิบ เถื่อนต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่นตัวน้องสาวของ เจสัน สาวน้อยตัวร้ายที่ภายใต้จิตใจกลับเต็มไปด้วยความชั่วร้ายอันมืดมิด หรืออย่าง อาร์ชี่ เด็กหนุ่มไฮสคูลสุดหล่อ ที่ได้มีความสัมพันธ์ชู้สาวแบบลับ ๆ กับคุณครูของตนเอง และ เบตตี้ ภายนอกเธอเป็นเพียงสาวน้อยผู้อ่อนต่อโลก แต่แท้จริงแล้วภายใต้จิตใจของเธอนั้นมีด้านมืดซุกซ่อนอยู่

อันนี้ตั้งแต่ชื่อตอนของซีรีส์ 2 ซีซันแรกเลยที่จงใจตั้งชื่อตามหนังดังบ้างเช่น There Will Be Blood หรือย้อนไปไกลอย่าง Faster, Pussycats! Kill! Kill! ที่จงใจเอาชื่อหนังคัลต์ปี 1965 มาเล่นโน่นเลย นี่ยังไม่รวมไปถึงการอ้างอิงหนังและเพลงดังๆจากหนังยุคก่อนหน้าทั้งเพลง Bitter Sweet Symphony จากหนัง Cruel Intentions(1999) หรือเพลง Mad World เพลงประกอบหนังคัลต์อย่าง Donnie Darko (2001) ซึ่งเรียกง่ายๆเลยว่าถึงตัวละครในเรื่องจะอายุ 16,17 แต่จริตการฟังเพลงและดูหนังนี่คนอายุใกล้ 30 มากเลย