รีวิวซีรี่ย์ Shooting Stars
เป็นซีรีส์แนวรักโรแมนติกที่มีความคอมเมดี้ โดยจะเป็นเรื่องราวชีวิตการทำงานระหว่างผู้จัดการดารา หนังฟรี ทีมฝ่ายประชาสัมพันธ์ ดาราศิลปิน และยังมีนักข่าวอีกด้วย เป็นเรื่องตีแผ่ความวุ่นวายในการดูแลจัดการชีวิตส่วนตัว และตารางงานของเหล่าดาราตัวท็อปทั้งหลาย ด้านผู้จัดการส่วนตัวของเหล่าศิลปินก็ต้องดูแลนักแสดงเอาใจกันแบบสุดฤทธิ์สุดเดช ทีมประชาสัมพันธ์ก็ต้องพยายามหางานและตามดูข่าวแก้ข่าว หนังใหม่ ในกรณีที่ข่าวมันจะทำให้ศิลปินดูแย่จนเสี่ยงทำให้งานหดงานหาย ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022
เปิดฉากขึ้นผ่านชีวิตการทำงานของ
โอฮันบยอล (รับบทโดย อีซองคยอง) หัวหน้าทีมฝ่ายประชาสัมพันธ์ หรือ พีอาร์ ประจำบริษัท Starforce Entertainment ตำแหน่งหน้าที่ทำให้เธอกลายเป็นสาวออฟฟิศที่งานยุ่งอยู่ตลอดเวลา ไหนจะการให้คำปรึกษาและดูแลภาพลักษณ์ศิลปินในสังกัดไม่ให้มีเรื่องฉาว ต้องรับมือกับนักข่าวที่ขยันหาเรื่องราวใส่ไข่เรียกยอดไลก์จากประชาชน รวมทั้งต้องคอยจัดการความเรียบร้อยของงานเอกสารในองค์กรอีกต่างหาก ดูหนัง ชีวิตของโอฮันบยอลอยู่กับงานจนจืดชืดไร้สีสันมาเป็นเวลานาน ดูหนังฟรี จนกระทั่งไม้เบื่อไม้เมาขาประจำกลับมาเยือนเธออีกครั้งในรอบปี ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา
กงแทซอง (รับบทโดย คิมยองแด) ท็อปสตาร์ของประเทศที่ชื่อเสียงฮอตฮิตติดลมบน ดูหนังออนไลน์ กวาดพื้นที่ทุกย่านในกรุงโซลชนิดที่หันไปทางไหนเป็นต้องเห็นหน้าของหนุ่มคนนี้บนป้ายโฆษณาทุกหนทุกแห่ง หลังเดินทางไปเป็นอาสาสมัครที่ทวีปแอฟริกานานกว่าหนึ่งปี เขากลับมาพร้อมแผนการป่วนที่ทำให้โอฮันบยอลต้องอยู่ไม่เป็นสุขจากความไม่ลงรอยกันตั้งแต่หกปีก่อน ส่วนจะกัดกันเพราะเรื่องอะไรเดี๋ยวจะเฉลยให้ได้รู้กัน แต่บอกได้เลยว่าการตีกันของคู่นี้อาจจะกลายเป็นความรักวุ่นวายของสาวพีอาร์กับซุปตาร์ตัวท็อปก็เป็นได้
เรื่องนี้สร้างสรรค์ขึ้นโดย ดูหนัง นักเขียนบทชเวยองอู และ ผู้กำกับอีซูฮยอน เจ้าของผลงานซีรีส์ชื่อดังอย่าง Find Me in Your Memory (2020) Awaken (2020) รวมทั้งเว็บดราม่า The Witch’s Diner (2021) ถือเป็นการหยิบชีวิตมนุษย์ออฟฟิศที่ทำงานเกี่ยวกับแวดวงบันเทิงมาตีแผ่อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมแทรกเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวหลายคู่รวมทั้งมุกตลกโบ๊ะบ๊ะเข้าไปอย่างกลมกล่อม หลังจบสองตอนแรกมีอะไรบ้างที่น่าประทับใจจนอยากตามดูต่อไป มาเล่าสู่กันฟังในรีวิวฉบับนี้ ดูหนังออนไลน์
เล่าเรื่องราว ของการทำงานอย่างหนักของเหล่าบรรดาพนักงานเบื้องหลังวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็น PR ประชาสัมพันธ์ผู้จัดการศิลปินนักข่าวสายบันเทิง พวกเขาต้องเคลียร์ปัญหามากมายให้กลับศิลปินในสังกัดที่ดูแล เพื่อเป็นดาวที่โดดเด่นและส่องประกายแสง และรักวุ่นๆระหว่าง โอฮันบยอล หัวหน้าPR สาว ที่ทั้งเก่งและรับมือกับปัญหาทุกได้อย่างมือโปร กับ กงแทซอง นักแสดงท็อปสตาร์หนุ่ม พวกเขาทั้งสองทำงานในค่ายเดียวกัน เบื้องหน้าไม่ค่อยถูกชะตากันนัก แต่เบื้องหลังแล้วพวกเขานั้นมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน เรื่องราวของพวกเขาจะเริ่มต้นยังไงไปติดตามกัน
เรื่องราวในวงการบันเทิงที่ตัวตนคนจริงอาจจะไม่ได้รู้สึกบันเทิงขนาดนั้น แต่คนเขียนบทคนสร้างและแน่นอน คนแสดง ก็พาให้เราเพลิดเพลินและนั่งขำนั่งยิ้มไปกับพวกเขาได้ มันเป็นเรื่องของนางเอกผู้เป็นพีอาร์ระดับหัวหน้าที่ยังไม่มีแฟน เธอพยายามเหลือเกินที่จะมีนัดบอดเผื่อว่าจะได้พบกับผู้ชายที่ใช่สำหรับตัวเองสักที แต่ก็กลับเจอเขาพูดคุยแต่เรื่องดาราที่เธอดูแล ขณะที่ทุกช่วงเวลาของชีวิตก็มีแต่สายโทรเข้ามาไม่เว้นวาย และดูเหมือนจะมีแต่ชื่อของ ‘กงแทซอง’ ลอยวนรอบตัวเธอเต็มไปหมด ชีวิตเธอดูจะหนีไปพ้นดาราดังชื่อนี้ แถมเขากำลังกลับจากแอฟริกา แบบนี้เธอต้องเจอหน้ากันทุกวันเป็นแน่
เรื่องราวหลักๆ รีวิวซีรี่ย์ Shooting Stars
จะบอกเล่าผ่านตัวละคร โอฮันบยอล ซึ่งรับบทโดย อีซองคยอง หรือหัวหน้าโอ หัวหน้าทีมฝ่ายประชาสัมพันธ์ หรือก็คือฝ่ายพีอาร์ ของบริษัท Starforce Entertainment ชีวิตของโอฮันบยอลนั่นค่อนข้างจะยุ่งเหยิงมากๆ แทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง เธอต้องคอยให้คำปรึกษาแก่ผู้จัดการและพนักงานคนอื่นๆ ไหนจะต้องคอยดูแลภาพลักษณ์ศิลปิน รวมถึงคอยติดต่อนักข่าวเพื่อให้ช่วยเขียนข่าวสนับสนุน และยังต้องคอยตามแก้ข่าวในกรณีข่าวฉาวให้ศิลปินในสังกัด เรียกว่ายุ่งมากตั้งแต่ลืมตาตื่นจนกระทั่งเข้านอน แม้แต่เวลานัดบอร์ดเธอก็ยังมีงานมาแทรกจนการนัดบอร์ดพังไม่เป็นท่า
ชีวิตที่ยุ่งเหยิงของเธอก็ดูไม่มีวี่แววจะเบาบาง แถมยิ่งวุ่นวายหนักขึ้นเมื่อโจทย์เก่าของเธอกลับมา กงแทซอง ซึ่งรับบทโดย คิมยองแด นักแสดงที่ถือเป็นท็อปสตาร์ของประเทศ เขานั้นเป็นคนที่ค่อนข้างจะใจดีกลับทุกคนยกเว้นหัวหน้าโอและผู้จัดการที่มีหน้าที่ดูแลเขา หลังจากที่เขากลับมาจากการเป็นอาสาสมัครที่ทวีปแอฟริกา เขาก็กลับมายียวนกวนและปั่นประสาทหัวหน้าโออย่างหนักหน่วง แต่ที่จริงแล้วก็แค่คนปากหนัก ปากอย่างใจอย่าง และก็ต้องการให้หัวหน้าโอสนใจเขานั่นแหละนะ
การจั่วหัวสองตอนแรกของซีรีส์ Shooting Stars สร้างความประทับใจด้วยการตีแผ่วิธีการทำงานของผู้คนในบริษัทบันเทิง ครอบคลุมทั้งอาชีพ ศิลปิน ผู้บริหารองค์กร ผู้จัดการดารา ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฝ่ายกฎหมาย หรือแม้กระทั่งพนักงานตัวเล็กผู้ทำหน้าที่ด้านเอกสาร ทุกตำแหน่งล้วนต้องร่วมมือกันอย่างแข็งขันเพื่อให้ศิลปินดาราในสังกัดได้เดินไปบนพรมแดงที่ปูไว้ให้อย่างเฉิดฉาย ทำให้คนดูเห็นว่ากว่าที่โปรเจกต์บันเทิงชิ้นหนึ่งจะออกสู่สายตาผู้ชมได้ ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานของผู้คนหลายชีวิต ดูแล้วหายสงสัยว่าเพราะเหตุใดมูลค่าของธุรกิจบันเทิงจึงสูงลิ่วกว่าธุรกิจประเภทอื่น
ความน่าสนใจแรกของเรื่องในมุมของผู้เขียนคือ
ความปากหนักของพระเอก และความซื่อของนางเอก จริงๆ จะโทษที่นางเอกดูไม่ออกว่าพระเอกมีใจก็คงไม่ได้ เพราะพระเอกไม่ได้พูดหรือกระทำแบบชัดเจน แถมยังมีเรื่องราวในอดีตที่เขาเคยทำไม่ดีไว้กับนางเอกอีก และเพราะความปากหนักของพระเอกนี่แหละค่ะที่มันทำให้น่าติดตาม เพราะอยากรู้ว่าเขาจะแสดงออกย่างตรงไปตรงมากับนางเอกเมื่อไร ต่อหน้าคนอื่นก็ดูเหมือนชายหนุ่มเพอร์เฟ็คมาก แต่จริงๆ ก็คือคนที่มีมุมโบ๊ะบ๊ะเรียกเสียงฮาอยู่ไม่น้อย
ต่อมาอีกส่วนที่ผู้เขียนสนใจคือ เพื่อนนางเอกอย่างโจกีปึม ( รับบทโดย พัคโซจิน ) นักเขียนข่าวบันเทิงสุดห้าว รักการทำงานเป็นชีวิตจิตใจ ระดับความทุ่มเท่ในการเขียนข่าวมีสูงมาก เรียกได้ว่าถึงขั้นพกกล้องติดตัวตลอดเวลาพร้อมแอบถ่ายเหล่าซุปเปอร์สตาร์ที่หลุดโป๊ะในพื้นที่สาธารณะ นอกจากนี้แม้จะป่วยเจียนตาย ต้องรีบรับการผ่าตัดเธอก็ยังคงเปิดโน้ตบุ๊คเพื่อเขียนข่าวกลางโรงพยาบาล ว่ากันตามตรงคือดูแล้วเหมือนเห็นตัวเองที่ไอแพตไม่ห่างตัวเพราะต้องคอยเขียนงาน ทำคอนเทนต์และยังมีงานวาดงานกราฟิก ตื่นนอนก็จับไอแพตก่อนเลยเพื่อดูว่าผู้ว่าจ้างคอมเมนต์แก้อะไรไหม ชีวิตแอบคล้ายกันเลยค่อนข้างชอบโจกีปึมมากๆ เชื่อว่าถ้าใครทำงานฟรีแลนซ์สายผลิต หรืออาจจะเป็นงานประจำที่เป็นนักเขียน นักข่าวจะต้องเห็นกีปึมแล้วรู้สึกเหมือนผู้เขียนแน่ๆ แน่นอนว่าไม่ใช่แค่กีปึมเท่านั้นที่อาจจะสะท้อนชีวิตวัยทำงานจริงของคนดู ตัวละครอื่นๆ ก็เช่นกัน เพราะเรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่บอกเล่าชีวิตคนวัยทำงานเป็นหลัก
นอกจากนั้นคนกลุ่มนี้ยังต้องสแตนด์บาย 24 ชั่วโมง เพื่อตามเช็ดตามล้างเรื่องราวข่าวคาวเสียหายที่เหล่าศิลปินได้ทำลงไป ต้องสานสัมพันธ์กับสำนักข่าวเพื่อคอยแก้ไขความผิดพลาด หรือแม้กระทั่งการทำความเข้าใจกับอุปนิสัยที่แตกต่างกันของดาราแต่ละคน ภาระหน้าที่อันหนักอึ้งเหล่านี้ทำให้พวกเขาไม่มีเวลาว่าง ต้องสละชีวิตส่วนตัวและทุ่มเทให้กับงานชนิดเสียเลือดเสียเนื้อ เหตุผลดังกล่าวจึงพอจะทำให้คาดเดาเส้นเรื่องความรักของซีรีส์ต่อไปได้ เมื่อพวกเขาล้วนทำงานตัวเป็นเกลียวไม่มีเวลาแม้กระทั่งไปนัดบอด จึงเกิดเป็นความสัมพันธ์หวานแหววระหว่างเพื่อนร่วมงานที่เห็นหน้าค่าตากันอยู่ทุกวันนั่นเอง
เล่าเรื่องเข้าใจง่ายเนื่องจากเป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้เล่าถึงพนักงานในออฟฟิศบริษัทดูแลศิลปิน นางเอกเป็น PR ค่อยจัดการปัญหาของศิลปินในบริษัท ไม่ว่าจะเป็นข่าวเด็ดข่าวฉาวข่าวต่างๆ ส่วน พระเอกเป็นนักแสดงตัวท็อปที่โด่งดังในเกาหลี พวกเขาทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ทั้งสองไม่ถูกกันเพราะเมื่อ 6 ปีก่อนนางเอกดันเขียนข่าวผิด ทำให้ทั้งสองไม่ถูกกัน พระเอกต้องไปเป็นจิตอาสาที่แอฟริกา นานถึง 1 ปีพอกลับมาก็มุ่งหน้าเข้าไปหานางเอกเพื่อกลั่นแกล้ง ไปนั่งเฝ้านางเอกข้างโต๊ะทำงานเพื่อให้เธอกดดันแต่จริงๆแล้วเขานั้นอยากเจอหน้าเธอแทบใจจะขาดเพราะอะไรนั้นไปดูต่อกันสนุกตลกฮามาก
การแสดงของนักแสดง รีวิวซีรี่ย์ Shooting Stars
อีซองคยอง และ คิมยองแด ทั้ง 2 เคมีดีมากเล่นด้วยกันแล้วดูไม่ขัดเพราะฝีมือการแสดงของพวกเขาไม่ว่าจะเป็น อีซองคยอง นางเอก ที่ผ่านประสบการณ์และผลงานที่โดดเด่นมาแล้วหลายเรื่องอย่างเช่น นางฟ้านักยกน้ำหนักคิมบ๊กจู เรื่องนี้ทำเอาเราติดมากๆตอนนั้น ส่วนพระเอกยัง คิมยองแด ที่ได้รับบทพระเอกเรื่องแรก ทั้งคู่เล่นประกบกันได้ดีมากๆ พูดถึงพระเอกและนางเอกที่ทำงานในบริษัทเดียวกันเรียนที่เดียวกัน พระเอกที่คอยกลั่นแกล้งนางเอกเพราะความรักนั่นเอง เรื่องนี้พระเอกรับบทผู้ชายคลั่งรักสุดๆ
รอบตัวเธอแวดล้อมด้วยคนที่ชื่นชอบ (หรือถึงขั้นคลั่งไคล้) ในตัวกงแทซอง ไม่ว่าเป็นดาราในสังกัดเดียวกันที่เดิมก็เคยเป็นแฟนคลับและพกพาแรงบันดาลใจนั้นผลักดันจนได้เข้าวงการแถมได้เล่นซีรีส์ร่วมกันอีก แม้แต่ตัวเธอเองก็เถอะ เธอก็เป็นหนึ่งในคนที่ชื่นชอบกงแทซองเหมือนกันนั่นแหละ แต่สิ่งที่มันเพิ่มเติมไปมากกว่าคนอื่นก็คือ มีเงื่อนงำชวนสงสัยว่า เธอจะเคยมีความสัมพันธ์ระดับ ‘แฟนสาว’ ของซุปตาร์คนนี้มาก่อนนี่สิ
กงแทซองกลับเกาหลีด้วยแผนการป่วนหัวหน้าโอเพราะเหตุการณ์ไม่ลงรอยที่ผ่านมาเมื่อ 6 ปีก่อน ถ้าไม่มีคิวถ่ายซีรีส์หรือโชว์ตัวที่ไหน เขาก็แทบจะมาขลุกอยู่ในออฟฟิศ แถมมีเก้าอี้ตัวพิเศษที่เอาไว้นั่งมองหน้าโอฮันบยอลอีกต่างหาก หลายครั้งที่เขาเอาหน้ามาอยู่ใกล้ๆ ทำตัวใกล้ชิดจนใครต่อใครพากันสงสัย ไม่พอ ยังมีเบาะแสภาพที่สองคนเคยถ่ายร่วมกันอีก ไม่ว่าข่าวลือนั้นมันจะจริงเท็จยังไง ความเป็นไม้เบื่อไม้เมาของสองคนนี้ก็ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ขึ้นมาได้แหละน่า
ไม่ใช่แค่พีอาร์กับซุปตาร์ที่จะวุ่นวาย
ซึรีส์เรื่องนี้เล่าเหตุเบื้องหลังมากมายที่ปั่นป่วนไม่แพ้กัน หยิบจับมาเล่าหมดไม่ว่าจะเจ้านาย ผู้จัดการ พีอาร์ ดารา แฟนคลับ และสื่อต่างๆ แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการเขียนข่าวส่งสื่อ ผิดนิดเดียวก็กลายเป็นเรื่องได้ ที่นี่เป็นองค์กรที่คนมักไม่ค่อยอยู่กันยืด มาอยู่แล้วไม่นานก็ออกไป ทีมงานเลยมักจะดีใจที่เห็นคนใหม่หรือเด็กฝีกงานเข้ามา หรือการที่ดาราสักคนจะมีผู้จัดการส่วนตัว ก็ต้องเลือกแล้วเลือกอีกจนกว่าจะเข้ากันได้ ในเรื่องนี้ เราก็จะได้เห็น ผู้จัดการคนใหม่ของกงแทซองผู้ที่เอาใจย้ากยาก แต่เขาก็ได้รู้ว่าผู้จัดการคนนี้ของเขานี่แหละ ใส่ใจเขาเป็นที่สุด ไม่ควรปล่อยให้หลุดมือไปเป็นอันขาด
ส่วนต่อมาคือการทำให้เราเห็นการทำงานในด้านวงการบันเทิงของเกาหลี เชื่อว่าหลักการส่วนหนึ่งในซีรีส์น่าจะมาจากของจริงแหละ เพราะบ้านเขาเรื่องข่าวลือมักจะมาไวและก็ไปไวจริงๆ พวกผู้จัดการ ฝ่ายพีอาร์และค่ายคงต่างวิ่งวุ่นเพื่อนักแสดงในสังกัดเหมือนในซีรีส์แน่ๆ ถือเป็นซีรีส์ที่เปิดโลกให้รู้จักวงการบันเทิงเกาหลีมากขึ้นเลย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องความรักที่มีให้ลุ้นและฟินกันหลายคู่ด้วย เป็นความรักฟีลคนทำงาน บางคู่ความรักเกิดจากการเจอหน้ากัน ทุกวันก็เลยหวั่นไหวให้กันก็จะให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับชีวิตจริงของใครบางคน บางคู่ชอบกันมานานแต่ไม่มีความกล้าพอจะบอกเราก็จะรู้สึกลุ้นเอาใจช่วยให้เขาสารภาพรักกันสักที และบางคู่ก็สร้างความงุนงงประหลาดใจเพราะเดตบ่อยจนเดาไม่ออกว่าความรักจะลงเอยกันอย่างไรและกับใคร ซึ่งในเรื่องมีความรักกุ๊กกิ๊กแบบนี้หลายคู่เลย เรียกว่ามีแง่มุมความรักของแต่คนละเจนเลยล่ะค่ะ ใครที่ชอบแนวโรแมนติกชวนฟินๆ ต้องไม่พลาดเรื่องนี้ค่ะ
ด้วยการจัดประเภทให้ Shooting Stars เป็นซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ เนื้อหาสาระจึงไม่ได้หนักหน่วงหรือเทน้ำหนักไปที่เรื่องดราม่าจนจัดจ้านมากเกินไป แม้พล็อตเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความยากลำบากของบรรดาพนักงานดูแลศิลปินจะสาหัสสากรรจ์แต่กลับเล่าออกมาได้อย่างสบาย ๆ รวมทั้งเหล่าตัวละครที่ขนกันมาจำนวนมากผ่านการออกแบบให้มีคาแรกเตอร์ที่ต่างกันอย่างชัดเจน เปิดพื้นที่ให้เสริมสร้างบรรยากาศคอมเมดี้ผ่านการเล่นใหญ่เล่นโต รวมทั้งมุกตลกที่ปังบ้างแป้กบ้าง แต่ถึงอย่างไรการเล่าเรื่องสไตล์นี้น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของแฟนชาวไทยกันอยู่แล้ว