รีวิวซีรี่ย์ The Good Doctor

เป็นเรื่องราวของศัลยแพทย์หนุ่มที่มีภาวะออทิซึ่ม (Autism Spectrum Disorder หรือออทิสติก) ชื่อว่า “ฌอน เมอร์ฟี” (Shaun Murphy) แต่มีความเป็นอัจฉริยะ สามารถเข้าใจความซับซ้อนของระบบต่างๆในร่างกายโดยการคิดเป็นภาพ ดูหนังฟรี แถมคิดเลขเร็วมากๆ มีความรู้รอบตัวจากการอ่านหนังสือและมีพรสวรรค์ในการจดจำสิ่งต่างๆประหนึ่งสารานุกรมเคลื่อนที่ ดูหนังออนไลน์ 

อีกทั้งการวินิจฉัยโรคที่ค่อนข้างแม่นยำ แต่ด้วยภาวะออทิซึ่ม ทำให้ ดร.ฌอน มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากในฐานะศัลยแพทย์ ทำให้ ดร.ฌอน ต้องพบกันความท้าทาย ทั้งในเรื่องการทำงานและการใช้ชีวิต ในขณะเดียวกัน ดร.ฌอน ยังต้องทำหน้าที่ศัลยแพทย์อย่างดีที่สุด เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้เป็นที่ยอมรับว่า ดร.ฌอน ก็สามารถเป็นศัลยแพทย์ที่ดีได้เหมือนกับศัลยแพทย์ปกติ ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่มีโฆษณา

ในปี 2014 หนึ่งปีหลังเวอร์ชันเกาหลี รีวิวซีรี่ย์ The Good Doctor 

รีวิวซีรี่ย์ The Good Doctor

แดเนียล คิม นักแสดงและโปรดิวเซอร์ชาวเกาหลีได้ซื้อลิขสิทธิ์ซีรีส์ Good Doctor แล้วนำไปเสนอช่องโทรทัศน์ แต่ยังไม่คืบหน้า จนสุดท้ายเขาได้ร่วมมือกับ Sony เพื่อพัฒนาบทเองร่วมกับทีม แล้วนำไปเสนอช่อง ABC จนได้ออกอากาศในปี 2017 และกลายเป็นซีรีส์ยอดนิยม จนล่าสุดเตรียมออกอากาศซีซัน 2 ปลายเดือนกันยายนนี้แล้ว

แดเนียล คิม เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ปกติซีรีส์เกาหลีจะอยู่ประมาณ 20-24 ตอนจบ ซึ่งแตกต่างจากในอเมริกา แต่สำหรับ Good Doctor ผมมองว่ามันไปได้ไกลกว่านั้น ยิ่งกับ เดวิด ชอร์ เราจึงคิดร่วมกันว่าจะนำคาแรกเตอร์นี้ไปต่ออย่างไรในอนาคต ซึ่งการเป็นซีรีส์อเมริกามันให้อิสระมากๆ ในการทำอย่างนั้นได้”

The Good Doctor ฉบับอเมริกา เขียนบทโดย เดวิด ชอร์ ผู้เขียน M.D.House ซีรีส์แพทย์สุดอัจฉริยะ ในคาแรกเตอร์ปากร้ายเอาแต่ใจที่เคยโด่งดังสุดขีด ชอร์ได้พัฒนาบทให้ใกล้เคียงความเป็นไปได้ในสังคมอเมริกันด้วยการปรับเปลี่ยนบางสิ่งใหม่โดยอยู่บนโครงสร้างเดิม

ในส่วนของชื่อตัวละคร เขาปรับจากชื่อ ชีอน ให้กลายเป็น ฌอน ซึ่งใกล้เคียงเชิงภาษาที่สุด ส่วนตัวละครแวดล้อมยังคงมีทั้งผู้อำนวยการ ดร.อารอน กลาสแมน, หัวหน้าทีมแพทย์ในชื่อ นีล เมเลนเดซ, เพื่อนร่วมทีมแพทย์ แคลร์ และคาลู ซึ่งปรับความสัมพันธ์จากต้นฉบับให้ฌอนไปหลงรัก ลีอา หญิงสาวที่อยู่ข้างห้องเขาแทน

ส่วนของเส้นเรื่องอื่นๆ ในช่วงแรกเป็นการเล่าแบบเดียวกัน

รีวิวซีรี่ย์ The Good Doctor

การเริ่มงานวันแรกอันแสนลุ้นระทึกของแพทย์ผ่าตัด ฌอน เมอร์ฟี ที่ San Jose St. Bonaventure Hospital เป็นวันเดียวกับที่ผู้อำนวยการเอาตำแหน่งตัวเองเป็นเดิมพันในการให้ฌอนได้ทดลองทำงานเป็นแพทย์ประจำบ้านในแผนกศัลยกรรม ระหว่างเดินทางมาโรงพยาบาล ฌอนได้ช่วยชีวิตเด็กที่ประสบอุบัติเหตุ ฝีมือการปฐมพยาบาลเบื้องต้นในที่เกิดเหตุทำได้ดีจนหมอเมเลนเดซ หัวหน้าทีมของเขายอมรับในฝีมือและยอมให้ฌอนเข้ามาอยู่ในทีมตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งแตกต่างจากเวอร์ชันเกาหลีที่ปาร์คชีอนต้องพิสูจน์ตัวเองอยู่นานกว่าจะได้ผ่าตัดครั้งแรก

การทำความเข้าใจของคนที่ป่วยเป็นโรคนี้เป็นเรื่องค่อนข้างยากสำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้มีคนใกล้เคียงเป็นโรคออทิสติก เพราะคนที่เป็นโรคนี้จะไม่ค่อยสร้างปฏิสัมพันธ์กับใคร ไม่แสดงความต้องการของตนเอง มีปัญหาเรื่องการสื่อสารไม่ว่าจะเป็นการพูดช้า พูดซ้ำ หรือพูดติดๆ ขัดๆ

แต่คนที่เป็นโรคนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีความเก่งในด้านใดด้านหนึ่งอย่างเช่นการมีความจำที่ดีมากกว่าคนอื่น มีทักษะด้านใดด้านหนึ่งที่มีความพิเศษกว่าคนอื่นอย่างเช่นคณิตศาสตร์หรือดนตรี  แต่จะเป็นอย่างไรหากหมอที่จะเข้ามารักษาอาการป่วยให้กับคุณนั้นป่วยเป็นโรคออทิสติก แต่เขานั้นมีความจำและสามารถวิเคราะห์ร่างกายของคุณได้อย่างแม่นยำและยอดเยี่ยม เราขอแนะนำให้รู้จักกับคุณหมอฌอน เมอร์ฟี่

ซีรีส์น้ำดี ชื่อดัง ที่ได้รับความนิยมตั้งแต่ครั้งแรกที่ออกฉายในประเทศเกาหลี จากนั้นก็ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์ มาดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่นอเมริกา และญี่ปุ่น ในเวลาต่อมา เป็นการถ่ายทอดถึงเรื่องราวของนายแพทย์หนุ่มอย่างฌอน เมอร์ฟี่ นายแพทย์อัจฉริยะที่มีความจำเป็นเลิศ และสามารถวิเคราะห์ร่างกายของคนไข้ได้อย่างแม่นยำ

แต่เขานั้นป่วยเป็นโรคออทิสติก

ทำให้มีปัญหาเรื่องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นและการสื่อสาร การที่ซีรีส์หยิบยกเอาประเด็นที่มีความละเอียดอ่อน มานำเสนอนั้นทำให้ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างมาก และด้วยความที่สามารถนำเสนออาการของผู้ป่วยโรคออทิสติกออกมาได้อย่างสมจริงมันจึงช่วยให้คนที่ไม่ได้เจ็บป่วยอย่างเราๆ สามารถเข้าใจผู้ป่วยโรคนี้ได้มากยิ่งขึ้น

ปกติแล้วซีรีส์ส่วนใหญ่มักจะนำเสนอเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นและอุปสรรคก่อนจะแสดงให้เห็นว่าสุดท้ายแล้วตัวละครเอกนั้นก็สามารถจัดการเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะในเรื่องราวที่กล่าวถึงการทำงานภายในโรงพยาบาลที่ส่วนใหญ่แล้วเคสที่เข้ามานั้นก็มักจะประสบความสำเร็จทุกราย

ซึ่งต่างจากความเป็นจริงที่แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์นั้นไม่สามารถที่จะช่วยชีวิตคนไข้ไว้ทุกรายได้สำเร็จ และเราจะได้พบความผิดหวังนี้เช่นเดียวกันในซีรีส์เรื่อง The Good Doctor  ซีรีส์ที่สามารถสะท้อนการทำงานของแพทย์ออกมาได้อย่างสมจริงว่าในการรักษาแต่ละครั้งนั้นพวกเขาจะต้องพบเจอกับอุปสรรคและปัญหาอะไรบ้าง และอะไรที่กลายเป็นปัจจัยที่ทำให้พวกเขานั้นไม่สามารถรักษาคนไข้ได้สำเร็จ และบางครั้งก็ส่งผลให้คนไข้นั้นต้องเสียชีวิต

หากใครที่ได้ติดตาม Netflix ในช่วงแรกๆ ที่เพิ่งเข้าประเทศไทย อาจจะพอคุ้นซีรีส์แนว Psychology thriller เรื่อง “Bates Motel” ที่เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ต้นกำเนิดและต่อยอดมาจากหนังเขย่าขวัญเรื่องดังอย่าง Psycho ในครั้งนี้เขากลับมาพลิกบทบาท และเรียกได้ว่าสร้างชื่อพร้อมคำชมอย่างล้นหลามกับบท คุณหมอชอน เมอร์ฟี่ ศัลยแพทย์หนุ่มที่เป็นออทิสติก เขาถูกพ่อของตนเองฆ่าสัตว์เลี้ยงที่เขารักตายต่อหน้าต่อตา แม่ผู้เป็นที่พึ่งของเขาไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้

ดังนั้นเขาและน้องชายจึงหนีออกจากบ้าน เพื่อดูแลและมีโลกใบใหม่ขึ้นเอง แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ในขณะที่ชอนและน้องชายกำลังเล่นซ่อนแอบในโรงเก็บรถไฟเก่า น้องชายของเขาพลัดตกจากรถไฟเสียชีวิต ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาต้องอยู่ภายใต้การดูแลของ ดร. กลาสแมน และผลันตัวมาเป็นศัลยแพทย์ในที่สุด

อีกตัวละครหนึ่งที่เรียกได้เป็นคนที่จุดประกายความคิด และผู้ที่มีอิทธิพลในการเป็นศัลยแพทย์ของชอน นั่นก็คือ สตีฟ น้องชายเพียงคนเดียวของชอน สตีฟเป็นน้องชายของชอน ซึ่งไม่ว่าชอนจะเจอกับปัญหาอะไร ที่ไหน อย่างไรก็ตาม สตีฟจะคอยช่วยเหลือ และเป็นกำลังใจให้กับเขาเสมอ

ในช่วงเวลาที่ทั้งสองหนีออกจากบ้าน และไปพักอาศัยในรถบัสโรงเรียนเก่าๆ สตีฟได้ให้ของขวัญชิ้นหนึ่งกับชอน นั่นก็คือ กล่องของเล่น ของเล่นในนั้นที่ชอนชื่นชอบและพกมันไว้ตลอดเวลาคือ “มีดผ่าตัดของเล่น” ด้วยของเล่นชิ้นที่สตีฟให้ พร้อมด้วยการสูญเสียของเขา ทำให้ชอนตัดสินใจเป็นศัลยแพทย์

ปกติแล้วซีรีส์ส่วนใหญ่มักจะนำเสนอเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นและอุปสรรคก่อนจะแสดงให้เห็นว่าสุดท้ายแล้วตัวละครเอกนั้นก็สามารถจัดการเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะในเรื่องราวที่กล่าวถึงการทำงานภายในโรงพยาบาลที่ส่วนใหญ่แล้วเคสที่เข้ามานั้นก็มักจะประสบความสำเร็จทุกราย  ซึ่งต่างจากความเป็นจริงที่แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์นั้นไม่สามารถที่จะช่วยชีวิตคนไข้ไว้ทุกรายได้สำเร็จ และเราจะได้พบความผิดหวังนี้เช่นเดียวกันในซีรีส์เรื่อง The Good Doctor

ซีรีส์ที่สามารถสะท้อนการทำงานของแพทย์ออกมาได้อย่างสมจริง รีวิวซีรี่ย์ The Good Doctor 

ว่าในการรักษาแต่ละครั้งนั้นพวกเขาจะต้องพบเจอกับอุปสรรคและปัญหาอะไรบ้าง และอะไรที่กลายเป็นปัจจัยที่ทำให้พวกเขานั้นไม่สามารถรักษาคนไข้ได้สำเร็จ และบางครั้งก็ส่งผลให้คนไข้นั้นต้องเสียชีวิต ภาวะออทิซึ่มทำให้ ดร.ฌอน ไม่สามารถเข้าใจและโต้ตอบมุขตลกได้ (เพราะโต้ตอบแล้วไม่ตลก แต่ในความไม่ตลกนั้นทำให้เราซึ่งเป็นคนดูรู้สึกตลก งงมั้ย?) และไม่สามารถเข้าถึงความรู้สึกของผู้อื่นได้ดีเท่ากับคนปกติ แต่ด้วยพยายามและการเรียนรู้อย่างรวดเร็วของ ดร.ฌอน บวกกับความมีน้ำใจ ช่างสังเกต และพยายามช่วยเหลือผู้อื่นเสมอแม้ต้องเจอกับอุปสรรคแค่ไหนก็ตาม ทำให้ ดร.ฌอน เป็นตัวละครที่ทำให้ใครๆต่างหลงรักและเอาใจช่วย ทั้งเรื่องงานและเรื่องความสัมพันธ์ แถมยังช่วยลุ้นไปกับเรื่องกุ๊กกิ๊กหัวใจของ ดร.ฌอน กับสาวๆอีกด้วย

แต่ในจอด้วยเช่นกัน สิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้ต้องการจะบอกเราเลยคือ “อย่าตัดสินใคร โดยที่เรายังไม่ได้ให้เขาพยายาม” ชอนเป็นศัลยแพทย์ที่เรียกได้ว่าเก่ง ฉลาด อัจฉริยะ หาตัวจับได้ยาก แต่ในมุมหนึ่งเขาก็มีข้อบกพร่องอย่างการสื่อสารและการควบคุมอารมณ์ซึ่งสิ่งนี้ คือด่านใหญ่ที่ชอนจะต้องเรียนรู้และก้าวผ่านมันไปให้ได้ ผ่านการทำงานกับคนหมู่มาก

ในทางกลับกันตัวละครที่อยู่ใกล้ๆ ชอนนั้น ก็ต้องเรียนรู้และเก็บเกี่ยวความรู้สึก และประสบการณ์ที่ได้จากเขาด้วยเช่นกัน นอกจากเรื่องความพยายามและความสามารถแล้ว สิ่งที่เราชอบในซีรีส์เรื่องนี้เลย คงหนีไม่พ้นการ Production และความสมจริงต่างๆ บอกเลยว่าเป็นซีรีส์หมอที่ Real สุดๆ ผ่าเป็นผ่า เลือดเป็นเลือด

และนอกจากเรื่องการปรับตัว ความพยายาม เทคนิคการถ่ายทำ Production ใดๆ สิ่งที่หนังมอบให้กับคนดูอย่างเต็มที่สุดเลย คือหนีไม่พ้น ความอิ่มเอมทางอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมิตรภาพ ครอบครัว ความฝัน หรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์แบบคู่รัก เรียกได้ว่าเรื่องนี้ขนเอาทุกความรู้สึกและทุกห้วงอารมณ์มาให้เราแล้วจริงๆ

อีกประเด็นที่แตกต่างจากต้นฉบับคือการไม่เน้นดราม่าในธุรกิจโรงพยาบาล

แต่กลับพุ่งเป้าไปที่การทำงานโดยแท้ และปรับให้ฌอนเข้าทำงานในแผนกศัลยกรรมแทนที่จะเป็นกุมารเวชศาสตร์ ซึ่งในจุดนี้เอื้อให้เนื้อหาของซีรีส์ไปได้ไกลในแง่ของเคสคนไข้น่าสนใจต่างๆ เพราะตลอดทั้งซีซันเราพบว่ามีความหลากหลายของอาการเจ็บป่วย ทั้งในแง่ของเพศสภาพ ศาสนา เชื้อชาติ ซึ่งก็ตรงกับความตั้งใจของผู้สร้างที่อยากให้ซีรีส์เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นความหลากหลาย ทั้งยังมองว่าตัวละคร ฌอน เมอร์ฟี ไม่ใช่ฮีโร่ แต่เป็นออทิสติกที่พยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ตัวละครนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจคนดูทุกคนได้

หมอที่ดีคืออะไร เราเชื่อว่าทุกตอนของซีซันแรกเป็นการบอกเล่าผ่านการคิดตัดสินใจที่ฌอนได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กับผู้ชม อย่างตอนที่ฌอนต้องทำความเข้าใจคนไข้มะเร็งวัยรุ่นชายที่หัวใจเป็นหญิง หรือเรียนรู้ว่ารอยยิ้มมีความสำคัญอย่างไรสำหรับคนไข้วัยรุ่นสาวที่ไม่เคยแสดงอารมณ์ทางใบหน้าได้มาก่อน รวมไปถึงประเด็นใหญ่ๆ อย่างเช่น ตอนของนักโทษประหารที่ยินยอมสละอวัยวะ เราจะมองเรื่องนี้อย่างไร เขาหาโอกาสหลบหนีระหว่างมาโรงพยาบาลหรืออยากทำอะไรไถ่โทษจริงๆ สำหรับคนไข้ เขาจะเปิดใจยอมรับอวัยวะจากนักโทษประหารหรือไม่