รีวิว Moon Knight

 รีวิวซีรี่ส์ฝรั่ง  อันนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ ‘ออสการ์ ไอแซก’ เลยครับ ที่สามารถแบกเกือบทั้งอีพีได้อย่างเข้าถึง และระเบิดฟอร์มได้น่าประทับใจกันตั้งแต่อีพีแรกเลย เป็นทั้งคุณสตีหวีผู้อ่อนโยน และเป็นทหารรับจ้างผู้โหดเหี้ยม บ้าคลั่งได้ในเวลาเดียวกัน อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ‘อีธาน

แบบการนำเสนอให้มีความแปลกใหม่ มีความเฉพาะตัว เพื่อรักษาสมดุลของคนดู ระหว่างมือใหม่หัด Marvel กับแฟนเดนตายให้ไม่หนีจากกันมาก ถ้าเอาตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือ ซีรีส์ลำดับที่แล้วอย่าง ‘Hawkeye’ (2021) ก็มีความเป็นซีรีส์กลิ่นอายคริสต์มาสแบบเต็ม ๆ และพอมาถึงซีรีส์อันดับที่

รีวิว Moon Knight

6 อย่าง ‘Moon Knight’ หรือ ‘มูนไนต์’ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Marvel เลือกหยิบเอาคาแรกเตอร์ซูเปอร์ฮีโรที่มีธีมของความเป็นอียิปต์โบราณ และผสมผสานกับคาแรกเตอร์ที่มีปัญหาทางจิต มีอาการโรคหลายบุคลิก (Dissociative Identity Disorder-DID) และเรื่องราวต้นฉบับอันสลับซับซ้อนที่ว่า

ด้วยตัวละครที่มีบุคลิกซับซ้อน เสมือนว่ามีอีกคนมาอาศัยร่างอยู่มานำเสนอ โดยในซีรีส์ได้ทีมผู้กำกับ 3 คนมาร่วมกันกำกับมินิซีรีส์ความยาว 6 ตอนนี้ ทั้ง ‘จัสติน เบนสัน’ (Justin Benson) และ ‘อาร์รอน มัวร์เฮด’ (Aaron Moorhead) ผู้กำกับคู่หูจากภาพยนตร์ ‘Synchronic’ (2019) และ

รีวิว Moon Knight

โมฮัมเหม็ด ดิอับ’ (Mohamed Diab) ผู้กำกับชาวอียิปต์แต๊ ๆ ที่เคยกำกับภาพยนตร์ ‘Clash’ (2016) มารับหน้าที่กำกับ Ep.1 ก่อนใครเพื่อน และยังมี ‘เจเรมี สเลเตอร์’ (Jeremy Slater) ผู้ผ่านงานเขียนบท ‘The Umbrella Academy’ (2019) และ ‘Fantastic Four’ (2015) มารับหน้าที่เขียน

บท เนื้อเรื่องของอีพีแรกว่าด้วย ‘สตีเวน แกรนต์ / มาร์ก สเปกเตอร์ / มูน ไนต์’ (Oscar Isaac) พนักงานขายของที่ระลึกในพิพิธภัณฑ์อียิปต์ ผู้มีความรู้ด้านอียิปต์โบราณแบบแฟนพันธุ์แท้ สตีเวนประสบปัญหาประหลาด เมื่อเขาหลับ เขามักจะไปตื่นในสถานที่แปลก ๆ ที่ไม่คุ้นเคย แถมยิ่งนาน

รีวิว Moon Knight

เข้า เขาก็ยิ่งเข้าไปพบเจอกับสถานการณ์ที่ยิ่งแปลกยิ่งกว่า แถมตัวเขาดูเหมือนจะมีเสียงอะไรบางอย่างมาบงการเขาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็น่าจะเป็น ‘คอนชู’ (พากษ์เสียงโดย F. Murray Abraham) เทพแห่งจันทราตามตำนานอียิปต์ นั่นก็เลยทำให้เขาเริ่มมีพฤติกรรมแปลกแยกจากคนอื่น ๆ แถม ดูหนัง

รีวิว Moon Knight

รีวิว Moon Knight ยังดูเป็นคนความจำสั้นไปเสียอย่างนั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาถึงเริ่มพบว่า ชีวิตของเขาเริ่มเหมือนมีใครอีกคนเข้ามาอาศัยร่างของเขาอยู่ อาการหลากบุคลิกเริ่มส่งผลร้ายต่อตัวเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งการทำอะไรแบบไม่ตั้งใจ การที่ ‘เลย์ลา’ (May Calamaw) โทรมาหาเขา (มาแต่เสียงใน Ep

แรก) แถมคอนชู และ ‘อาร์เธอร์ แฮร์โรว์’ (Ethan Hawke) เจ้าลัทธิผู้นับถือเทพเจ้าอัมมิต (Ammit) ผู้พิพากษาความถูกต้องตามความเชื่อแบบอียิปต์โบราณ และเมื่อทุกอย่างดันโผล่มาในโลกจริง เขาเองจึงได้ค้นพบว่า เขามี ‘มาร์ก สเปกเตอร์’ ทหารรับจ้างและอวตารเทพเจ้าอียิปต์ มา

อาศัยร่างอยู่จริง ๆ จึงทำให้เขาต้องยอมให้มาร์กมาอาศัยร่างเพื่อให้รอดตาย

สิ่งแรกที่ผู้เขียนพอจะสัมผัสได้เมื่อได้ชม Ep.1 ก็คือ ด้วยความที่ ‘Moon Knight’ เองนั้นเป็นฮีโรจาก Marvel Comics ที่ไม่เคยถูกหยิบเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์ หรือแม้แต่ปรากฏตัวใน MCU มาก่อน ตัวเนื้อหาก็ ดูหนังออนไลน์

เลยไม่ได้อ้างอิงหรือเชื่อมโยงเนื้อหาใน MCU มากนัก แม้ว่าดูจะไม่ค่อยมีอะไรแบบนี้ แต่ก็แอบมี Easter Egg ที่พอจะอ้างอิงได้ว่า มันเป็นเหตุการณ์หลังจากซีรีส์ ‘Hawkeye’ (2021) นั่นแหละนะครับ และยังไงก็น่าจะมี Easter Egg ไปถึงซีรีส์ Marvel เรื่องอื่น ๆ ทั้งเรื่องราวในอดีต

หรือแม้แต่เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วยก็อาจเป็นไปได้นะครับ ต้องลองดูอีพีต่อ ๆ ไปกันอีกที สำหรับผู้เขียน สิ่งที่โดดเด่น นอกจากโปรดักชัน ซีจี การถ่ายทำ ที่ทำได้ถึงตามมาตรฐานซีรีส์

Marvel แล้ว สิ่งที่เป็นจุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ การวางคาแรกเตอร์ให้กับ ‘ออสการ์ ไอแซก’ (Oscar Isaac) ต้องแสดงเป็นถึง 3 คาแรกเตอร์ แถมแต่ละตัวยังเข้า ๆ ออก

ๆ แบบไร้กระบวนท่าเสียด้วย มันก็เลยทำให้ตัวละครตัวนี้มีความซับซ้อนและเข้าใจยากกว่าฮีโรตัวอื่น ๆ ใน MCU อยู่พอสมควร รวมทั้งในบทของสตีเวน ก็มีความแตกต่างจากตัวเอกฮีโรเรื่องอื่น ๆ ไปอีก เพราะถ้า ดูหนังฟรี

เอาตามคอมิก สตีเวนจริง ๆ แล้วเป็นถึงมหาเศรษฐี แต่ในซีรีส์มีการเปลี่ยนให้สตีเวนเป็นเพียงชายหนุ่มพนักงานร้านกิฟต์ชอป นิสัยติ๋ม ๆ อ่อนโยน ไร้พิษภัย เงอะงะ สู้ชีวิตแต่โดนชีวิตสู้กลับอะไรแบบนั้น แทนที่จะมีความ Masculine มีความเป็นชายแบบช้ายชายมาก ๆ เหมือนฮีโรคนอื่น ๆ

ซึ่งอันนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ ‘ออสการ์ ไอแซก’ เลยครับ ที่สามารถแบกเกือบทั้งอีพีได้อย่างเข้าถึง และระเบิดฟอร์มได้น่าประทับใจกันตั้งแต่อีพีแรกเลย เป็นทั้งคุณสตีหวีผู้อ่อนโยน และเป็นทหารรับจ้างผู้โหดเหี้ยม บ้าคลั่งได้ในเวลาเดียวกัน อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ อีธาน

ไร้กระบวน

รีวิว Moon Knight ฮอว์ก’ (Ethan Hawke) ผู้รับบท ‘อาร์เธอร์ แฮร์โรว์’ (aka. อาจารย์แดงกีตาร์เจ้าเก่า) ที่ตามคอมิก เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้พิการครึ่งซีก แต่ในซีรีส์ เขากลายเป็นเจ้าลัทธิผู้มีเทพเจ้าอัมมิต และการมุ่งพิพากษาคนชั่วเป็นที่ยึดถือ (แอบคล้าย ๆ ธานอสนะเนี่ย) แม้ว่าเราจะยังไม่ได้เห็นเขาเฉิด

ฉายในอีพีแรกมากนัก แต่พลังการแสดงของเขาก็เรียกได้ว่า มีเสน่ห์ น่าเกรงขาม ชวนให้และสงสัยในบทบาทของเขาในอีพีต่อ ๆ ไปได้แบบว่า “กระตุกจิตกระชากใจ” เสียเหลือเกิน ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ การออกแบบโปรดักชันดีไซน์ที่เรียกว่าทำน้อยแต่ได้มากครับ โดยเฉพาะการหยิบธีม

ตำนานอียิปต์โบราณมาเล่า มันก็เลยทำให้ได้กลิ่นอายการผจญภัย ผสมกับความสยองขวัญแบบอียิปต์ ที่ชวนให้นึกถึงหนังเรื่อง ‘The Mummy’ (1999) ขึ้นมาได้เลยแหละ คนชอบเรื่องราวตำนานอียิปต์น่าจะปลื้มได้ไม่ยาก

เพราะตัวซีรีส์พยายามใส่รายละเอียดเกี่ยวกับตำนานอียิปต์โบราณเข้ามาได้อย่างพอดิบพอดี ไม่ได้เยอะจนดูเบี้ยว แต่ก็ไม่ได้น้อยซะจนมีแต่ลม ๆ แล้ง ๆ รวมทั้งการใส่รายละเอียดต่าง ๆ เว็บดูหนัง

เพื่อสะท้อนเรื่องราวความสับสนบ้าคลั่งภายในเรื่อง และการแฝงปริศนาให้รอการค้นพบในอีพีต่อ ๆ ไป ก็ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีความน่าสนใจอยู่พอสมควร ทั้งซีนแรกที่ ‘อาร์เธอ

ร์ แฮร์โรว์’ ปรากฏตัว การใช้ภาพสะท้อนกระจกและผืนน้ำ หรือแม้แต่ชื่ออีพี ‘The Goldfish Problem’ ก็สามารถเชื่อมโยงไปที่อาการหลง ๆ ลืม ๆ ของสตีหวี หรือแม้แต่เจ้ากัส ปลาทองที่เขาเลี้ยงก็ได้ด้วย ซึ่งจริง ๆ มีการแฝงปริศนาให้รอการค้นพบในอีพีต่อ ๆ ไปด้วย ต้องลองไปส่องดู และ

ความโดดเด่นอีกอย่างคือวิธีการดำเนินเรื่อง และวิธีการตัดต่อครับ ด้วยความที่ตัวละครและเรื่องราวที่มีความซับซ้อนอยู่ระดับหนึ่ง มันก็เลยแอบทำให้ผู้เขียนมีความงง ๆ กับบางซีนนิดหน่อย แต่โดยรวมวิธีการเล่าถือว่าทำได้โอเคและไม่สับสนเลย ค่อย ๆ ไต่ระดับความเดือดจากน้อยไปมาก

ได้แบบสุดมาก โดยเฉพาะการตัดต่อให้เห็นการที่สตีเวนถูกมาร์กสิงเข้าร่างแล้วทำอะไรห่าม ๆ แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ที่แม้จะชวนให้สับสนอยู่บ้างในทีแรก แต่ก็ถือว่าเป็นวิธีการที่โดดเด่น และทำให้การดำเนินเรื่องโดยรวมออกมาไหลลื่นมาก เว็บดูหนังฟรี